ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 202

น่าหลานฮั่วซินต้องการให้นางแม้นตายก็ไม่อาจให้ดินกลบ ไม่มีเนื้อหนัง ไม่มีเลือดและเส้นเอ็น ถูกรุมทึ้งจนเหลือแต่กระดูก สุดท้ายยังต้องถูกเจ้าสำนักเดือนหยินใช้งาน ต่อไปยังไม่รู้ว่าจะถูกส่งไปทำเรื่องเลวร้ายอะไร

ยังมีอะไรที่ชั่วช้า โหดเหี้ยมกว่านี้อีกไหม?

แม้กับน่าหลานตันเอ๋อร์ นางก็แค่ทำร้ายนางเท่านั้น แส้ทองฟ้าร้องก็เป็นเฉินซ่าที่ทำลาย! แต่ถึงนางจะทำลาย ก็มิได้สังหารคนทั้งตระกูลนางหรือฉุดคร่านางร้อยครั้งสักหน่อย น่าหลานฮั่วซินจำเป็นต้องโหดเหี้ยมกับนางเช่นนี้เลยหรือ?

ปมแค้นนี้แน่นอนแล้ว

จากนี้นางจะไม่ขอร่วมอยู่กับเขาเวิ่นเทียนอีก ขอเพียงเป็นคนของเขาเวิ่นเทียน นางก็จะ ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!

"พูด! หนอนดอกเมฆนี้มีวิธีกำจัดได้หรือไม่? "

"เออ... เรื่องนี้ข้าไม่รู้จริงๆ..." ชายผู้นั้นเห็นกับตา ว่าหญิงงามมีลมหายใจเย็นเฉียบอำมหิตในพริบตาเดียว เฉกเช่นอสุราในนรก เขาตกใจจนฉี่แทบราด "แม่นางไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยแค่กินยาป้องกันหนอนของเจ้าสำนักเดือนหยินเท่านั้น อย่างอื่นไม่รู้จริงๆ นะ!"

เพิ่งสิ้นเสียงคำว่า 'นะ' แสงขาวแวบ มือหนึ่งโหลชีปาดศีรษะเขากระเด็นออกไปแล้ว

ศีรษะนั้นกลิ้งไปไม่ไกล ทันใดนั้นหมอกขาวก็เข้าไปห้อมล้อม ราวกับจะมุดเข้าไปในศีรษะอย่างนั้น โหลชีรู้ นั่นมิใช่หมอกจริงๆ แต่เป็นหนอนดอกเมฆกลุ่มหนึ่งต่างหาก

"น่าหลานฮั่วซิน เจ้าสำนักเดือนหยิน"

หากไม่มีเรื่องในตอนหลัง นางก็คงถูกหลอกจริงๆ คิดว่าเจ้าสำนักเดือนหยินตายแล้ว

คิดไม่ถึง นางมารเฒ่าคนนั้นจะแสดงได้ดีเยี่ยงนี้!

แต่พวกน่าหลานฮั่วซินก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าตัวนางจะมีดีจิ้งจอกมาร! หากไม่มี ก็ไม่แน่ว่านางจะถูกหนอนดอกเมฆ และเพราะเริ่มแรกไม่รู้ สามวันให้หลังก็กลายเป็นใยหนอน และทุกอย่างก็จะสายไปเสียแล้ว

ก็เพราะน่าหลานฮั่วซินมั่นใจว่าอีกสามวันนางต้องตายแน่ จึงไม่กลัวว่านางจะตามมา ดังนั้นตามเส้นทางนี้ก็ถูกต้องแล้ว

หากพวกเวิ่นเจี้ยนต้องการได้ความไว้เนื้อเชื่อใจจากโหลวซิ่น เช่นนั้นเวลานี้พวกเขาก็น่าจะยังอยู่ในป่าดอกเมฆจึงจะถูก เฉิงสิบก็น่าจะอยู่กับพวกเขา แน่นอน เพื่อให้พวกเขาเห็นกับตาตัวเองว่านางถูกหนอนดอกเมฆตายแล้ว หลังจากพวกเขาเล่นละครต่อหน้าโหลวซิ่นพอแล้ว ก็ต้องพาพวกเขากลับมาหานางแน่ สำหรับเฉิงสิบจะถูกหนอนดอกเมฆด้วยหรือไม่ ขอเพียงนางยังอยู่ นางยังไม่ตาย เช่นนั้นนางก็ต้องคิดหาวิธีช่วยเขา เวลานี้รีบร้อนไปก็เปล่าประโยชน์

ครั้นคิดได้แล้ว โหลชีก็ไม่รีบร้อนตามหาพวกเขา เมื่อครู่นางใช้คาถาวาโยที่เป็นคาถาชนิดผลาญกำลังภายใน เสียกำลังภายในไปมาก ตอนนี้ต้องเร่งฟื้นฟูก่อน

โหลชีนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นดอกเมฆ พยายามปรับลมหายใจคืนกำลัง ประมาณหนึ่งก้านธูป ใบหูของนางก็กระดิก ได้ยินเสียงฝีเท้าอีกครั้ง

เป็นอย่างที่คิด นางเพิ่งลืมตาขึ้นก็เห็นเวิ่นเจี้ยน เวิ่นโม่ เฉิงสิบและโหลวซิ่นเดินเร็วเข้ามา

"แม่นางรีบลุกขึ้นเร็ว บนต้นไม้มีหนอนอยู่!"

ครั้นเฉิงสิบเห็นนางก็พูดขึ้นอย่างร้อนรน

ดวงตาโหลชีแวบแสงหนึ่ง เฉิงสิบรู้แล้ว นั่นมิได้หมายความว่าเขายังไม่ถูกหนอนดอกเมฆหรือ? แต่เป็นไปไม่ได้ พวกเขาเข้ามานานขนาดนี้แล้ว มีหนอนอยู่เต็มไปหมด หากจะถูกหนอนก็ถูกไปนานแล้ว นอกเสียจากเขาจะไม่รู้ตัว หรือเขากับโหลวซิ่นต่างคิดว่ายาเม็ดนั้นออกฤทธิ์แล้ว

จะว่าไปขณะที่พวกเวิ่นเจี้ยนพูดถึงป่าดอกเมฆกับยานั้นก็วางกับดักเอาไว้แล้ว กลิ่นหอมของป่าดอกเมฆอาจมีผลอย่างที่เขากล่าว แต่พวกเขาบอกเพียงเรื่องเดียว หลีกเลี่ยงไม่เอ่ยถึงหนอนดอกเมฆ ให้ยานั้น ทำให้พวกเขานึกว่ากินยาแล้ว หลังจากเข้าป่าจะไม่เป็นไร สติจะไม่พร่าเบลอ จะไม่วิงเวียนราวกับดื่มสุรา แต่นึกไม่ถึงว่าในไอหมอกเหล่านั้นจะมีหนอนมากมายเพียงนี้

ด้วยเหตุนี้ แม้เข้าป่าแล้วพวกเขาก็ยังระมัดระวัง แต่เรื่องที่ระวังกับจุดที่ให้ความสำคัญนั้นไม่ถูก กลิ่นดอกไม้ฉุนจนทำให้ทนไม่ไหว ทำให้พวกเขาสับสน

"เฉิงสิบมาพยุงข้าหน่อย ขาชาไปหมดแล้ว" โหลชีเอ่ยเรียบ

โหลวซิ่นกับเวิ่นเจี้ยน เวิ่นโม่ก็เข้ามาด้วย

โหลชีเกี่ยวข้อมือของเฉิงสิบ อาศัยกำลังลุกขึ้นยืน แต่กลับจับมือไว้ตลอดมิปล่อย

"เวิ่นฉินกับเวิ่นซูล่ะ?" โหลชีเอ่ยถาม

เป็นอย่างที่คิด โหลวซิ่นเอ่ยด้วยความเศร้าใจเล็กน้อย "เพื่อช่วยข้าน้อย เวิ่นฉินกับเวิ่นซูตายแล้วขอรับ"

"เหรอ ตายอย่างไรล่ะ?" โหลชีเลิกคิ้ว

"ป่าดอกเมฆแห่งนี้ประหลาดมาก ก็ไม่รู้ว่าใครทำค่ายกลไว้ แถมยังมีหนอนดอกเมฆอยู่เต็มไปหมด พอพวกเราเข้าค่ายกลมา ก็มีหนอนดอกเมฆกลุ่มใหญ่บุกโจมตี เวิ่นฉินกับเวิ่นซูบังอยู่ด้านหน้าข้าน้อย ถูกหนอนดอกเมฆกลืนไปขอรับ" โหลวซิ่นพูดถึงแล้วยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่หน่อยๆ หนอนดอกเมฆกลุ่มขาวห่อหุ้มทั้งสองไว้ ไม่นานทั้งนางก็อันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตา

หายไปจริงๆ

โหลชีพลันหัวเราะเย็น หนอนดอกเมฆเข้ารุกด้วยรูปแบบนี้หรือ? มิสู้บอกว่าเป็นคาถาพรางตา ดึงตัวเวิ่นฉินกับเวิ่นซูออกไปจะดีกว่า เวลานี้ก็ไม่รู้ว่าสองคนไปหลบที่ไหนแล้ว

เวิ่นเจี้ยนกับเวิ่นโม่มองนาง ดวงตามีความเจ้าเล่ห์

เวิ่นเจี้ยนกับเวิ่นโม่สบตากันทีหนึ่ง

ถักมงกุฎดอกไม้? ผู้หญิงที่จะตายอยู่รอมร่อแล้วยังใสซื่อเหลือเกินคนนี้ ช่างเปลืองสมองเทพธิดาเสียจริง

สายตาที่เวิ่นโม่มองโหลชีเจือความดูถูกเล็กน้อย

ดังนั้นทั้งสองคนหนึ่งไปเก็บฟืน ส่วนอีกคนก็ไปหาของกิน โหลชีฉุดมือเฉิงสิบเดินไปข้างหน้า แล้วหยุดอยู่ตรงกลางดอกไม้แถบนั้น โหลวซิ่นเลือกเด็ดดอกไม้ที่บานได้สวยที่สุดรอบๆ เมื่อนั้นโหลชีก็รู้สึกถึงลมหายใจบางสองสาย ในสองจุดที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา

เวิ่นฉิน เวิ่นซู

กำลังจดจ้อง รอให้ร่างกายนางมีใยหนอนออกมานับไม่ถ้วนหรือ?

"แม่นาง มีอะไรผิดปกติหรือ?" เฉิงสิบกดเสียงลงต่ำ

"เฉิงสิบ เจ้าคิดดูให้ดี หลังจากพลัดหลงกับข้าแล้ว ร่างกายเจ้ามีอะไรผิดปกติหรือไม่?" เวลานี้โหลชีกลัวว่าร่างกายเฉิงสิบจะมีแต่หนอนดอกเมฆพวกนั้นแล้ว เยอะแถมเล็กขนาดนั้น นางไม่รู้ว่าจะจัดการกับเจ้าพวกนี้อย่างไรจริงๆ

ครั้นเฉิงสิบเห็นสีหน้านางเคร่งเครียด จึงหวนคิดอย่างละเอียด พักหนึ่งเขาก็ขมวดคิ้ว "มีพักหนึ่ง ข้าน้อยรู้สึกคันยุบยิบที่หัว คอ กับตามตัว ความรู้สึกอย่างกับถูกมดแมลงกัดขอรับ" เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนพลัน นึกถึงหนอนดอกเมฆที่ลอยปลิวอยู่ทั่วท้องฟ้า "แต่...พอข้าน้อยรู้สึกแปลกๆ ก็ใช้กำลังภายในคุ้มกายทันที หนอนพวกนั้นน่าจะเข้าร่างกายข้าน้อยไม่ได้จึงจะถูก" "กำลังภายในคุ้มกาย?" โหลชีตะลึง

เฉิงสิบพยักหน้า "กำลังภายในคุ้มกายนี้ได้รับการถ่ายทอดจากฝ่าบาท อัดแน่นกำลังภายในเป็นเกราะคลุมร่างกาย สามารถรักษาชีวิตในยามคับขันได้ แต่ก็ผลาญกำลังภายในมากเช่นกัน หากมิใช่เพราะก่อนหน้านี้เห็นหนอนพวกนั้นมีมากเกินไป ข้าน้อยก็จะไม่ใช้วิชานี้หรอกขอรับ"

คิดไม่ถึงว่าเฉินซ่าจะถ่ายทอดวิชาเช่นนี้ให้กับพวกเขา!

นี่ก็ผลาญกำลังภายในเหมือนกับคาถาวาโยของนางสินะ แต่ตอนนี้นางรู้สึกโชคดีมากที่เฉิงสิบมีวิชาพรรค์นี้อยู่! เพียงแต่...นางก็รู้ ขณะที่เขารู้สึกผิดปกติ ก่อนจะใช้กำลังภายในคุ้มกายก็มีหนอนดอกเมฆเข้าสู่ร่างกายเขาเรียบร้อยแล้ว มิเช่นนั้นเขาก็จะไม่รู้สึกคันยุบยิบอย่างนั้น

ดีที่น่าจะน้อยกว่าที่นางคิดไว้มาก

โหลชีรู้สึกว่าลมหายใจทั้งสองเข้าใกล้มาอีกหน่อยแล้ว เป็นเพราะอยู่ไกลไม่ได้ยินการสนทนาของพวกเขา ก็เลยต้องขยับเข้าใกล้เพื่อฟังให้ชัดหรือ?

ดวงตานางแวบจิตสังหาร ทันใดนั้นก็ดึงเฉิงสิบ เข้าไปใกล้ศีรษะของเขา เขย่งปลายเท้า ริมฝีปากขยับที่ข้างใบหูเขา

เฉิงสิบพยักหน้านิดๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ