เวลานี้ มังกรร้ายพลันร้องขึ้นเสียงดังอย่างตกใจว่า "มีคนตกลงมาจากท้องฟ้าแล้ว!"
ก่อนที่เขาจะส่งเสียง เฉินซ่าได้เงยหน้าขึ้นไปมองแล้ว พอเห็นหัวใจเขาที่ฆ่าจนด้านชาไร้ใครเทียมก็สั่นกระตุก
ร่างที่หล่นลงมาจากฟ้านั้นช่างคุ้นเคยนัก
เขารีบสะบัดโซ่ทิ้ง โซ่ออกไปโดนตาข่ายที่ทหารม้าโซ่อัปรีย์ถักทอขึ้น ทำให้เขาอาศัยแรงนั่น ยื่นมือขึ้นไปโอบกอดคนผู้นั้น
กอดนางไว้แน่น ร่างพลันร่วงลง
พวกมังกรร้ายต่างพากันตกใจอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น
พวกที่มือดึงโซ่ หรือพวกที่ถือคบไฟล้อมกรอบมองดูอยู่ แต่ละคนเบิกตากว้างราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน เหตุใดจึงมีคนร่วงหล่นลงมาจากฟ้าได้?
สตรีผู้หนึ่ง!
จากมุมนั้นมังกรร้ายเห็นใบหน้าสตรีผู้นั้น สตรีที่งดงามยิ่งหลับตาสนิท
พระสนมแห่งพั่วอวี้!
พวกเขาอยู่ในพั่วอวี้ มังกรร้ายย่อมต้องใส่ใจเรื่องของตำหนักจิ่วเซียวเป็นอย่างมากอยู่แล้ว แทบจะทุกอำนาจล้วนพากันสืบหาข้อมูลหน้าตาของโหลชีหลังจากที่เฉินซ่าประกาศแต่งตั้งพระสนม พวกเขาส่วนมากไม่รู้ตบะวิทยายุทธ์ของโหลชี เพราะความดีความชอบเหล่านั้นที่นางสร้างพวกเขาไม่รู้ว่าต้องใช้เรี่ยวแรงไปเท่าไหร่ และก่อนหน้านี้โหลชีไม่มีชื่อเสียงเลยสักนิด นางปรากฏตัวออกมาดื้อๆ คนส่วนมากต่างคิดว่านางแค่หน้าตางดงามและมีมันสมองเล็กน้อย สิ่งที่ถนัดที่สุดคงจะเป็นพวกการควบคุมสัตว์กระมัง แต่กลับทำเฉินซ่าหลงใหลโงหัวไม่ขึ้น ถึงกับพูดว่าต้องการสตรีเยี่ยงนางคนเดียว น่าขบขันยิ่งนัก
แต่ว่าไม่รู้ว่าคนมากมายเพียงใดต่างเห็นโหลชีเป็นจุดอ่อนของเฉินซ่าไปแล้ว คนที่อยากฆ่านางมีมากมายนัก
มังกรร้ายไม่เพียงกระหายการฆ่า ยังชมชอบสตรียิ่ง พอเห็นหน้าตาโหลชี น้ำลายเขาก็ไหลไม่หยุด เขายังไม่เคยเห็นสตรีใดสวยงามเพียงนี้มาก่อน! และยิ่งเห็นเสื้อผ้าที่โหลชีสวมใส่ ร่างกายเขาพลันร้อนรุ่มทันที
เพราะเห็นเป็นโหลชี เขาจึงเมินเฉยกับเรื่องที่จู่ๆนางก็หล่นลงมาจากท้องฟ้าเอาดื้อๆไปเลย
"พี่น้องทั้งหลาย ฆ่าเฉินซ่าซะ! สตรีของเขาข้าไม่ถือสาจะนอนให้แทนเขาเอง!"
เทียนยีและตี้เอ้อร์สะท้านชั่วครู่ เจ้าหมอนี่ใจกล้ามาจากไหน? กล้าพูดจาเช่นนี้! พวกเขาสามารถคาดเดาได้เลยว่า มังกรร้ายจะตายอย่างน่าอนาถแค่ไหน!
เฉินซ่ากอดโหลชีนั่งลงบนหลังม้า สายตาเย็นเยียบของเขาปรายมองหน้ามังกรร้าย และดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว ในตอนที่ปรายตามาถึงหน้าโหลชี สายตาเย็นเยียบนั่นพลันมลายไป
เขาไม่คิดเลยว่าโหลชีจะหล่นลงมากลางอากาศอีก และครั้งนี้ก็หล่นลงมาในอ้อมกอดเขาอีก!
"นี่มิใช่เป็นการบอกหรอกรึว่า เจ้าถูกกำหนดไว้แล้วต้องเป็นสตรีของข้า?" ริมฝีปากบางกระซิบข้างหูนาง ใช้เสียงที่มีแต่นางเท่านั้นที่ได้ยิน
ใบหน้าเย็นชาเรียบเฉยมาทั้งคืนของเฉินซ่าพลันมีรอยยิ้มขึ้น ถึงเขาจะเป็นบุรุษ แต่ขนาดพวกมังกรร้าย ยังตาพร่าไปกับรอยยิ้มนี้ของเขา
แต่รอยยิ้มนี้ไม่นานก็หายไป โหลชีหล่นลงมาจากท้องฟ้าอีก แสดงว่าอะไร? แปลว่าอะไร?
แปลว่านางกลับไปอีกแล้ว!
กลับไป "ที่แห่งนั้น" ที่ที่เขาเองก็มิรู้ว่าอยู่ที่ใด เขาไปไม่ได้ และไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ! นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เขากอดนางไว้ ในใจเขายังคงหวาดหวั่น นางกลับไปอีกแล้ว หากนางมิกลับมาเล่าจะทำเช่นใดดี?
เวลานี้เขาถึงได้เห็นเสื้อผ้าของโหลชี และรีบกอดนางไว้แน่นทันที
เสื้อผ้าเยี่ยงนี้คราก่อนยามนางหล่นลงมาในอ้อมกอดเขานางก็เคยใส่ ทำไมตอนนี้กลับมาใส่อีกแล้วเล่า?
เสื้อตัวบนรัดรูป กางเกงรัดรูป ฉายชัดถึงทรวดทรงองค์เอวนางทั้งตัว! คนยุคโบราณไม่มีทางเข้าใจกางเกงยีนส์รัดรูปเอาต่ำและเสื้อรัดรูปคอต่ำหรอก!!!
เพราะการฝึกฝนและการออกกำลังกายตั้งแต่เล็กของโหลชี ทำให้เรือนร่างของนางอรชรงดงามยิ่ง ทุกสัดส่วนล้วนเรียบเนียนเป็นพิเศษ จุดเนินสูงดึงดูดคนยิ่งนัก สัดส่วนเยี่ยงนี้ยามใส่ชุดโบราณที่เทอะทะพลิ้วไหวย่อมซ่อนไปได้หลายส่วน โดยเฉพาะสองขาเรียวยาวตรงของนาง ยามใส่ชุดโบราณก็มองไม่เห็นแล้ว แต่นี่มันชุดยีนส์รัดรูปนะ ที่รัก รู้ไหมว่าอะไรคือสไตรส์ที่วิเศษและทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่นน่ะ? การปฏิรูปที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่นก็คือ การถือกำเนิดของกางเกงยีนส์ไงล่ะ!
เล่านอกเรื่องไปไกลละ
ยังไงซะให้คนโบราณคนหนึ่ง ไม่สิ ผู้ชายยุคโบราณมาเจอโหลชีในชุดกางเกงยีนส์รัดรูป คงรู้นะว่าจะตกตะลึงกันแค่ไหน?
เฉินซ่าใกล้จะธาตุมารเข้าแทรกละ
บัดนี้เป็นฤดูร้อน เขาไม่ได้ใส่เสื้อคลุม มิเช่นนั้นเขาต้องรีบเอาเสื้อคลุมห่อร่างนางไว้มิดชิดแน่!
แต่ว่า.....
สายตาของเขาปรายมองมังกรร้าย และปรายตามองคนเกือบร้อยที่เหลือ มีไอหมอกดำมืดอาฆาตออกจากดวงตานั้น คนพวกนี้ต้องตาย!
เดิมเขาก็ไม่คิดจะปล่อยคนพวกนี้อยู่แล้ว แต่ก่อนหน้าที่โหลชียังไม่ตกจากฟ้า ความอาฆาตของเขายังไม่หนักขนาดนี้ คำพูดเมื่อครู่ที่มังกรร้ายพูด รวมถึงโหลชีหล่นลงมาอีกครั้ง และเสื้อผ้าของนาง สิ่งเหล่านี้ทำให้ในใจเขาเกิดความวุ่นวายบ้าคลั่งดุจพายุร้าย
"เทียนยี"
เขากอดนางไว้แน่น แต่กลับเรียกชื่อลูกน้อง
"ฝ่าบาท ข้าน้อยอยู่ขอรับ"
เทียนยีเหลือบตามองขึ้นไป เห็นสายตาเฉินซ่ากดลงมา เขาพลันเข้าใจทันทีในความหมายของฝ่าบาท และพยักหน้าแผ่วเบา
ตี้เอ้อร์ยืนป้องกันหน้าเทียนยี ถ้ามีหลุดรอดมาจากฝั่งเฉินซ่าเขาจะฆ่าทิ้งทันที
พวกเขาเองก็ไม่คิดว่าฝ่าบาทจะกล้าแกร่งเพียงนี้
เทียนยีตี้เอ้อร์ไหนเลยจะรู้ว่า คนพวกนี้ใช้สายตาเยี่ยงนั้นมองโหลชี เฉินซ่าก็ไม่มีทางละเว้นชีวิตพวกเขาได้ดอก
กระบี่ยาวสะบัด รังสีกระบี่คมกริบ ฟันขาดขาหน้าของม้างามไปหลายตัวพร้อมกัน ม้าร้องโหยหวน ล้มระเนระนาดไปตามๆกัน เหล่าคนบนม้าไม่ทันตั้งตัวหล่นจากหลัง บางคนถึงกับกระเด็นลอยออกไป
"อุ๊..." เสียงของโหลชีพอดีโดนเสียงร้องโหยหวนของม้าตัวนั้นกลบเอาพอดี นางตื่นขึ้นมา และรับรู้ได้ทันทีถึงที่ที่นางอยู่ ---บนหลังม้า
ด้านข้างมีคน มือเขากำลังพยุงไหล่นางแผ่วเบา
นางสัมผัสได้ว่าคนนี้ไม่ได้คิดร้าย ในเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของคนและม้ารอบข้าง ได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง นางรีบลืมตาขึ้นทันที
เทียนยีไม่กล้าสัมผัสตัวนางมาก ดังนั้นจึงได้แต่ใช้มือหนึ่งพยุงไหล่นางไว้ เห็นนางตื่นขึ้นมา ก็ดีใจมาก "พระสนม!"
"อืม" โหลชีเห็นสถานการณ์ด้านหน้าชัดเจนในตอนที่เขาออกเสียง นางเห็นคนหนึ่งลงจากหลังม้าพอดี เขาถือขวดหนึ่งและคบไฟเดินไปอีกทางด้วยท่าทางลับๆล่อๆ
โหลชีนั่งหลังตรงทันที เพราะนางเห็นคนคนนั้นเทของเหลวสีแดงในขวดลงบนคบไฟเล็กน้อย คบไฟนั้นไม่ดับ แต่กลับยิ่งลุกไหม้มากกว่าเดิม! จากนั้นพวกเขาก็จุดคบไฟเพิ่มมากขึ้น
ไฟของคบไฟเหล่านั้นกลายเป็นสีแดงเล็กน้อย แสงไฟดูแปลกนัก!
หันมามองเฉินซ่า เขาหันมามองจากในวงล้อม สบตาเข้ากับโหลชีพอดี
"รอประเดี๋ยวก่อน ไว้ข้าฆ่าคนพวกนี้หมดแล้ว ค่อยคิดบัญชีกับเจ้า" ในสถานการณ์เช่นนี้เขายังพูดคำพวกนี้ออกมาได้ โหลชีเลิกคิ้วขึ้นถาม "ข้ามีบัญชีอะไรให้ท่านคิดกัน?"
"เหอะ"
เฉินซ่าแค่นเสียงต่ำ สะบัดกระบี่แทงออกไป กระบี่ยาวสะบัดหลังแทงเข้าท้องคนที่คิดจะลอบกัดจนทะลุออกไปเลย
โหลชีดึงแส้ปลิดวิญญาณออกมา ตวัดร่างลงจากหลังม้า พุ่งไปหาเขา
"สู้ฆ่าด้วยกันไม่ได้!"
แส้ในมือนางตวัดคบไฟในมือคนนั้นที่พึ่งวิ่งเข้ามา
ของเหลวสีแดงนั้นดูไม่ชอบมาพากลเอามากๆ นางจะดูสักหน่อยว่าเป็นอะไร!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ