พอล้มลงไป พวกเขาเห็นหนอนที่หัวแหลมตัวนั้นมุดออกมาจากตาข้างซ้ายของเขา และคลานต่อไป ครั้งนี้มันมุดเข้าไปในหัวของเขาเลย
ระหว่างที่ของสิ่งนั้นมุดเข้าไปในเนื้อ มันก็มีเสียงที่เนื้อหนังถูกฉีกขาดไปด้วย เสียงนี้มันช่างดังชัดเจนในถ้ำน้ำแข็งที่เงียบนิ่งอันนี้ ทำเอาพวกเขาขนลุกขนพอง
"ถอยไป อย่าไปแตะต้องดอกไม้น้ำแข็งชนิดนั้น!" เฉินซ่าเองก็สีหน้าดำทะมึน เพราะหนอนตัวเล็กเท่านิ้วมือตัวนี้ พริบตาเดียวก็พรากชีวิตองครักษ์ฝีมือสูงส่งของเขาไปคนหนึ่ง!
ใช่ หากองครักษ์คนนั้นไม่มีฝีมือสูงส่ง ไม่มีทางหลบการฟันของเขาเมื่อครู่ได้แน่!
องครักษ์ที่ยืนข้างองครักษ์ที่ตายไปนั้นปวดใจจนกลายเป็นความโกรธ กัดฟันกรอดดึงกระบี่ยาวออกมาจะฟันไปที่ดอกไม้เหล่านั้น นั่นเป็นดอกไม้น้ำแข็งที่ไหนกัน ไหนล่ะน้ำแข็ง ไหนล่ะดอกไม้ หนอนประหลาดที่เลี้ยงอยู่ในนั้นช่างน่ากลัวขนาดนั้น! เขาโทษตัวเองอย่างหนัก หากไม่ใช่เพราะเขาไม่เชื่อฟังคำของโหลชี หากเขาทำตามที่นางพูดทันที พี่น้องของเขาก็คงไม่ตายใช่หรือไม่!
"อย่าฟัน!" เฉินซ่าแผ่ซ่านรังสีอย่างเก็บไว้ไม่อยู่ พิชิตวันในมือเปลี่ยนทิศทาง พุ่งออกจากมือไปยังกระบี่ยาวคนผู้นั้น
แต่ทว่า ยามที่กระบี่ยาวร่วงลงไป กลับไปโดนดอกไม้น้ำแข็งดอกหนึ่งในนั้น
"ถอย ถอย ถอย!"
โหลชีตกใจร้องเสียงหลง
องครักษ์คนนั้นไม่ทันคิดอะไรแล้ว ครั้งนี้โหลชีพูดอะไรเขาทำตาม แค่ทำตาม!
แต่ความเร็วในการถอยของเขาเร็วมากแล้ว แต่ยังไม่ทันหนอนหัวแหลมตัวนั้น! เกสรดอกไม้ของดอกไม้น้ำแข็งดอกนั้นพลันระเบิดออกมา จากนั้นหนอนหัวแหลมหน้าตาคุ้นเคยพุ่งออกมา มุดเข้าไปในหน้าขององครักษ์คนนั้น ปุ๊ดังขึ้น มุดเข้าไปในพริบตา ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นแค่ชั่วเวลาจุดไฟติด ของในมือโหลชียังไม่ทันสาดออกไป สายเกินไปจริงๆ
"พี่ซิน!"
องครักษ์สองคนที่อยู่ใกล้เขาร้องเสียงดังพลางจะไปดึงเขา เฉินซ่าร้องตะคอกดังทันทีว่า "ถอยไป!"
ทุกคนพากันถอยร่นไปทันที ห่างจากซากศพสองศพนั่น ห่างจากดอกไม้เหล่านั้น ทุกคนตระหนกมาก มองเพื่อนที่เมื่อครู่ยังยืนดีอยู่ พริบตาเดียวกลายเป็นศพสองศพเคียงกันด้วยเนื้อตัวสั่นเทา และยังมีหนอนชนิดนั้นคลานมุดไปมาในตัวไม่หยุด พวกเขาทำได้แค่ดู แม้แต่เข้าใกล้ก็ยังไม่กล้าเลย!
อารมณ์ดำมืดชนิดหนึ่งแทรกซึมเข้ามาในใจพวกเขา ทำให้พวกเขาแทบจะร้องตะโกนออกมา รู้สึกอึดอัดแน่นอกจนหายใจไม่ออก "ทำไมจึงเป็นเช่นนี้..."
มีคนพึมพำออกมา
"โหลชี นั่นคืออะไร?" เยว่เดินมายืนข้างโหลชี พลางถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด องครักษ์ที่พามาด้วยในครั้งนี้ยี่สิบนายล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดฝีมือ วิทยายุทธ์แกร่งที่สุด พวกเขาคิดว่าเป็นไปได้ที่จะมียอดฝีมือจำนวนมากมาแย่งสมบัติ ดังนั้นเลยทำการเตรียมใจไว้แล้ว ใครจะคิดว่าจะยังมิทันได้สู้รบ ก็โดนหนอนตัวเล็กแค่นี้สองตัวฆ่าคนของพวกเขาไปสองคน
โหลชีส่ายหัวตอบเสียงขรึม "ข้าก็ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด มิเคยพบเห็นมาก่อน"
"หากเมื่อครู่เหตุใดเจ้าจึงบอกให้ตัดมือเขาเล่า?"
"มันแค่การคาดเดา!" มองดูองครักษ์ที่อยู่ร่วมกับนางมาเป็นแรมเดือนตอนนี้กลายเป็นศพรูพรุนสองศพ โหลชีไม่ได้รู้สึกดีไปกว่าพวกเขาเลย "ของสิ่งนั้นสามารถมุดเข้าร่างกายคนได้ง่ายและรวดเร็วปานนั้น ข้าเลยคิดว่า ไม่อาจให้มันเข้าไปถึงจุดสำคัญได้ หากทำการตัดแขนทันเวลา บางทีอาจจะยังไม่ได้มุดถึงสมอง!"
เยว่เงียบคำทันที ทุกคนต่างไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร แต่สมองของนางกลับพลิกคิดวกวนไปได้เร็วกว่าทุกคน! ครั้งนี้เขายอมรับจริงๆว่าตนสู้โหลชีไม่ได้!
ครั้งนี้หัวใจของเยว่พลันเลื่อมใสในตัวโหลชีขึ้นมาโขอยู่! เพราะสิ่งต่างๆที่นางทำได้ก่อนหน้านี้ เขามองว่า แค่เพราะนางเคยร่ำเรียนมา แต่พวกเขาไม่เคยก็เท่านั้น มิได้แปลว่านางเก่งกาจกว่าพวกเขาแต่อย่างใด แต่ตอนนี้กับสิ่งที่ไม่รู้จักเช่นเดียวกัน พวกเขากลับไม่เคยคิดว่าจะจัดการเช่นใดเลย!
"ตอนนี้จะทำเยี่ยงใดดี?"
"ไป" โหลชีพูดเสียงขรึม "รีบไปหาแหล่งน้ำ จากนั้นก็หา จิ้งจกน้ำแข็ง หาเจอแล้วก็ไป"
ตอนแรกคิดว่าในถ้ำที่เป็นน้ำแข็งมานานนับพันปีนี่คงไม่มีอันตรายอะไร คงไม่มีอะไรอยู่รอด นอกจากจิ้งจกน้ำแข็ง แต่ตอนนี้ถึงรู้ว่า ในถ้ำน้ำแข็งนี่ยังซ่อนอันตรายถึงชีวิตไว้มากมาย งั้นต้องรีบเร่งความเร็ว หาเร็วๆ จะได้ไปเร็วๆ
"อย่าแตะต้องสิ่งใดในถ้ำน้ำแข็งนี้อีก" เฉินซ่าบอก เขาช่วยลูกน้องสองคนไม่ทัน คงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
โหลชีกุมมือเขาแน่น
"ไม่โทษเขา โทษเขาไม่ได้
"ด้านหน้ามีดอกไม้ชนิดนี้อีก! "องครักษ์คนหนึ่งที่เดินอยู่ข้างหน้าร้องเสียงหลงออกมา เขาเดินอยู่หน้าสุด กำลังจะผ่านทางเลี้ยวที่ค่อนข้างเล็กแคบ แต่คนอื่นเห็นเขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพลางมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าตกตะลึง
"อ้อมมันไป อย่าไปโดน..." เยว่พูดพลางเดินเข้าไป แต่พอเห็นภาพตรงหน้าชัดเจน คำพูดเขาชะงักค้าง กลายเป็นใบ้ฉับพลัน
เฉินซ่ากับโหลชีเห็นอย่างนั้นก็รู้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลละ รีบเดินเข้าไป องครักษ์คนนั้นถอยหลังมาหนึ่งก้าว ให้พวกเขาเห็นภาพตรงหน้า
ขนาดเฉินซ่ายังทนไม่ไหวสบถออกมา ดวงตาหรี่ลงทันใด
ผ่านทางเดินเล็กๆนี่ ด้านหน้าไม่มีทางแล้ว? เป็นดอกไม้น้ำแข็งชนิดนั้นทั้งหมด ทั้งหมด! หนาแน่นไปหมด ดอกไม้แต่ละดอกบานสะพรั่งสวยงาม แต่ละดอกใสกระจ่างชวนเคลิ้มฝัน หากแต่ละดอกนั่นราวกับปีศาจร้ายก็ไม่ปาน!
"ถอยไม่ได้จริงๆ" โหลชีพลันเงยหน้าขึ้นมองไปอีกด้านของดงดอกไม้น้ำแข็งเหล่านั้น "ข้ารู้สึกได้ว่าแหล่งน้ำอยู่ทางนั้น!"
เฉินซ่าใจกระตุก นางรับรู้ได้ถึงแหล่งน้ำจริงๆ แต่รับรู้ได้แล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? สายตาเขาจับจ้องไปที่ระยะห่างของดงดอกไม้น้ำแข็งนั้นพลางว่า "ข้าไป"
ด้วยวิชาตัวเบาของเขา กระโดดผ่านยอดดอกไม้น่าจะทำได้ แต่ด้านบนเป็นแท่งน้ำแข็งแหลมคมยาว แออัดกันปักและแทงลงมา เขาไม่สามารถกระโดดสูงมาก ไม่งั้นจะโดนแท่งน้ำแข็งพวกนั้นแทงเอา ตอนนี้ยังไม่ผ่านวันขึ้นสิบห้าค่ำ ถ้าเขาปล่อยมือจากโหลชี จะไม่สามารถขยับตัวได้เลย ไหนจะมีวิชาตัวเบาเหลืออยู่อีก
แต่ถ้าพาโหลชีไปด้วย สองคนกระโดดหลบแท่งน้ำแข็งไป ยากลำบากพอดูเลย
ไม่ว่าจะอย่างไรล้วนยากลำบาก
แถมให้เขาทั้งสองไปทดลองเอง เยว่และเหล่าองครักษ์ก็ไม่เห็นด้วย พวกเขาอยู่ที่นี่กัน มีหรือจะให้ฝ่าบาทกับแม่นางโหลไปเสี่ยงภัยได้ ทำได้เยี่ยงไรกัน
"บางที ข้าจะไปลองคนเดียว" โหลชีพลันเอ่ยขึ้น
"ข้าไม่เห็นด้วย" เฉินซ่าเคร่งขรึมลงทันที
"ท่านฟังข้าก่อน ร่างของข้าเล็กกว่าท่าน ข้าสามารถกระโดดข้ามผ่านแท่งน้ำแข็งพวกนั้นไปได้ ส่วนท่านรูปร่างสูงใหญ่เกินไป ข้ามไม่ผ่าน หากกระโดดต่ำเกินไป ข้ากลัวจะเป็นการล่อเหล่าหนอนพวกนั้นออกมา!" โหลชีอธิบายให้เขาฟังอย่างใจเย็น "อีกอย่าง ข้าข้ามไปหาแหล่งน้ำเร็วกว่า ท่านก็รู้ความสามารถของข้า ไม่ว่าที่นั่นจะเจอจิ้งจกน้ำแข็งหรือไม่ ข้าก็จะออกไปทางออกอีกทาง พวกท่านรอที่นี่ รอวันขึ้นสิบห้าค่ำผ่านไป พอฟ้าสว่างก็กลับไปทางที่เข้ามา"
"หลังจากออกไปแล้วเล่า?" เฉินซ่ามองนาง
"หลังจากออกไปแล้ว ข้าจะไปตามหาเฟยเหินท่าเสวี่ย จากนั้นก็รีบกลับมาทางนี้ มารวมตัวกับพวกท่าน ข้าจะใส่ยาชนิดหนึ่งไว้ที่ตัวท่าน ไม่ว่าท่านจะไปที่ใด ข้าจะตามหาท่านเจอ" นางเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ไม่ถอยหนีสักนิด "เฉินซ่า มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่ดีที่สุด ท่านก็รู้"
นางจะเรียกชื่อเขาเฉพาะในยามที่โกรธจัดและจริงจังมากเท่านั้น
เฉินซ่ารู้ดีอยู่แล้วว่า แบบนี้จึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่เขาทำใจมิได้ เขาเป็นห่วงนาง เขากลัว กังวลว่านางจะเกิดเรื่อง กลัวว่าจะไม่ได้พบนางอีก
ความรู้สึกเช่นนี้เขามิเคยเจอมาก่อน และทำให้เขาเจ็บปวดใจนัก
"เยว่ เจ้าว่าอย่างใด?" โหลชีหันไปขอแรงสนับสนุน
เยว่เองก็หน้าดำคร่ำเครียด พวกเขาคนมากมายกลับมิมีประโยชน์ กลับต้องให้สตรีเช่นนางไปเสี่ยงภัย มีหรือที่จิตใจเขาจะดีอยู่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ