บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 182

วันที่องค์หญิงหลิวอิ๋งได้พาผู้คนมาเพื่อทำหน้าที่ “ทวงความยุติธรรม” แต่สุดท้าย “ผลสรุป”ว่าโจอวเหม้ยเป็นคนวางยาพิษ และโยนความผิดให้

เย่จายซิง

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ชื่อเสียงของหอไป๋เป่านั้นยิ่งโด่งดังขึ้นไปอีก

เดิมเป็นหอยาที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่ม แต่ตอนนี้ในเมืองเฉินตูไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเรื่องนี้ ยิ่งมีคนพูดถึงหอไป๋เป่าก็จะทำให้การค้าของหอยานั้น

ดีขึ้นไปด้วย

ถ้าองค์หญิงหลิวอิ๋งรู้เรื่องนี้ คงจะรู้สึกผิดหวังจนแทบอยากจะตาย

ยาที่ขายดี ก็อาจจะทำให้เย่จายซิงนั้นเหนื่อยเหมือนกัน แต่ความเหนื่อยล้าแบบนี้ก็เป็นเรื่องมีความสุข ที่เห็นหินทิพย์งามๆไหลเข้ากระเป๋า ความรู้สึกแบบนี้มันน่าเยี่ยมยอดจริงๆ

การเลื่อนขั้นนั้นหินทิพย์นั้นสำคัญมาก ทุกครั้งที่จะเลื่อนขั้นต้องใช้หินทิพย์จำนวนเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว

นางยังต้องการเลื่อนขึ้นไปอีกหลายขั้น เพื่อจะได้มีเวลาที่เพียงพอที่จะมากลั่นยาและฝึกตนอย่างไม่เร่งรีบเกินไป

นางวางแผนไว้ช่วงเวลาสิบกว่าวันถึงครึ่งเดือน หินทิพย์จะมีการเลื่อนขั้นหนึ่งครั้ง

ตอนนี้นางมาหอไป๋เป่าทุกวัน เพราะร้านถือว่าเพิ่งเริ่มต้น อาจจะมีคนไม่ดีคิดไม่ซื่อ นางยังต้องคอยดูแลด้วยตัวเอง

นางชอบนำเก้าอี้มานั่งอยู่หน้าประตู มองดูผู้คนหลากหลายที่เดินผ่านไปมา นางแทบจะมองทุกคนออกโดยเฉพาะคนที่คิดจะปองร้าย

นางจะคอยจับจ้องคนที่มีพิรุธ นางจะเดินตามหลังทุกฝีก้าว ไม่ปล่อยโอกาสให้คนชั่วนั้นลงมือได้ จนทำให้พาลโกรธแล้วหนีออกไป

นางให้เฟิงเหยียนไปสืบเสาะ ได้ความว่าคนพวกนั้นครึ่งหนึ่งเป็นคนที่สมาคมนักกลั่นยาส่งมา อีกครึ่งหนึ่งเป็นคนของสำนักเมฆแดง เป้าหมายเพื่อจะมาทำลายชื่อเสียงและหอยาของนาง

แต่พวกมันก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากันอย่างโจ่งแจ้ง เพราะช่วงนี้เป็นโอกาสเงินโอกาสทองของหอไป๋เป่า

สมาคมนักกลั่นยายังต้องรักษาชื่อเสียงไว้

สำนักเมฆแดงที่เพิ่งถูกลงโทษยังต้องสำรวมท่าที

ทั้งสองฝ่ายนั้นต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว โอกาสนี้ทำให้หอไป๋เป่าของเย่จายซิงมีชื่อเสียงนั้นก้าวกระโดดขึ้นไป

แต่กลับกันกับสมาคมนักกลั่นยา ที่ลูกค้าน้อยลงเรื่อยๆแทบจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหว

“น้องสี่ หอไป๋เป่านั้นเป็นของเจ้าเองหรือ มันช่างไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ เจ้าทำคนเดียวน่าจะเหนื่อยมาก ทำไมเจ้าไม่บอกพวกพี่บ้าง จะได้มาช่วยเจ้าอีกแรง”

เย่เจียหยูเดินเข้ามาพร้อมกับองค์หญิงหลิงหยุน คุยกับเย่จายซิงอย่างสนิทสนมดุจพี่น้องที่รักใคร่กัน

องค์หญิงหลิงหยุนนั้นไม่อยากมา คราวที่แล้วที่มีการแข่งขันที่เทียนเจียวนางต้องคุกเข่าให้เย่จายซิง ทำให้นางรู้สึกขายหน้ามาก

และนางก็รู้สึกไม่พอใจที่เห็นรองประธานนักกลั่นยานั้นมอบหมายหน้าที่ให้เย่เจียหยู เลยเสนอตัวที่จะมากับเย่เจียหยู เพื่อจะมาดูความล่มสลายของเย่จายซิงให้เห็นกับตา

เย่เจียหยูนั้นได้เข้าร่วมศูนย์สำนักสมาคมนักกลั่นยาแล้ว แต่อันที่จริงความสามารถของนางนั้นยังไม่เพียงพอที่จะเข้าร่วมสมาคม

เป็นเพราะซุนหยวนชิ่งเป็นคนเสนอชื่อให้ ตอนหลังรองประธานรู้ว่าเป็นนางพี่สองของเย่จายซิง แต่ความสัมพันธ์ของพี่น้องหลังแตกคอกัน เลยได้เข้ามาอยู่ในสมาคมกลั่นยา

จุดมุ่งหมายก็เพื่อต่อต้านเย่จายซิง

ไม่มีใครคาดคิดว่าเพียงชั่วเวลาไม่ถึงเดือน หอยาของเย่จายซิงนั้นโด่งดังมีลูกค้าอุ่นหนาฝาคั่ง

เริ่มแรกคิดว่าชาวบ้านจะไปซื้อเฉพาะโอรสไขกระดูกเยือกของนาง แต่ที่ไหนได้นางกลับคิดระบบสมาชิกขึ้นมาเพื่อ “ผูก” ลูกค้าไว้ ชาวบ้านจึง

ซื้อยาแต่ที่ร้านนาง ทำให้ยอดขายของสมาคมนั้นหายไปถึงสามในสี่ส่วน ซึ่งเป็นจำนวนที่เสียหายค่อนข้างมหาศาล

นางไม่เพียงแต่แย่งลูกค้าของสมาคมไป แต่ในเวลาช่วงสั้นๆนี้นางทำเงินได้ไปไม่น้อยทีเดียว

“ข้าจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร เจ้าเป็นเพียงอาจารย์ระดับสอง เพราะความสัมพันธ์ที่ดีกับซุนหยวนชิ่งเจ้าถึงได้เข้าไปในศูนย์สำนักของสมาคม ข้าว่าพี่สองควรจะพยายามมากกว่านี้ ไม่งั้นเจ้าจะดูเป็นตัวตลกไป ข้าจะไปรบกวนเวลาอันมีค่าของพี่ไปได้อย่างไร เจ้ารีบกลับไปฝึกฝนเถอะ อย่าให้คนอื่นครหาว่าใช้เส้นสายเข้าไป และจะพลอยทำให้น้องสาวอย่างข้าลำบากใจไปด้วย”

สีหน้าของเย่เจียหยูนั้นค่อยๆเคร่งเครียดไป: ……

เย่จายซิงไล่ต้อนจนพวกนางจนมุม

คนตอแหลพวกนี้ยังไม่กลับไปอีก!

เห็นรอยยิ้มที่ชะงักงันของเย่เจียหยู แต่หยักปากแล้วพูดว่า:

“อุ๊ย ข้าพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า พี่รองอย่าโกรธไปเลย ข้าพูดไปก็เพื่อหวังดีต่อเจ้าเช่นกัน ข้ามีผู้ช่วยเต็มไปหมด คนข้าเพียงพอที่จะดูแลร้าน

แต่สำหรับพี่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาฝีมือการกลั่นยา”

“เย่จายซิง! พวกข้ามีใจอยากมาช่วยเจ้า เจ้ายังเลือกที่รักมักที่ชัง!”

เมื่อเห็นเย่จายซิงโกรธจนพูดอะไรไม่ออก องค์หญิงหลิงหยุนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ พูดด้วยอารมณ์โมโหออกมา

“ข้าไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง พวกเจ้าถามผู้ช่วยข้าได้ว่าที่นี่ต้องการความช่วยเหลือไหม อ๋อ ข้านึกอะไรออกแล้ว องค์หญิงหลิงหยุน ข้าได้ยินมาว่าช่วงนี้ยาที่เจ้ากลั่นออกมานั้นไม่ดีเยี่ยงเช่นก่อน ท่านก็ต้องพยายามเพิ่มขึ้นอีกเพื่อจะได้ตามข้าให้ทัน”

องค์หญิงหลิงหยุน: ……

สุดท้ายนางทั้งสองก็เดินกลับไปอย่างกระหืดกระหอบ หน้าดำคร่ำเครียดดั่งก้นหม้อ พวกนางไม่เพียงแต่ไม่ได้ความดีความชอบ ยังถูกเย่จายซิงสั่งสอนไปชุดใหญ่ สิ่งที่เจ็บใจยิ่งกว่าคือ นางพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงแต่คำพูดนั้นแสนจะอัปยศอดสู จนพวกนางไม่มีคำพูดหักล้างได้

พวกนางเกรงว่าถ้ายังอยู่ต่อไป เย่จายซิงยิ่งจะพูดจาให้พวกนางเสียเกียรติไปอีก

แต่เดินออกไปไม่ไกล พวกนางฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเป็นคำสั่งของรองประธาน ถ้าปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้แน่

ยังต้องคิดหาวิธีอื่นอีก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา