บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 273

ฮ่องเต้ทรงจิบชา ทันใดนั้นก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้

อาการเหนื่อยอ่อนประเภทนี้ เหมือนกับความรู้สึกแขนขาไร้เรี่ยวแรงหลังจากถอดพลังจิตเลย

เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าอาการเหนื่อยอ่อนเช่นนี้เกิดจากอะไร เมื่อมองเข้าไปในร่างกาย ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอันใด ไม่เหมือนถูกคนวางยาพิษ

เขาเงยหน้ามองโม่เสิ่นยวน แววหมางเมินในดวงตาสลักลึกลงไปถึงกระดูก

"ข้าไม่ให้เจ้าแต่งกับหญิงผู้นั้น ฐานะของนางไม่คู่ควรกับเจ้า เพื่อให้ได้แต่งกับนาง เจ้าถึงขนาดยอมลำบากเชียวรึ เจ้าเป็นคนร่ายม่านอาคมผืนนั้นสินะ เจ้าคิดว่ายอมลำบากทำให้นางแล้วจะได้สมใจปราถนาหรือ ฝันไปเถอะ"

แม้น้ำเสียงของเขาจะฉุนเฉียวไม่เท่าก่อนหน้าแล้ว แต่ความคิดเรื่องการอภิเษกของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง

"เจ้าไม่คิดแต่งกับฉู่ยุ่นเอ๋อร์ ต่อให้เกิดเรื่องกับนาง ก็ยังมีหญิงสกุลใหญ่คนอื่นอีก เจ้าข่มขู่ข้าได้ ข้าก็ฆ่านังหญิงสกุลเย่ได้เช่นกัน!"

เขาพูดมาถึงตรงนี้ ทั้งยังแสดงออกถึงความโกรธเคือง เพราะหากฉู่ยุ่นเอ๋อร์ตาย ฮองเฮาต้องเสียใจเป็นแน่

โม่เสิ่นยวนย่นคิ้ว

อาการโกรธง่ายเป็นผลมาจากส่วนผสมของยา ยาถอนพิษของน้องซิงก็แก้ไขสูตรไปแล้ว เหตุใดเขายังไม่รับรู้ถึงปัญหาเรื่องฮองเฮา ซ้ำยังคิดแทนนางอยู่อีก?

หรือความรักระหว่างสามีภรรยาของพวกเขาอยู่ในขั้นลึกซึ้งขนาดนั้นแล้ว?

เขาไม่เชื่อหรอก

เสด็จพ่อของเขาผู้นี้ ความจริงเป็นคนที่ด้านชาต่อความรัก เว้นก็แต่กับฮองเฮาและหลิวอิ๋งเท่านั้น

โม่เสิ่นยวนรู้สึกว่าหลายปีมานี้ มีสิ่งสำคัญบางอย่างที่เขาพลาดไป

"กระหม่อมจะพูดอีกรอบ คนที่กระหม่อมจะแต่งด้วยคือเย่จายซิงคนเดียวเท่านั้น หากพระองค์ไล่ต้อนเข้าทุกทางแบบนี้ ระวังชีวิตจะไม่เป็นสุขเช่นกัน"

เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา

"อีกอย่าง ม่านอาคมผืนนั้นนางเป็นคนร่ายขึ้น มิใช่ทุกคนจะมีจิตใจคับแคบเหมือนท่านเสมอไป"

"เป็นไปไม่ได้! นางเพิ่งอยู่ขั้นแดนราชาทิพย์เท่านั้น!"

ฮ่องเต้ไม่ปักใจเชื่อ

"กราบทูลฝ่าบาท! เผ่าปีศาจถูกกองปราบที่สมาคมผู้ฝึกตนจัดตั้งขึ้นสังหารหมดแล้วพ่ะยะค่ะ!"

เสียงรายงานของราชองครักษ์ดังขึ้นนอกตำหนัก

ดวงตาฮ่องเต้ฉายแววประหลาดใจและยินดียิ่ง เดิมเขานึกว่าต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะยุติสงครามได้ ไม่คิดว่าจะเร็วถึงเพียงนี้

"เจ้าได้ยินแล้วนะ พวกปีศาจถูกกวาดล้างหมดแล้ว คนของสมาคมผู้ฝึกตนไปถึงด้านนอกของม่านอาคมแล้ว เจ้าโป้ปด เดี๋ยวคนทั่วหล้าก็จะได้รู้"

"งั้นหรือ พระองค์ควรถามให้แน่ชัดอีกครั้ง แล้วค่อยสรุปดีกว่านะพ่ะย่ะค่ะ"

โม่เสิ่นยวนเอ่ยเสียงราบเรียบ คล้ายรู้อยู่แล้วว่าเผ่าปีศาจจะถูกสังหารหมดในวันนี้

ฮ่องเต้มองเขาเย็นเยียบแวบหนึ่ง ก่อนกวักมือเรียกราชองครักษ์เข้ามาถามให้แน่ชัด

กระทั่งเมื่อได้ยินราชองครักษ์พูดว่าเย่จายซิงเป็นคนร่ายม่านอาคมนั่นขึ้นมาจริงๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไปในที่สุด

ทั้งประหลาดใจ ตกตะลึง และสงสัย

"นางเพิ่งจะอยู่ขั้นแดนราชาทิพย์ เหตุใดถึงสามารถร่ายม่านอาคมที่ทรงพลังเช่นนั้นได้?"

"หลายเรื่องที่ไม่อาจทำได้บนโลกใบนี้ ล้วนมีคนที่สามารถทำได้อยู่เสมอ พระองค์คิดว่านางฐานะต่ำต้อย ยังไม่แน่ว่าจะคู่ควรกับตำแหน่งสนมของเซ่าตี้อีกต่างหาก"

โม่เสิ่นยวนเอ่ย

ตำแหน่งที่นางคู่ควรคือตำแหน่งราชินี ฮองเฮาของข้าอย่างไรเล่า

หากยามปกติ ฮ่องเต้จะต้องทรงกริ้วแน่ แต่เขาเพียงทำสีหน้าไม่ดีเท่านั้น ไม่ได้ระเบิดอารมณ์แต่อย่างใด

ตัวฮ่องเต้เองก็ตระหนักได้ถึงจุดนี้เช่นกัน เรียวคิ้วขมวดเป็นปม

โม่เสิ่นยวนใบหูกระตุกวูบ มีเสียงฝีเท้าดังแว่วมาจากนอกตำหนัก เขามองฮ่องเต้ แล้วเอ่ยเข้าประเด็น:

"กระหม่อมมีเรื่องต้องเตือนพระองค์ มีคนคอยวางยาพิษให้พระองค์อยู่เนืองๆ ทำให้ทรงมีอารมณ์ฉุนเฉียว กระหม่อมให้ยาถอนพิษกับพระองค์ไปเม็ดหนึ่งแล้ว ส่วนที่ว่าเป็นใครนั้น พระองค์ควรไปตรวจสอบให้แน่ชัดด้วยตนเองดีกว่า"

เพล้ง!

เสียงแก้วแตกดังมาจากด้านนอก ชามแตกกระจายลงบนพื้น ฮองเฮาส่งเสียงร้องตกใจ รีบเอ่ยตำหนิตัวเองทันที :

"หม่อมฉันผิดเองเพคะ สะเพร่าทำซุปหล่นจนได้"

ทันทีที่เสด็จอาพูดคำนี้ออกมา เย่จายซิงก็อ้าปากเหวอ

นางตกใจมากจริงๆ

วันที่เข้าวังมาวันนั้น นางยังคิดว่าฮองเต้กับฮองเฮาเป็นคู่รักหวานชื่น รักกันเหนียวแน่น ทั้งหมดนี้ อาจเป็นผลมาจากพิษกู่!

นี่ช่างสะเทือนใจยิ่งนัก

ต้องทราบก่อนว่า ในสายตาของไพร่ฟ้าแคว้นเทพมังกรทุกคน ฮ่องเต้กับฮองเฮาเป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กันมากแบบไร้กังขา ไม่รู้ว่ามีสตรีกี่คนที่อิจฉาชีวิตที่ดีเพียงนี้ของฮองเฮา ไม่เพียงสถานะที่ทำให้ผู้คนต่างอิจฉา ยังมีสามีที่รักใคร่หวงแหนนางอย่างฮ่องเต้อีกด้วย

แต่ถ้า ฮ่องเต้อาจไม่ได้รักฮองเฮามาตั้งแต่ต้น แต่เป็นความรักที่ส่งผลมากจากกู่ภิรมย์รัก ฮองเฮาถึงได้รับสิ่งทั้งหมดเหล่านี้ เช่นนั้นฮองเฮาก็อำมหิตพอตัวจริงๆ

"แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดีเพคะ? ฮองเฮารู้เรื่องที่พระองค์ให้ยาถอนพิษกับฮ่องเต้แล้ว คงไม่น่าจะทำอะไรบุ่มบ่ามแล้วกระมัง?"

นางถามเสด็จอา

โม่เสิ่นยวนเอ่ย : "ฮองเฮาทำเรื่องมากมายเพียงนี้ คงอยากจะขึ้นเป็นจักรพรรดินีเป็นแน่ ข้าจะหยุดนางเอง"

"เช่นนั้นเรามาคิดหาทางแก้พิษกู่ให้ฮองเต้เถิด รอตอนฮ่องเต้ฟื้นสติกลับมา ไม่จำเป็นต้องให้พระองค์ลงมือ ฮ่องเต้จะไม่ละเว้นนางแน่"

นางกระพริบตาปริบๆ แววตาสว่างไสว

พอคิดว่าฮ่องเต้จะได้สติกลับคืน แล้วพบว่าตัวเองถูกสตรีนางหนึ่งวางยานานกว่าสิบปี จะต้องเผยสีหน้าหฤหรรษ์เป็นแน่ นางตั้งตารอเหลือเกิน

ถึงตอนนั้นนางจะต้องใช้หินทิ้งเงาบันทึกภาพนั้นเอาไว้ด้วย

จิ๊จิ๊ จะต้องสนุกมากแน่ๆ

เย่จายซิงไม่เห็นใจฮ่องเต้เลยแม้แต่น้อย ในใจคิดว่าเขาสมควรโดนแล้ว

ใครใช้ให้เขาใจดำหมางเมินกับเสด็จอาขนาดนี้เล่า!

บุญบาปสุดท้ายย่อมส่งผล กรรมตามสนองได้เยี่ยมจริงๆ!

โม่เสิ่นยวนมองนางอย่างเอ็นดู:

"ดี กู่ภิรมย์รักแก้ง่ายกว่าราชากู่ แต่กู่ภิรมย์รักน่าจะมีสามตัว จำแนกตามที่อยู่ในร่างกายของพวกเขาสามคนพ่อแม่ลูก ต้องกำจัดกู่ทั้งหมดเท่านั้น ถึงจะปราบให้สิ้นซากได้"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา