นอกจากเหล่าบรรดาศิษย์ที่เก็บตัวฝึกฝนกันแล้วนั้น วันนี้ศิษย์ภายในสำนักมารวมตัวกันกินอาหารมื้อใหญ่ราวกับฉลองวันปีใหม่ก็ไม่ปาน
เย่จายซิงไม่รู้ว่าเหตุใด วันนี้นางถึงไม่ค่อยรู้สึกอยากอาหารมากนัก นางเพียงแค่ริมน้ำชาใส่จอกของตน พร้อมทั้งยืนขึ้นยกจอกน้ำชาขึ้นมาว่า
“ขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยข้าในช่วงเวลาที่ผ่านมา เย่จายซิงขอดื่มน้ำชาจอกนี้แทนสุรา เพื่อเป็นการขอบคุณทุกท่านในที่แห่งนี้ด้วย”
ทุกคนพลันลุกขึ้นยืนในทันที ในมือของแต่ละคน พลันถือจอกน้ำชาและจอกสุราขึ้นมาและยกขึ้นดื่มพร้อมกันในทันที
เนื่องจากว่าเป็นการเลี้ยงส่งเย่จายซิงนั้น ภ ายในใจของทุกคนจึงรู้สึกโศกเศร้ายิ่งนัก
สำนักเองก็เพิ่งจะมีสีสันเพิ่มเข้ามาได้ไม่นาน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นเพราะการปรากฏตัวของเย่จายซิงทั้งนั้น ในสายตาของศิษย์เหล่านั้น เย่จายซิงนางก็คล้ายกับเทพธิดาที่ลงช่วยเหลือสำนัก
ทว่า ทุกคนยังมิทันได้ตอบแทนนาง นางก็จะจากพวกเขาไปเสียแล้ว
“พอแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องเสียใจไป จายซิงจากไปในครานี้ ย่ อมต้องนำพาชื่อเสียงโด่งดังไปไกลเป็นแน่ พวกเรามาร่วมอวยพรให้จ่ายซิงเดินทางไปปลอดภัยและราบรื่นกันดีกว่า !”
ท่านเจ้าสำนักพูดออกมาเสียงดัง
“ใช่! ทุกคนก็ขยันฝึกตน จักต้องมีสักวันหนึ่ง ที่พวกเราจักได้กลับมาพบกันอีกครั้ง!”
ผู้อาวุโสสามก็เอ่ยปากพูดกับทุกคนเช่นกัน
เหล่าลูกศิษย์ได้แต่พากันพยักหน้ารับคำ ภายในใจพลันค่อย ๆ ตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการฝึกฝนเป็นผู้ฝึกตนอย่างขันแข็ง
เย่จายซิงแย้มยิ้มออกมา พลางพูดออกมาด้วยความอ่อนหวานว่า “ข้าหวังว่าวันนั้นจักมาถึงโดยเร็ว สำนักในยามนี้หาได้เหมือนในวันวานไม่ พวกเจ้าคือผู้แข็งแกร่งในอนาคตข้างหน้าของแผ่นดินนี้”
เมื่อสิ้นเสียงเย่จายซิงพูดจบ เหล่าลูกศิษย์ในสำนักต่างพากันโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ ใช่แล้ว พวกเขาหาได้เหมือนแต่ก่อนไม่ ใต้หล้าแผ่นดินกว้างใหญ่เช่นนี้ พวกเขาจักต้องออกไปเห็นกับตาให้ได้
ในความขยันอุตสาหะของพวกเขา สำนักเฉียนคุนจะต้องเติบโตขึ้นเป็นสำนักเรียนขนาดใหญ่ได้แน่
หลังจากดื่มไปสามแก้วติดกันแล้วนั้น ความโศกเศร้าก่อนหน้านั้น พลันถูกท่านเจ้าสำนักส่งเสียงให้กินดื่มร่ำสุราไปด้วยความสุขสันต์ ท่านเจ้าสำนักพลางกล่าวออกมาว่าไม่เมาไม่กลับ
เมื่อเย่จายซิงเห็นทุกคนมีความสุขเช่นนี้ แต่เดิมนางอยากจะดื่มสุราเช่นกัน ทว่า เพียงแค่นางได้กลิ่นของมันนั้น ก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไปในทันที
นางจึงจำใจวางจอกสุราและเปลี่ยนมาดื่มน้ำชาแทน
รสมือของเจ้าสำนักไม่แย่นัก หากเย่จายซิงกลับเลือกอาหารที่มีรสชาติจืดๆ กินโดยไม่รู้ตัว หลังจากนางกินไปได้ครู่หนึ่ง ก็พลันรู้สึกอิ่มยิ่งนักเพียงแค่มองไปยังอาหารรสชาติมัน ๆ อาการมวนท้องของนางก็เริ่มปราฏชัดเจนมากยิ่งขึ้น
น่าแปลก นางไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือ?
ภายในใจของเย่จายซิงรู้สึกสงสัยยิ่งนัก
ตอนเช้านางเพียงแค่กินโจ๊กจากสำนักไปหนึ่งถ้วย แล้วนางก็มิได้กินอะไรอีกเลย นางจะไม่รู้สึกอยากอาหารได้อย่างไรกัน?
“จ่ายซิง เจ้าลองกินไก่ย่างที่ข้าทำเร็ว ผู้ใดได้กินผู้นั้นย่อมติดใจไม่มีลืม!”
ท่านเจ้าสำนักยิ้มตาหยีออกมา พลางยกขาไก่น่องหนึ่งมาวางไว้บนชามของเย่จายซิงในทันทีพลางมองนางไปด้วยแววตาแห่งความหวัง ท่านเจ้าสำนักกำลังรอให้นางประเมินไก่ย่างของเขาอยู่
เย่จายซิงพยายามที่จะอดกลั้นอาการผิดปกติลงไป พร้อมทั้งแย้มยิ้มส่งไปให้ท่านเจ้าสำนัก นางกัดลงไปไม่ทันไร อาการท้องไส้ปั่นป่วนพลันปะทุขึ้นมาในทันที เย่จายซิงที่ไม่อาจอดกลั้นไหวนั้น นางเลยต้องจำใจคายทิ้งออกมา
ท่านเจ้า สำนักที่มองดูอยู่นั้น พลันชะงักไปโดยพลัน “ไม่ใช่สิ มันไม่น่ากินขนาดนี้เลยหรือ? ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้ลงมือเข้าครัวมานานหลายปี แต่ก็คงไม่ถึงขนาดกินแล้วอ้วกออกมาใช่หรือไม่?”
ท่านเจ้าสำนักรู้สึกสงสัยยิ่งนักเขากำลังรู้สึกสงสัยในฝีมือการทำอาหารของตนเองว่า ถึงคราวต้องรามือจากห้องเครื่องแล้วหรือ
ซินเสียนรีบร้อนรินน้ำชามาให้เย่จายซิงในทันที หลังจากที่เย่จายซิงได้ดื่มเข้าไปนางก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว
“มิใช่ว่าอาหารของท่านเจ้าสำนักไม่อร่อยหรอก แต่เป็นร่างกายของข้ามากกว่าที่ผิดปกติ”
เย่จายซิงโบกไม้โบกมือปฏิเสธออกมา สีหน้าของนางติดซีดเผือดไปเล็กน้อย
“คงมิได้ไปถูกวางยาจากข้างนอกใช่หรือไม่?” ผู้อาวุโสสามเผยสีหน้าสงสัยออกมา พลางรีบร้อนเข้าไปหาเย่จายซิงเพื่อจับชีพจรให้นาง
ทุกคนรีบวางตะเกียบลงในทันที พลางจับจ้องไปที่เย่จายซิงด้วยความกงัวลใจ
ผู้อาวุโสสามที่หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นั้น ก็ค่อย ๆ คลายปมคิ้วออกมา อารมณ์ของสีหน้าพลันเปลี่ยนไปในทันที เป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความปลื้มปีติยิ่งนัก
“นี่”
ผู้อาวุโสสามพลันเกิดความลังเลไปครู่หนึ่ง
“เกิดอะไรขึ้น? เจ้ารีบพูดออกมาเร็วๆ !” ท่านเจ้าสำนักรู้สึกร้อนใจยิ่งนัก เมื่อเห็นท่าทีของผู้อาวุโสสามนั้น เขาคิดว่าเย่จายซิงเป็นโรคร้ายอะไรขึ้นมา
เย่จายซิงก็มองไปที่ผู้อาวุโสสามเช่นกัน ภายในใจรู้สึกสงสัยยิ่งนัก ก่อนหน้านั้นนางร่างกายแข็งแรงมาโดยตลอด จู่ๆ ก็กลายมาเป็นเช่นนี้ หรือว่าจะเป็นเพราะคำสาปกัน?
“จายซิง เจ้า”
หลังจากลังเลใจไปครู่หนึ่ง นางก็ใช้จิตตื่นรู้และกำลังภายในของตนเองในการตรวจสอบช่วงท้อง ยามที่กำลังเข้าใกล้จุดตันเถียนนั้น นางก็พลันเห็นแสงเล็ก ๆ ที่ส่องออกมาถึงสองดวง หากจับมันมารวมกันมีขนาดเท่ากับเล็บมือของนางเท่านั้น
นางมิคิดเลยว่า ด้านในท้องของนาง จะมีสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ อยู่ด้วย
เดี๋ยวนะ เหตุใดถึงมีสอง?
“ผู้อาวุโสสาม ข้าว่าตัวเองน่าจะท้องแฝด”
เมื่อเย่จายซิงเงยหน้าขึ้นมา นางจับจ้องไปที่ผู้อาวุโสสามด้วยความงุนงงในทันที
เรื่องชีวิตที่เกิดขึ้นมาในท้องของนางนั้น นางไม่รู้จักรับมือกับพวกเขาเช่นไรดี ในยามนี้นางรู้สึกว่างเปล่ายิ่งนัก
ผู้อาวุโสสามตกใจถึงขีดสุด “ข้าจักจับชีพจรให้เจ้าอีกรอบ ”
ผู้อาวุโสสามจึงจับชีพจรให้กับเย่จายซิงอย่างละเอียดอีกครั้ง “เป็นท้องแฝดจริงๆ ด้วย ถึงแม้สัญญาณจะอ่อนยิ่งนัก ทว่าเมื่อลองตั้งใจฟังดูแล้ว กลับเป็นเช่นนั้นจริง ๆ จ่ายซิง ว่าจะเป็นเช่นไร ข้าก็ต้องเอ่ยคำยินดีกับเจ้าด้วย หวังว่าเจ้าจะเตรียมตัวเตรียมใจให้ดี เพื่อต้อนรับพวกเขาที่กำลังจะเกิดมา”
วัฒนธรรมในโลกของผู้ฝึกตนกับโลกปุถุชนคนธรรมดานั้นไม่เหมือนกัน ผู้ฝึกตนคนใดตั้งครรภ์ขึ้นมา หากว่าเด็กในครรภ์มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมากพอนั้น ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งเดือนก็สามารถรู้ตัวได้แล้ว ทว่าในโลกปุถุชนคนธรรมดานั้น กว่าจะรู้ตัวว่าตนเองตั้งครรภ์จักใช้เวลาประมาณเดือนครึ่ง
ในยามนี้ ผู้อาวุโสสามก็สามารถมั่นใจได้แล้วว่า นางตั้งครรภ์แฝดขึ้นมาจริง ๆ
เมื่อคิดไปถึงการมาของเย่จายซิงในวันแรกนั้น นางสวมใส่อาภรณ์ชุดมงคลสีแดง อีกทั้งการตัดเย็บชุดมงคลของนางนั้น หาใช่การตัดเย็บธรรมดาไม่ ชุดมงคลของนางจักต้องถูกตัดเย็บขึ้นมาด้วยความบรรจงประณีตอย่างแน่นอน
เมื่อรวมไปถึงเรื่องที่นางสูญเสียความทรงจำนั้น บางที นางอาจจะแต่งให้กับบุรุษบ้านใดไปแล้วก็ได้ ที่เป็นรักแท้ของนาง เด็กที่อยู่ในท้องของนางต้องเป็นโซ่ทองคล้องใจสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน
เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องดี
“จ่ายซิง เจ้าไม่ต้องไปแล้ว อยู่ดูแลรักษาตนเองในสำนักจักดีกว่า”
จู่ ๆ ท่านเจ้าสำนักก็หันมาพูดกับเย่จายซิง
ในยามนี้ เขาไม่อาจวางใจให้นางออกไปเผชิญอันตรายด้วยตัวคนเดียวอีก
หากแต่เย่จายซิงเพียงเงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับพูดน้ำเสียงที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดออกมาว่า
“เช่นนั้น ข้ายิ่งต้องไป บางที ข้าอาจจะสามารถสืบหาได้ว่าบิดาของเด็กที่อยู่ในท้องของข้าคือผู้ใดกันแน่”
นางไม่อยากให้ลูกของนาง ต้องคลอดออกมาโดยไร้บิดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...