เรือทิพย์สองลำชนกันอยู่กลางท้องฟ้า บนพื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมหลุมหนึ่ง ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยซากปรักหักพังของเรือทิพย์
แต่ทว่าเรือทิพย์ของอีกฝ่ายถูกทำลายเพียงแค่บริเวณดาดฟ้าเรือ อาจจะเกี่ยวข้องกับระดับขั้นที่ยิ่งสูง ก็ยิ่งแข็งแรงแน่นหนา ซ่อมแซมเล็กน้อยก็สามารถใช้งานต่อไปได้
เรือทิพย์ลำนี้ของเย่จายซิงจะซ่อมแซมเพิ่มเติมอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว นางจ่ายค่าเช่าไปหนึ่งแสนหินทิพย์ชั้นต่ำ แต่ถ้าหากจะต้องชดใช้เงินละก็ ราคาสร้างอาจจะต้องห้าถึงหกล้าน
“สุนัขที่ไหนไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำลายเรือทิพย์ของพวกเราตระกูลลู่!”
ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มหญิงสาววัยรุ่นสองสามคนเดินออกมาจากเรือทิพย์ ลักษณะผู้ดีสูงส่งไปทั่วกาย หนึ่งในนั้นหญิงสาวใบหน้ากลมงดงามคนหนึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก ทันทีที่ออกมาก็ด่าด้วยความเดือดดาลเสียงดัง
ตระกูลลู่?!
ฉียวี่เจียและกัวเจียงสีหน้าถอดสี ทั้งสองคนหลบไปข้างหลังโดยไม่รู้ตัว
ตระกูลลู่แห่งเซียนเหอ นั่นคือลำดับถัดต่อจากการมีอยู่ของตระกูลป๋ายหลี่ ทั้งตระกูลตั้งแต่บนยันล่างล้วนเป็นคนบ้าคลั่งการบำเพ็ญตน อีกทั้งแม้แต่ความแค้นที่น้อยที่สุดก็ยังต้องแก้แค้น วิธีการโหดเหี้ยม ผู้ที่ยั่วยุตระกูลลู่ แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีจุดจบที่บ้านแตกสาแหรกขาดตายอย่างไร้ศพ
เย่จายซิงไม่รู้จักตระกูลลู่ตระกูลจางอะไร เมื่อเห็นสีหน้าที่ตื่นตระหนกของทั้งสองคน นางก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย กลับเดินไปข้างหน้า ยืดลำตัวตั้งตรง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา:
“สุนัขป่าที่ไหนมาเห่ามั่วซั่ว เห็นได้ชัดว่าเรือทิพย์ของพวกเจ้าใช้ความเร็วเร็วเกินไป ชนเข้ากับเรือทิพย์ของข้า ตอนนี้ยังจะมาเสแสร้งแกล้งถูกชนอีกงั้นหรือ?”
ทันทีที่นางเดินเข้าไป ดวงตาทั้งหกคู่จ้องมองใบที่บนใบหน้าของเธอ
โดยเฉพาะชายหนุ่มทั้งสองคนที่อยู่ตรงกลาง ในดวงตากำลังเปล่งแสงประกายระยิบระยับอย่างตื่นตา
“เสแสร้งแกล้งถูกชน? ช่างน่าขัน! พวกข้าตระกูลลู่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งถูกชนต่อเจ้าคนต่ำต้อยประเภทนี้ด้วยหรือ? คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้ากล่าวว่าพวกข้าเป็นสุนัขป่า ข้าว่าเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
ดวงตาของหญิงสาวใบหน้ากลมลู่ซวงอิงมีความเดือดดาลพลุ่งพล่าน อยู่ในตระกูลนางถือว่ามีรูปร่างหน้าตาที่ธรรมดาที่สุด เมื่อเห็นหญิงสาวที่รูปโฉมงดงาม นางก็จะอิจฉาริษยา
บัดนี้เมื่อได้นางเห็นใบหน้าที่งดงามจนไร้คู่แข่งของเย่จายซิง ภายในใจก็ยิ่งเกิดความริษยามากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น คู่หมั้นของนางก็จ้องมองใบหน้านั้นของเย่จายซิงด้วยเช่นกัน!
นางคิดว่านางกล่าวว่าตระกูลลู่ เย่จายซิงจะต้องตกใจจนอึฉี่ราด
คิดไม่ถึงว่า เย่จายซิงกลับกล่าวอย่างเฉยเมย:
“ความจริงชนะการเถียงข้างๆคูๆ เรือทิพย์ของข้าถูกชนจนสภาพกลายเป็นเช่นนี้ เกือบจะเรือเสียหายจนถึงแก่ชีวิต ข้ายังไม่ได้ให้พวกเจ้าชดใช้ค่าเสียหาย เจ้ากลับคำได้ดี กลับโยนความผิดมาให้ อีกอย่าง สุนัขป่าเห่ามั่วซั่วที่ข้าพูดคือเจ้า ไม่ใช่ใครอื่น”
“เจ้า! ข้าจะสังหารเจ้าซะ!”
ลู่ซวงอิงโมโหกระหืดกระหอบ กระบี่ยาวออกจากฝัก อายสังหารพวยพุ่ง
“ซวงอิงหยุด!”
ชายหนุ่มวัยรุ่นสองคนทั้งหมดก้าวออกมา ขวางลู่ซวงอิงเอาไว้ทั้งซ้ายและขวา
จากนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็ก้าวออกมามุ่งไปยังเย่จายซิงเอ่ยกล่าวอย่างรู้สึกเสียใจ:
“ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ข้าน้อยลู่ซวงเจ๋อนายน้อยแห่งตระกูลลู่ น้องสาวข้าอุปนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมา ล่วงเกินแม่นางแล้ว เรือทิพย์ของแม่นางเสียหาย ข้าจะชดใช้ให้เอง หวังว่าแม่นางอย่าได้โมโห”
“ท่านพี่! มีสิทธิ์อะไรไปขอโทษนาง! เมื่อครู่นางยังกล่าวว่าข้าเป็นหมา!”
ลู่ซวงอิงโมโหมากยิ่งขึ้น แต่ไหนแต่ไรมาพี่ชายนางต่างก็ไม่ใช่ผู้ที่ขอโทษขอโพยคนแปลกหน้าเช่นนี้ เมื่อพบเจอเรื่องราวประเภทนี้ ก็จะนำผู้ที่ขวางหูขวางตาสังหารทิ้งโดยทันที จะขอโทษขอโพยใครที่ไหนกัน!
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าผู้นี้งดงามราวกับเทพธิดาบนสวรรค์!
“ซวงอิง แท้ที่จริงแล้วเป็นเพราะความเร็วของเรือทิพย์ของพวกเราเร็วเกินไป ถึงได้ทำลายเรือทิพย์ของแม่นางท่านนี้ พวกเราเป็นฝ่ายผิด ควรจะชดใช้ก็ต้องชดใช้”
คู่หมั้นของนางป๋ายหลี่ฮ่าวก็เอ่ยกล่าวด้วยเช่นกัน
“พี่ฮ่าว เหตุใดแม้แต่ท่านก็พูดคุยกับหญิงสาวผู้นี้ด้วย ท่านเองก็ชื่นชอบใบหน้านางจิ้งจอกเจ้าเสน่ห์นี้แล้วใช่หรือไม่!”
“ซวงอิงเจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร พวกเราเป็นฝ่ายผิดก่อน จะไร้มารยาทเช่นนี้ได้อย่างไร!”
ป๋ายหลี่ฮ่าวตำหนิเสียงเบา สายตาจ้องมองไปบนกายของเย่จายซิงเป็นครั้งครา
“เอาละ ซวงอิง เจ้าเข้าไปด้านในเรือทิพย์พร้อมกับคนอื่นๆก่อน เรื่องราวตรงนี้ข้ากับท่านพี่หลี่ฮ้าวจะจัดการเอง”
ลู่ซวงเจ๋อเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เมื่อเห็นว่าท่านพี่เกิดโทสะเล็กน้อยแล้ว ลู่ซวงอิงจ้องเขม็งอย่างดุร้ายใส่เย่จายซิงแวบหนึ่ง ถึงจะกลับเข้าไปด้านในเรือทิพย์พร้อมกันหญิงสาวคนอื่นๆสองสามคนด้วยความไม่เต็มอกเต็มใจ
“มิทราบว่าเรือทิพย์ลำนี้ของแม่นางต้องการหินทิพย์จำนวนเท่าใด ข้าน้อยจะชดใช้ให้แก่แม่นางเดี๋ยวนี้”
“แม่นาง ท่านไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ใช่คนเลว เพียงแต่เป็นเพราะว่าทำให้เรือทิพย์ของพวกท่านเสียหาย อยากจะถือโอกาสเป็นทางผ่านพาพวกท่านไปด้วยเพื่อชดเชยความผิดพลาด ที่นี่เป็นที่รกร้างไร้ผู้คน ท้องฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้ว ท่านเป็นหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้อยู่ข้างนอก พบเจออุบัติเหตุได้ง่ายๆ”
ป๋ายหลี่ฮ่าวเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
เขาหน้าตาหล่อเหลา มีหญิงสาวน้อยมากที่จะสามารถปฏิเสธคำเชิญของเขาได้
“ไม่จำเป็น พวกเราไม่สนิทกัน อีกทั้งเมื่อครู่แม่นางลู่ผู้นั้นก็มีเจตนาร้ายต่อข้าอย่างรุนแรง ข้าไม่ต้องการหาเหาใส่หัว”
เย่จายซิงเจตนานำเพลิงจุดลงไปที่ตัวของลู่ซวงอิง
ถึงอย่างไรต่างก็ไม่ใช่คนดีอะไร
“ข้าขออภัยเจ้าแทนน้องสาวข้าด้วย อันที่จริงแล้วนางก็ไม่ดีเจตนาร้ายอะไรต่อเจ้า”
“ไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว ข้ากลัวนางนิดหน่อย ฉะนั้นอย่างไรเสียพวกเราไม่ต้องคบค้าสมาคมกันจะดีกว่า”
เย่จายซิงก้มหน้าลง เจตนาเสแสร้งทำเป็นเรียบร้อยน่าสงสาร
นางไม่ต้องการให้คนทั้งสองมาพาลโกรธ ถึงแม้ว่านางจะสามารถหนีเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้ที่ใหญ่โตได้ แต่ยังมีฉียวี่เจียและกัวเจียงสองคนอยู่ที่นี่ด้วย พวกเขายังตายตอนนี้ไม่ได้
ไม่มีความจำเป็นที่จะทำให้ตนเองยุ่งยากลำบากเช่นนี้
ไม่รอให้ทั้งสองคนได้พูด นางก็กล่าวต่อไป:
“พรุ่งนี้ข้าจะไปร่วมการแข่งขันกลั่นยาที่เมืองเสวียนหยวน ถ้าหากมีวาสนาละก็ เชื่อว่ายังมีโอกาสที่ได้พบหน้ากันอีก”
“การแข่งขันกลั่นยา? หรือว่าเจ้าเป็นอาจารย์กลั่นยา?”
ลู่ซวงเจ๋อและป๋ายหลี่ฮ่าวสบตากัน เดิมทีทั้งสองคนวางแผนนำตัวลู่ซวงอิงและคนอื่นๆส่งไปก่อน ค่อยกลับมาหาเย่จายซิง
ก่อนหน้านี้พวกเขาทำเรื่องราวแบบนี้มามากมายแล้ว ย่อมจะต้องมีสัญญาลับเป็นที่รู้กันของทั้งสองฝ่าย
คิดไม่ถึงว่าเย่จายซิงจะเป็นอาจารย์กลั่นยาอย่างไม่คาดฝัน ยังต้องไปเข้าร่วมการแข่งขัน ดูเหมือนว่าไม่ใช่หญิงสาวที่มีความงามเพียงแค่เปลือกนอกประเภทนั้น
ในเมื่อยังมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง เช่นนั้นก็จะต้องวางแผนให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว แล้วก็เพื่อหลีกเลี่ยงที่ลู่ซวงอิงจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง แล้วหึงหวงจนก่อความวุ่นวาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...