เทพธิดากู่หลิงโกรธกระหืดกระหอบ
เมื่อครู่นางยังสูงส่งเหนือใคร ดื่มด่ำกับการสรรเสริญจากผู้คนอยู่เลย คาดไม่ถึงว่าหนานกงจิ่นจะดันมาช่วยพวกเย่จายซิง กลายเป็นปฏิปักษ์กับนางไปเสี่ยนี่
ตระกูลหนานกงควบคุมท่อน้ำเลี้ยงทางเศรษฐกิจทั่วทั้งใต้หล้า ผงชาดของแคว้นกู่โหมวล้วนได้รับการอุดหนุนซื้อขายจากห้างร้านตระกูลหนานกง โดยให้สมบัติเงินทองมหาศาลกับแหล่งพลังยุทธแก่ราชสำนักและชาวบ้านเป็นการแลกเปลี่ยน
ความสำคัญของตระกูลหนานกงต่อแคว้นกู่โหมว ไม่จำเป็นต้องมีคำบรรยายใดๆ
นางบีบกำปั้น แล้วเอ่ยกับหนานกงจิ่นเสียงขรึมว่า:
"ท่านอย่าลืมสิ วันพรุ่งฮ่องเต้ให้ข้านำคณะเข้าไปในสุสานเพื่อช่วยผู้อาวุโสจากตระกูลหนานกงของพวกท่านออกมา ตอนนี้กลับตั้งตนเป็นศัตรูกับข้า คิดจะทิ้งขว้างไม่ใยดีผู้อาวุโสของพวกท่านอย่างนั้นหรือ?"
หากเป็นเมื่อก่อน เทพธิดากู่หลิงย่อมไม่เอ่ยถ้อยคำรุนแรงเพียงนี้ออกมาแน่นอน เพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหากับตระกูลหนานกง แต่วันนี้ไม่รู้เพราะเหตุใด ความร้ายกาจในใจของนางถึงได้รุนแรงนัก โดยเฉพาะนางยิ่งไม่ต้องการให้เย่จายซิงกดหัวนางอีกต่างหาก
เพียงนางเห็นเย่จายซิงครั้งแรก ก็เกิดอาการต่อต้านและไม่ชอบหน้าอย่างรุนแรงแล้ว คล้ายกับว่าการปรากฏตัวของคนผู้นี้ จะมาแย่งชิงรัศมีที่เป็นของนางไป
นางจึงพูดจาข่มขู่หนานกงจิ่นออกมา
แต่หนานกงจิ่นกลับแสยะยิ้ม เอ่ยว่า:
"เทพธิดากู่หลิง ท่านคงประเมิณตนสูงเกินไปแล้ว ต่อให้ไม่มีท่านนำคณะ คนที่ฮ่องเต้ให้ข้ายืมตัวมาเหล่านี้ อย่างไรก็ตามข้าไปในสุสานอยู่ดี ท่านจะไปหรือไม่ไป สำหรับข้าแล้ว มันไม่ได้เสียหายอะไรแม้แต่นิดเดียว"
ถ้อยคำนี้กล่าวได้ว่าไม่หลงเหลือความเกรงใจใดๆ ให้กับเทพธิดากู่หลิงแล้ว
นางโกรธจนหน้าแดงไปหมด ขบฟันกรามแน่น แค้นเคืองจนทนไม่ไหว
ดวงตาของนางแดงก่ำ แล้วเอ่ยตัดพ้อว่า: "พวกท่านเห็นข้าไร้บิดามารดา ตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง เลยมารังแกข้า ข้าทำอะไรผิด เห็นๆ อยู่ว่านางเป็นฝ่ายยั่วยุข้าก่อน!"
นางชี้หน้าเย่จายซิง ในความโกรธเคืองแฝงไว้ซึ่งความอ่อนแอ หยาดน้ำตาไหลนองอย่างสุดจะทานทน
นางเปลี่ยนวิธีการใหม่ หันมาเล่นงานเย่จายซิงเพียงคนเดียว ให้ชาวแคว้นกู่โหมวพากันเกลียดชังนางเข้ากระดูก
กลั่นแกล้งพระธิดา ก็คือคนบาปของแคว้นกู่โหมว!
และก็เป็นไปตามคาด แม้ทุกคนจะคุกเข่าให้กับแรงอำนาจของโม่เสิ่นยวนอยู่ แต่สายตาที่มองเย่จายซิงก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นเช่นกัน
แต่พอเย่จายซิงได้เห็นภาพนี้ กลับรู้สึกสนุกเหลือล้น
น่าสนใจจัง เทพธิดากู่หลิงใช้คนที่เคารพและชื่นชอบนางเหล่านี้มาเป็นอาวุธ ทว่าความรู้สึกดีๆ ที่ทุกคนมีต่อนาง ล้วนมาจากปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติตอนที่นางเกิด ว่าเป็นมงคลต่ออาณาจักรไม่ใช่หรอกหรือ?
ก็แค่นกเขาที่ยึดรังนกกางเขน มันไม่ใช่ของของนาง สักวันก็จะต้องสูญเสียมันไป
ถึงตอนนั้น นางจะยังมีอะไรเหลืออีก?
"เทพธิดากู่หลิงแผนสูงยิ่งนัก วันนี้ช่างเปิดประสบการณ์จริงๆ"
เย่จายซิงพูดเนิบช้า
บนใบหน้างดงาม ยังคงนิ่งสงบเหมือนตอนแรก ราวกับไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่อาจทำนางสะทกสะท้านได้
ไม่รู้ทำไม เทพธิดากู่หลิงเห็นสีหน้าของนางแล้ว ก็รู้สึกหงุดหงิด อึดอัด และโมโหยิ่งกว่าเดิม
"ก็แค่หญิงบ้าเอาแต่ใจตัวเอง"
โม่เสิ่นยวนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยราบเรียบ มองนางไร้ค่าขึ้นไปอีก
เทพธิดากู่หลิงเคยได้รับความอัปยศซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้เมื่อไรกัน นางโกรธจนหมุนตัวเดินออกไปเลย
นางกลัวว่าหากอยู่ต่อไป คงได้โกรธจนช้ำในเป็นแน่
พอนางไป โม่เสิ่นยวนก็สะบัดแขนเสื้อหนึ่งครา ทุกคนรู้สึกเพียงว่าแรงกดทับหายไปแล้ว ความหวาดผวาบังเกิดขึ้นในก้นบึ้งของหัวใจ
ต่อให้จะโกรธเคืองเพียงใด คับแค้นใจแทนเทพธิดากู่หลิงเพียงใด ก็ไม่มีใครกล้าเดินมาข้างหน้าเลยสักคน พวกขี้ขลาดบางคน ยังวิ่งหนีไปนานแล้ว
"พี่หนานกงจิ่น พวกเราจะไม่ทำให้การลงไปช่วยคนในสุสานของท่านมีปัญหาใช่หรือไม่?"
เย่จายซิงเอ่ยถามหนานกงจิ่น
เขาส่ายหน้ากล่าว: "ไม่หรอก สุสานใหญ่แห่งนี้เฮี้ยนมาก จะมีเทพธิดากู่หลิงนำขบวนหรือไม่ ก็ไม่ได้มีความต่างมากมาย ข้าเดาว่าการลงสุสานพรุ่งนี้ คงโชคร้ายมากกว่าโชคดี"
"ถูกแล้ว หลายวันมานี้ข้าดูพยากรณ์อยู่ตลอด ในสุสานมีแต่สิ่งชั่วร้าย"
เวลานี้เฮ่อจี้กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เย่จายซิงยิ้มปฏิเสธ คุณพี่ของตนมีเรือทิพย์ ก็เลยไม่นั่งของผู้อื่น
โม่เสิ่นยวนนำเรือทิพย์ออกมา หลังจากเย่จายซิงขึ้นไปแล้ว ก็หายวับไปตรงนั้น อย่างไร้ร่องรอย
หลายคนตาค้างอ้าปากเหวอมองทิศที่เรือทิพย์อันตรธานหายไป
"พับผ่าสิ หากข้ามองไม่ผิดล่ะก็ เรือทิพย์ลำนั้นเหมือนจะเป็นภัณฑ์เทพเลยล่ะ!"
เสวียนหยวนป๋ายตะลึงลานตาโต
ทั่วทั้งแผ่นดิน เรือทิพย์เทพภัณฑ์ล้วนสร้างขึ้นด้วยหลากหลายจุดประสงค์ มีแค่ตระกูลใหญ่และสำนักใหญ่บางแห่งเท่านั้นถึงจะได้เห็นสักลำ
"โม่เสิ่นยวนผู้นี้เป็นใครกัน? เหตุใดก่อนหน้านี้พวกเราไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน?"
เสวียนหยวนป๋ายเอ่ยอย่างเหลือเชื่อ
คนที่สามารถนำเรือทิพย์เทพภัณฑ์ออกมาได้อย่างคล่องมือนั้นมีไม่กี่คน ไม่มีเหตุผลอันใดที่พวกเขาจะไม่รู้จัก
ซ้ำวรยุทธของคนผู้นี้ยังผงาดฟ้า แข็งแกร่งจนถึงขั้นสุดอีกด้วย
ต้องไม่มีทางเป็นคนไร้ชื่อเสียงเรียงนามสิน่า
"เรือทิพย์ของเขา ดูไม่เหมือนฝีไม้ลายมือของอาจารย์ภัณฑ์เทพคนใดในแผ่นดินเราเลย"
หนานกงจิ่นเอ่ยอย่างขบคิด
"หา? เจ้าหมายความว่า เขาไม่ใช่คนแผ่นดินหลิงเซียวของพวกเรางั้นหรือ?"
"ไม่แน่ว่าอาจเป็นเช่นนั้น แล้วแม่นางเย่ ความสามารถด้านวิชากลศึกของนางยังล้ำเลิศด้วย แต่พวกเราไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนางมาก่อน นางกับโม่เสิ่นยวนสองคน อาจมาจากแผ่นดินอื่นก็เป็นได้"
เขาคาดเดา
"มิน่าเล่าพวกเราถึงไม่เคยได้ยินเรื่องของคนที่เก่งกาจขนาดนี้มาก่อน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกเขามาที่แผ่นดินของพวกเราเพราะอะไร คงไม่ได้มาทำลายล้างแผ่นดินหลิงเซียวของพวกเราหรอกนะ?"
เสวียนหยวนป๋ายคิดอ่านไปต่างๆ นานา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...