บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 44

เย่เจียหยูพูดไปพลาง แล้วก็ยื่นมือออกมาทางไหล่ของเย่จายซิงไปพลาง หวังจะโอบจับมือของนางเพื่อแสดงความสนิทสนมระหว่างพี่น้อง

แต่นางยังไม่ทันได้แตะต้องถูกเย่จายซิง จิ้งจอกน้อยก็กัดเข้าให้ หากไม่ใช่นางหลบได้ทัน บนมือจะต้องมีเลือดไหลซิบๆ เป็นแน่

“เจ้าสัตว์ชั่วตัวนี้สมควรตายเสียจริง!”

ฮูหยินเฒ่ากล่าวด่าว่าเสียงดังทันที

แม้ว่าอารมณ์ของเย่เจียหยูจะไม่พอใจนัก ทว่าด่าว่าก็ด่าไม่ได้ นางยังอยากต้องการให้จิ้งจอกน้อยรับนางเป็นนายน้อย ดังนั้นนางจึงรีบกล่าวว่า

“ท่านย่า ท่านอย่าโทษมันเลย อาจเป็นเพราะเมื่อครู่ข้าทำให้มันตกใจ มันเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ จะอ่านนิสัยของคนได้ดีที่สุด ไม่ได้ตั้งใจกัดคนจริงๆ หรอก”

“อะไรนะ? คิดไม่ถึงว่าจิ้งจอกตัวนี้จะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์?”

ฮูหยินเฒ่าตกใจอึ้งไป เย่เจ๋อหย่งและคนแซ่หวังก็ประหลาดใจเช่นกัน

เมื่อครู่เย่เจียหยูเพียงแค่ให้คนรับใช้ไปแจ้งข่าว ให้ฮูหยินเฒ่าเรียกเย่จายซิงให้มาที่นี่ แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าด้วยสาเหตุใด

พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าหนูจิ้งจอกตัวนี้จะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ตาในตำนานที่เล่าต่อๆ กันมาจริงๆ

แผ่นดินเทียนเหย้าแม้แต่เด็ก 3 ขวบยังรู้เลยว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์คืออะไร คนที่สามารถรู้ใจอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นต้องเป็นคนที่อนาคตไกลอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเป็นแน่

อสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือบรรดาอสูรทั้งหลาย อยู่รองแค่เพียงอสูรทิพย์เท่านั้น

ในใต้หล้านี้ไม่รู้ว่ามีผู้ฝึกตนเท่าไหร่ที่ต้องการจะรู้ใจอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่ปริมาณอสูรศักดิ์สิทธิ์ค่อนข้างน้อย บนแผ่นดินมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่รู้ใจเจ้าของอสูรสามารถนับได้เลย

และสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าไม่น่าเชื่อเลยก็คือ เป็นถึงอสูรศักดิ์สิทธิ์เหตุใดจึงอยู่ในอ้อมอกของคนไร้ความสามารถอย่างเย่จายซิง

“ท่านย่า ท่านพ่อท่านแม่ อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้เป็นสิ่งที่อ๋องเซ่อเจิ้งมอบให้น้องสี่น่ะ”

เย่เจียหยูกล่าว

พูดจบ นางแอบขยิบตากับท่านพ่อท่านแม่

เย่เจ๋อหย่งรีบกล่าวขึ้นว่า

“จายซิง เจ้าไม่สามารถฝึกตนได้ อสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือของเจ้าก็เป็นได้เพียงไข่มุกที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นเท่านั้น เจ้าเอาอสูรศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านพี่รองเถอะ”

“ใช่แล้วล่ะ เจ้าเอาอสูรศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านพี่รอง ไว้วันหลังพวกข้าจะมอบอสูรทิพย์ขั้นแรกที่สวยงามหนึ่งตัวให้เจ้า ให้เจ้าไปกอดเล่น”

รอยยิ้มบนใบหน้าของคนแซ่หวังพูดไปทางเย่จายซิง ดวงตาแห่งความโลภคู่นั้นมองไปที่จิ้งจอกน้อยอยู่

หากน้องหยูสามารถรู้ใจจิ้งจอกน้อยได้ ถ้าเช่นนั้นน้องหยูชาตินี้ก็ไม่ต้องกลัดกลุ้มแล้ว

“เอาอสูรทิพย์ขั้นแรกจากที่ไหนก็เห็นได้มาแลกอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยากยิ่งบนโลกนี้ พี่สะใภ้รองช่างวาดฝันไว้สวยงามเกินไปแล้วมั้ง!”

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเด็กหนุ่มดังมีจากด้านนอกประตู

เย่ยู่หยางเดินตัดทางแสงเข้ามา รูปร่างของเขาซูบผอม เดินกะโผลกกะเผลก แต่แผ่นหลังยืดตรง คิ้วขมวดเข้าหากัน ดวงตาแน่วแน่ โหงวเฮ้งธรรมดาปกติแต่ดูสง่างามต่างจากคนปกติ ช่างเป็นช่ายหนุ่มที่รูปงามคนหนึ่ง

เย่จายซิงเห็นน้องชายรูปงามมุมปากก็ยกขึ้น น้องชายยังคงค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเอง

“พี่สะใภ้รองกำลังละเมอพูดคำพูดในฝันอยู่น่ะ”

นางกล่าวต่อจากน้องชาย

เย่ยู่หยางเม้มริมฝีปากยิ้มอยู่ชั่วครู่ คำพูดของท่านพี่มักจะแทงใจดำเสมอ

คนแซ่หวังกล่าวด้วยอาการโมโหว่า “พวกเจ้าพูดกับผู้อาวุโสเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? ผู้อาวุโสอ่อนข้อให้พวกเจ้าก็เท่ากับว่าเห็นแก่หน้าพวกเจ้าแล้ว!”

“การเห็นแก่หน้าเช่นนี้ ท่านไม่ต้องให้ก็ได้ หากท่านพ่อของข้ายังมีชีวิตอยู่ แล้วรู้ว่าพวกท่านจะปากคอเช่นนี้ ไม่รู้จะต้องปวดใจขนาดไหนกัน!”

เย่ยู่หยางกล่าวด้วยเสียงเย็นชา

เมื่อก่อนเขายอมอดทนมาตลอด แต่กลับแลกมาด้วยการได้คืบเอาศอกของบ้านรองและบ้านสาม

บัดนี้เขาไม่อยากทนแล้ว ไม่ได้คิดเพื่อตนเองก็ต้องทำเพื่อท่านพี่ เขาเป็นผู้ชายคนเดียวของบ้านใหญ่ แม้ว่าเขาจะกลายเป็นคนไร้ค่าไป ก็ต้องยืนหยัดเพื่อท่านพี่ของเขาเช่นกัน

“คิดไม่ถึงว่าจะกล้าต่อปากต่อคำ!ข้าว่าพวกเจ้าพี่น้องสองคนไม่อยากอยู่แล้วล่ะ!”

เสียงของฮูหยินเฒ่าเคร่งขรึมขึ้นอีก ดูท่าจะต้องมีการใช้กฎของตระกูลเป็นแน่

นางชี้ไปยังแม่นมหลินที่ยังคุกเข่าอยู่กับพื้นแล้วกล่าวกับเย่จายซิงว่า

“ดูสิ นี่ก็คือสิ่งที่จิ้งจอกน้องของเจ้าตัวนี้ทำ แม่นมหลินเป็นคนรับใช้เก่าแก่ที่คนแก่อย่างข้าไว้ใจที่สุด ตีนางก็เหมือนกับตีข้า ในเมื่อเจ้าดูแลอสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ก็เอาอสูรศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านพี่รองของเจ้าไปเสีย มีเพียงพรสวรรค์เช่นนางแบบนี้จึงจะคู่ควรกับอสูรศักดิ์สิทธิ์!”

เย่เจียหยูที่สีหน้าอ่อนโยนได้หยิบยาขั้นสามออกมาให้แม่นมหลิน 1เม็ด ช่างใจกว้างเสียจริง

ควรจะรู้ว่ายาขั้นสามเม็ดนี้ราคาไม่ต่ำเลย สามารถซื้อหญิงรับใช้เช่นแม่นมหลินแบบนี้ได้ 10กว่าคนเลย

แต่เย่เจียหยูถูกความคลั่งไคล้ครอบอยู่ แม้แต่นิดก็ไม่รู้สึกเสียดาย ดูเหมือนว่าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ที่อยู่ในห้องจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่รักของนางไปแล้ว

แม่นมหลินยินดียกใหญ่ ชาตินี้นางไม่มีทางได้กินยาขั้นสามได้แน่ คิดไม่ถึงว่าคุณหนูรองจะใจกว้างเช่นนี้

ตัวยาในยาขั้นสามยังมีส่วนช่วยในการยืดอายุขัยได้ด้วย

เย่เจียหยูยอมสละเม็ดยา แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนไปทางเจ้าจิ้งจอกแดง

“จิ้งจอกน้อย เจ้าน่าจะรู้นิสัยใจคอคนอย่างดี เจ้าก็รู้ว่าหญิงสามคนเมื่อครู่นั้นไม่สามารถฝึกตนได้ เจ้าจะไปยอมรับนางเป็นนายหญิงไม่ได้ มิเช่นนั้นชาตินี้เจ้าจะไม่ได้อะไรเลย แต่ข้า ไม่ว่าคุณสมบัติในการฝึกตนหรือพรสวรรค์กลั่นยาล้วนแข็งแกร่งทั้งนั้น เจ้ายอมรับข้าเป็นนายหญิง ข้าก็จะให้เจ้าได้กลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ร้ายกาจที่สุด เจ้ากับข้าร่วมมือกันเป็นความภาคภูมิใจของพระนคร”

นางกล่าวสั่งสอนอย่างอดทนและจริงจัง

จิ้งจอกน้อยยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับไปไหน ในสายตาของเย่เจียหยูและคนอื่นๆ ตรงนั้นคิดว่ามันยอมรับในคำพูดของนาง

รอยยิ้มของเย่เจียหยูยิ่งมากขึ้นไปอีก ยื่นมือออกไปคิดที่จะอุ้มจิ้งจอกน้อยขึ้นมา

ไม่มีใครรู้ว่าตอนที่มือของนางจะสัมผัสไปถูกขนของมันนั้น มันกัดไปที่มือของนางด้วยความไวราวแสงก็ไม่ปานอย่างโหดร้าย เมื่อนางกรีดร้องออกมา จิ้งจอกน้อยก็ตดเหม็นดังปู้ดใส่นางไปหนึ่งที จากนั้นก็วิ่งลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ไอ้สัตว์บ้าสมควรตาย!”

“รีบจับมันไว้......”

ฮูหยินเฒ่า เย่เจ๋อหย่งและคนอื่นๆ ตะโกนอย่างโมโห แต่ทันทีที่ส่งเสียงออกมาก็วิงเวียนศีรษะ ครอกแครกครอกแครกอยู่สองสามที ทุกคนที่อยู่ในห้องทั้งหมดต่างหมดสติและล้มลงอยู่กับพื้น

และเย่เจียหยูที่ถูกจิ้งจอกน้อยกัดไปหนึ่งทีนั้น บริเวณที่โดนกัดก็เปลี่ยนเป็นรอยเขียวช้ำตามที่ตาเห็น

“มีพิษ!”

เย่เจียหยูกัดปลายลิ้นไม่ให้ตนเองหมดสติไปได้ รีบควักเอายาถอนพิษหนึ่งเม็ดออกมาด้วยความรวดเร็วแล้วกินลงไป ผ่านไปเพียงชั่วครู่ก็เป็นลมหมดสติไป



ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา