หลังจากรู้แจ้งแถลงไข ช่วงนี้โพ่ตี้อวี้ไม่เป็นคนทำครัวแล้ว แต่ลงทุนกับบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์แทน
หากใช้คำพูดของเขากล่าว ก็คือใช้เงินลงทุนกับเรื่องนี้ให้บรรดาหลานชายของเขาสนุกเท่านั้นเอง
เด็กๆ ก็เรียกเขาว่าคุณปู่โพ่ตี้อวี้แล้ว ฉะนั้นเขาจึงถือตัวนับพวกเขาเป็นหลานชายเสีย ถึงอย่างไรเขาก็มากด้วยทรัพย์ไม่มีที่จะใช้อยู่แล้ว ยังต้องให้พวกเขารับช่วงต่อไปในภายภาคหน้า
แต่ความจริงเด็กๆ ก็ไม่ยี่หระสักเท่าไร เพราะแค่ทรัพย์สินฮ่องเต้ฮุยจงพวกเขาก็ถลุงไม่หมดแล้ว
โพ่ตี้อวี้คิดว่าทรัพย์สินของฮ่องเต้ฮุยจงทิ้งไว้ให้รุ่นต่อไปได้ พวกเขารุ่นนี้ต้องใช้เงินของเขาให้หมดก่อน จะเหลือให้เป็นความรับผิดชอบของรุ่นต่อไปมากก็ไม่ได้
เช่นนี้จะโหดร้ายเกินไป
และหลังจากก่อตั้งบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์แล้วโครงการแรกก็คือให้เซเว่นอัพเขียนบทละครขึ้นมาเรื่องหนึ่ง
หยวนชิงหลิงถาม “ในเมื่อเจ้าก็มีรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วนแล้ว ทำไมต้องกลับไปอีกล่ะ?”
เซเว่นอัพตอบ “ก็เพราะเรื่องนี้ของข้าเขียนเรื่องราวสมัยท่านทวดนะสิ ถึงคุณปู่โพ่ตี้อวี้จะเล่าให้ฟังตั้งเยอะแล้ว แต่ข้าคิดว่าในคำพูดของเขามีเรื่องเสริมเติมแต่งอยู่มาก ก็อย่างเขาบอกว่าตอนนั้นสละลาภยศเงินทอง ยอมมาบุกเบิกที่นี่เป็นเพื่อนพวกฮ่องเต้ฮุยจงด้วยความสมัครใจ สูงส่งเสียไม่มี จุดนี้ข้าคิดว่าไม่เป็นจริง”
หยวนชิงหลิงทราบดีว่าโพ่ตี้อวี้ผ่านอะไรมาบ้าง อันที่จริงทุกคนต่างทราบ และโพ่ตี้อวี้เองก็ทราบว่าทุกคนรู้แจ้ง แต่เขาก็อยากแต่งเรื่องนั่นแหละ
หรืออาจกล่าวได้ว่านั่นมิใช่เรื่องแต่ง หลายสิบปีมานี้เขาเกลี้ยกล่อมตัวเองว่าขณะนั้นเขาสละลาภยศเงินทองมาผู้จัดการธุระปะปังที่นี่
เซเว่นอัพกล่าว “ยังไงข้าก็ต้องการความจริง”
หยวนชิงหลิงพยักหน้า “ที่จริงเรื่องของพวกเขาก็คู่ควรแก่การถ่ายทำ ในเมื่อตั้งหัวข้อมาแล้ว หรือจะต้องตั้งชื่อด้วย?”
“เรียกว่าเรื่องราวของเป่ยถังไปก่อน” เซเว่นอัพมองพลางแกว่งมือของมารดา “ท่านแม่ก็ตั้งให้สักชื่อสิ”
หยวนชิงหลิงหัวเราะพลางพูดขึ้น “ข้า? ข้าตั้งชื่อไม่เป็น กลับไปถามท่านฉู่เถอะ”
“ก็ได้” เซเว่นอัพพยักหน้า
หยวนชิงหลิงถามเอาบทละครมาดู ตอนนี้บทละครอยู่ระหว่างครึ่งๆ กลางๆ แค่เห็นถึงรูปแบบของเรื่องเท่านั้น ยังไม่ใช่บทละคร
มีหลายอย่างในนั้นที่สอดคล้องกับความจริง เบื้องหลังทั้งหมดก็สมจริงมากด้วย
นางตั้งตารอคอยมาก รู้สึกว่าหากนำเรื่องนี้ไปฉายบนจอให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราวที่พวกเขาเคยประสบพบเจอด้วยรูปแบบของละครต้องมีความหมายมากแน่
หยวนชิงหลิงหัวเราะกล่าว “ถึงข้าจะรู้สึกว่าควรให้ท่านฉู่ตั้งชื่อ แต่อย่างไรก็เป็นผลงานแรกของเจ้า ข้าจึงชิงงานของท่านฉู่เสีย”
“ไม่เป็นไร ท่านฉู่ตั้งชื่อตัวละครในเรื่องก็ได้ อย่างไรเราก็ใช้ชื่อจริงไม่ได้กระมัง”
“เรื่องนี้เจ้ากลับไปคิดอีกที” ที่จริงหยวนชิงหลิงคิดว่าใช้ชื่อจริงก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนรู้จักคุ้นเคยอยู่แล้ว “ถ้าพวกเขายินยอมใช้ชื่อจริง เจ้าก็ใช้เถอะ”
เซเว่นอัพเกาศีรษะ “แต่งบข้าไม่พอ ถ้าพวกเขาใช้ชื่อจริงก็ต้องให้ค่าตอบแทนพวกเขาถึงจะเข้าตามกฎกติกา เราจะเอาเปรียบที่พวกเขาไม่รู้เรื่องไม่ได้”
หยวนชิงหลิงหัวเราะชอบใจ “ถ้าเจ้าบอกพวกเขาว่าจะได้รับค่าตอบแทน พวกเขาก็ต้องเลือกใช้ชื่อจริงของตัวเองอยู่แล้ว งบประมาณนี้ข้าจะหามาช่วยเจ้าเอง ถึงอย่างไรที่พวกเขาใช้ก็คือเงินตำลึง”
พวกเขาใช้ธนบัตรเสียเมื่อไร ฉะนั้นจึงไม่เปลืองงบของเซเว่นอัพ
“จริงหรือ? เช่นนั้นข้าต้องขอบคุณท่านแม่มากแล้ว” เซเว่นอัพรีบเข้าไปสวมกอดมารดา ออดอ้อนอีกยกหนึ่ง “ข้ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่จะขอร้อง ท่านแม่จะมาเป็นดารารับเชิญได้หรือไม่?”
หยวนชิงหลิงหัวเราะโบกมือ “ไม่ ข้าช่วยเจ้าทำงานในกอง เป็นลูกมือได้ แต่จะเป็นดารารับเชิญไม่ได้เด็ดขาด ข้าแสดงเป็นที่ไหนกันเล่า? กลับเป็นพ่อเจ้าแสดงได้ ก็เขาเป็นพวกมีความสามารถนี่”
แต่หากกล่าวถึงพวกมีความสามารถ พวกที่อยู่ในพระราชวังเป่ยถัง แต่ละคนก็เป็นนักแสดงยอดเยี่ยมทั้งนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...