บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1675

บทที่ 1675 กระบี่สะท้านจักรวาล

………………..

บทที่ 1675 กระบี่สะท้านจักรวาล

หนึ่งซากโบราณสถานอันปกคลุมไปด้วยซากกำแพงพังถล่ม

จวนอวี๋สุ่ยอาบโลหิตชุ่มกาย ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ ลมหายใจหนักหน่วงราวขับกระแทกไม่จบสิ้น

เขาเป็นยอดฝีมือผู้ฝึกทักษะขัดเกลากายาเทพอสูรคนหนึ่ง ซ้ำยังเป็นมหาเทวาวิญญาณอันดับยี่สิบเอ็ดบนเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณ

ทว่ายามนี้ เขากลับอยู่ในสภาพย่ำแย่เช่นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าศึกที่เผชิญโหดเหี้ยมเพียงไร ถึงขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ยอดฝีมือในทักษะขัดเกลากายา คงถูกสังหารไปนานแล้ว

ขณะนี้ แม้จะยังคงยืนหยัดอยู่ได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่อาจทานทนได้นาน

ยอดฝีมือในทักษะขัดเกลากายาใช่ว่าไม่มีทางสังหารได้ เพราะขอเพียงรีดโลหิตทุกหยด ขยี้ทุกคำนึง พวกเขาก็จะสิ้นลมหายใจอย่างไร้กังขา

แน่นอน การทำเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

นี่คือเหตุผลที่จวนอวี๋สุ่ยยังยืนอยู่ที่นี่ได้จนถึงตอนนี้

ขณะเดียวกัน ศัตรูยืนอยู่ตรงหน้าเขา!

เบื้องหน้ามีศัตรูกว่าสิบคน ชายหนุ่มชุดแดงซึ่งเป็นผู้นำเผยสีหน้าล้อเลียน ผิวขาวเนียนดุจสตรี แต้มชาดที่ริมฝีปาก ให้บรรยากาศสุดพิกล

ชายผู้นั้นเล่นกับดาบโค้งสีแดงเลือดยาวหนึ่งฉื่ออันเปล่งประกายคมกริบในมือ เลียริมฝีปากแดงสดดุจฉาบโลหิตของตนขณะจ้องมองจวนอวี๋สุ่ยด้วยสายตาเย้าเยาะ กล่าวขึ้นช้า ๆ “จวนอวี๋สุ่ย หากเจ้ายังดื้อด้าน แม้เจ้าจะไม่ตาย แต่สหายทั้งสามเบื้องหลังเจ้าจะเผชิญหายนะยามเจ้าสิ้นกำลังสู้ต่อนะ”

เสียงของเขาแหลมเล็กดุจสตรี ฟังดูเหมือนอสรพิษร้ายแลบลิ้น ชวนให้เส้นขนทั่วกายลุกชัน

จวนอวี๋สุ่ยเม้มปากเงียบกริบ

ชายหนุ่มผู้นี้มีชื่อว่าตี้จวิน มาจากตระกูลตี้ ณ เอกภพจักรวรรดิ นอกจากนั้น ตัวเขายังเป็นมหาเทวาวิญญาณลำดับสิบสองบนเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณ การฝึกฝนแข็งแกร่งถึงขีดสุด

ทว่าจวนอวี๋สุ่ยไม่เหลือบแลตี้จวิน สายตาของเขามองไปยังเบื้องหลังกลุ่มศัตรูเสียแทน

มีชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งยืนลำพังอยู่ที่นั่น

ชายหนุ่มผู้นั้นมีเรือนผมดกดำเคลียบ่า รอยยิ้มลอยชายเกียจคร้าน ขณะนี้กำลังเล่นกับวิหคเพลิงสีชาดบนบ่าตน

ปรากฏว่าเขาคือลั่วฉ่าวหนง!

“เจ้าควรจะรู้นะ ว่าหากพวกเขาทั้งสามมาอยู่ในมือข้า ชะตาที่รออยู่ก็มีแต่หายนะ ไม่เพียงต้องเจ็บปวดแสนสาหัส ยังเลี่ยงความตายไม่พ้นด้วย” ตี้จวินกล่าวต่ออย่างไม่รีบร้อน “ดังนั้นข้าแนะนำให้เจ้าส่งรากเต๋าบรรพชนระดับเจ็ดนั่นมาเสียดีกว่า เพื่อประโยชน์ของทุกคน”

จวนอวี๋สุ่ยยังคงเงียบ

ทว่าร่างของผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งสามเบื้องหลังกลับสั่นสะท้าน เผยสีหน้าขวัญผวา เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้จักตี้จวิน และตระหนักดีว่าหากถูกคนผู้นี้หมายหัว ผลลัพธ์ที่ตามมาจะแย่ยิ่งกว่าตกนรกขุมสิบแปดอีก

“ดูเหมือนเจ้ายังหวังว่าจะมีใครมาช่วยพวกเจ้าอยู่นะ น่าเสียดาย ข้าจะไม่ให้เวลาพวกเจ้าแล้ว” ตี้จวินรำพึงเบา ๆ ดูเหมือนหมดความอดทน

วูบ!

ดาบโค้งสีแดงเลือดในมือหมุนควง เผยประกายแสงเจิดจรัส หลังจากนั้น มันก็ทะลวงมิติเสียงดังวูบ ฟาดฟันลงใส่จวนอวี๋สุ่ยด้วยความเร็วเกินเข้าใจ

จวนอวี๋สุ่ยตั้งใจฝืนการโจมตีนี้ ทว่าร่างกลับสั่นสะท้าน พลังชีวิตรวนเร ถูกบีบบังคับให้มองการโจมตีนี้ฟาดฟันร่าง สะบั้นแขนข้างหนึ่งอย่างจนใจ

หลังจากนั้น ร่างก็ถูกฟาดกระเด็น ล้มกลิ้งลงบนพื้น เจ็บปวดเสียจนไม่อาจลุกขึ้นได้อีก

ก่อนหน้านี้ เขาบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว หากไม่พึ่งพลังใจอันเหนียวแน่นของตน คงไม่อาจยืนหยัดมาได้จนถึงตอนนี้

“ตี้จวิน ข้าเห็นรากเต๋าบรรพชนระดับเจ็ดนี่ก่อน และพวกเจ้าก็ชิงรากเต๋าบรรพชนไปแล้วสามชิ้น ยังคิดกดดันข้าให้ส่งให้อีกหรือ?” จวนอวี๋สุ่ยพูดปนหอบ ขณะที่โลหิตทะลักรินจากมุมปาก สายตาเต็มไปด้วยความโกรธอย่างหาได้ยาก เดือดดาลตาแทบถลน

เขาไม่ห่วงชะตาตนเอง เพราะในฐานะทายาทตระกูลจวนอวี๋และมหาเทวาวิญญาณผู้หนึ่ง ไม่ว่าตี้จวินจะโอหังเพียงไร ก็ไม่กล้าฆ่าเขาแน่นอน

แต่ไม่ใช่กับสหายทั้งสามซึ่งยืนอยู่เบื้องหลัง ชีวิตของคนเหล่านั้นจะอยู่ในอันตรายหากเสียการคุ้มครองจากเขาไป!

“นี้คือการต่อสู้ หากฝีมือเจ้าแย่กว่า การมีรากเต๋าบรรพชนระดับเจ็ดในครอบครองก็นับเป็นความผิดเช่นกัน” ตี้จวินหัวเราะเบา ๆ ขณะย่างเท้าไปหาผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งสาม “จวนอวี๋สุ่ย ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายกับเจ้า จะส่งมันมาให้ข้าหรือไม่? ข้าจะนับถึงสาม หากเจ้ายังไม่ยอมจำนน เช่นนั้นพวกเขาทั้งสามก็มีแต่จะตายเพราะเจ้านะ”

“หนึ่ง” ดุจเสียงนาฬิกานับถอยหลังสู่ความตาย ขณะนี้ผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งสามขวัญเสียจนหน้าซีดขาว เกือบเริ่มอ้อนวอนขอความเมตตา พวกเขาอดมองจวนอวี๋สุ่ยด้วยสายตาเจืออ้อนวอนไม่ได้

จวนอวี๋สุ่ยหอบหายใจรัวเร็ว กัดฟันเอ่ยปาก “ตี้จวิน! เจ้าแน่ใจจะบีบข้าให้สู้ยิบตาแล้วหรือ!?”

“สอง” ตี้จวินฉีกยิ้ม ดูเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของจวนอวี๋สุ่ยเลย เขาทำเพียงเงื้อดาบโค้งสีแดงเลือดในมือขึ้นชี้ไปทางสามผู้เยี่ยมยุทธ์จากไกล ๆ

“พี่ใหญ่จวนอวี๋ ให้… ให้… เขาไปดีหรือไม่?” ผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งสามกลัวหัวหด ขวัญเจียนบินหนีสิ้น พวกเขาไม่อยากตายกันเช่นนี้ เพราะแม้จะทราบว่าจวนอวี๋สุ่ยกำลังรอกลุ่มของเล่ออู๋เหินมาช่วยเหลือ แต่หากพวกเล่ออู๋เหินมาช้าไปก้าวหนึ่งเล่า?

เขากล่าวทุกถ้อยคำชัดเจน ดูเหมือนเค้นลอดไรฟัน เต็มไปด้วยโทสะร้ายกาจ

ตี้จวินพลันหัวเราะอย่างเหิมเกริม แล้วรำพึง “น่าเสียดายนะ เจ้าตอบรับช้าไป”

ว่าแล้ว เขาก็มองผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งสาม กล่าวหนึ่งวาจาจากริมฝีปากแดงสดเบา ๆ “สาม!”

บทที่ 1675 กระบี่สะท้านจักรวาล 1

บทที่ 1675 กระบี่สะท้านจักรวาล 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]