บทที่ 58
“เอาน้องสาวคุณ” คำตอบโต้งๆ ของเขาทำเอาคนเป็นน้องสาวเขินจนหน้าแดงกับคำพูดสองแง่สองง่ามของพ่อคุณ
“พูดบ้าอะไรของคุณเนี่ย” เธอแหวเสียงเขียว
“อ้อ…ผมหมายถึงเอาน้องสาวคุณมาเป็นแฟนน่ะ” เห็นหน้าที่แดงเป็นลูกตำลึงสุกของเธอ เขาจึงรีบแก้ให้ แต่เหมือนยิ่งแก้ก็ยิ่งทำให้เธอประดักประเดิดจนไม่กล้าสู้หน้าพี่สาว
“ฮ่าๆๆ น้องฉันจะมีสามีแล้วเหรอเนี่ย” เห็นแบบนั้นเมษาก็อดที่จะล้อน้องไม่ได้อีก
“อะไรเล่า มันก็ต้องเริ่มจากแฟนก่อนสิ” เธอก้มหน้าก้มตางึมงำแทบไม่กล้าเงยมองหน้าใคร
“อืม! แฟนก็แฟน แล้วนี่แกอยู่ห้องนี้คนเดียวหรือว่า…” เมษาแสร้งทำเป็นหรี่ตามองคนทั้งคู่
“ก็ต้องคนเดียวสิ โอ๊ย! เลิกคุยเรื่องนี้ได้แล้ว คุยเรื่องที่เราจะจัดการกับไอ้เลวนั่นยังไงดีกว่า” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องด้วยไม่อยากเสียอาการไปมากกว่านี้
“ก่อนอื่นเธอควรโทรบอกแม่เธอก่อน เพราะถ้าคลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ท่านเห็นท่านอาจจะตกใจ ยังไงก็ให้ท่านรับรู้จากคนในครอบครัวดีกว่า ส่วนเรื่องอื่นไว้เป็นหน้าที่ฉันจัดการเอง” สองสาวหันมองหน้ากัน ก่อนที่เธอจะหันกลับมาที่เขา
“ขอบคุณนะคุณ” เขาพยักหน้ารับพลางสบตาเธอนิ่ง ราวกับจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง แต่แม่คุณก็ช่างไม่รู้อะไรเลย
“อะไรเหรอคุณ คุณกลับไปทำงานก่อนได้เลยนะ ฉันว่าจะอยู่คุยกับพี่เมก่อนแล้วค่อยตามไป” อา…จบกันสัญญาณที่เขาอุตส่าห์ส่งไป สุดท้ายคนถูกไล่กลายๆ จึงได้แต่เดินคอตกไปที่ประตู
“ไปส่งเขาหน่อยสิ” เมษาเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ จึงบอกให้น้องสาวตามไป
ครั้นพอเห็นว่าเธอเดินมาหา เขาจึงรีบลากเธอมาคุยตรงมุมที่คิดว่าน่าจะส่วนตัวที่สุด
“แล้วคืนนี้จะยังไง เธอจะกลับไปกับฉันไหม” เขาเว้าวอนด้วยความหวังว่าจะได้ยินคำตอบที่อยากฟัง
“ไปได้ไงล่ะ คุณก็เห็นว่าสภาพพี่เมแย่ขนาดไหน ฉันต้องอยู่เป็นเพื่อนเขาค่ะ อีกอย่างคุณไม่ควรใช้คำว่ากลับ เพราะฉันไม่ได้อยู่บ้านคุณตั้งแต่แรก ที่ที่ฉันต้องกลับคือที่นี่ ไม่ใช่บ้านคุณ”
“ใช่ แต่นั่นมันก่อนที่เธอจะเป็นเมียฉัน อย่าลืมสิ ตอนนี้เธอมีสามีแล้ว เธอก็ต้องอยู่บ้านสามีสิ” คนฟังถึงกับเม้มปากแน่น ใจหนึ่งก็รู้สึกดี แต่อีกใจก็รู้สึกกระดากที่พ่อคุณอ้างสิทธิ์แบบนี้
“โอ๊ย! ไม่คุยด้วยแล้ว ฉันไปคุยกับพี่เมต่อดีกว่า” เธอตัดบทด้วยการเดินกลับไปทางเดิม แต่พ่อคุณก็ยังไม่วายตะโกนไล่หลังเพื่อรบเร้าเอาคำตอบ
“แล้วเรื่องที่เราคุยกันล่ะ”
“ไม่ค่ะ” เธอชะงักก่อนหันมาย้ำชัดเจน ทำเอาคนถามได้แต่เดินคอตกออกไป
“คนบ้า ฉันไปโดนตัวไหนของคุณเข้าเนี่ย ทำไมวันๆ ถึงได้คิดแต่เรื่องหื่น” เธอเดินบ่นงึมงำกลับไปหาพี่สาว พอนั่งลงอีกฝ่ายก็เปิดฉากถามทันที
วันต่อมา
ทุกคนเอาแต่นั่งเงียบ เงียบจนแทบได้ยินเสียงลมหายใจ เมื่อต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบไม่พูดไม่จา กระทั่งคนที่ความอดทนต่ำอย่างเมษาทนไม่ไหวในที่สุด
“โอ๊ย! จะนั่งเงียบกันอีกนานไหมคะเนี่ย จะพูดอะไรก็พูดกันสิ แบบนี้มันอึดอัด หายใจไม่ออก” เมษาโพล่งออกมาอย่างเหลืออด เพราะในขณะที่แม่เอาแต่นั่งเงียบ น้องสาวก็เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตา ไม่มีใครยอมปริปากสักที กระทั่ง…
“แม่ขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกเรื่อง ขอโทษที่ไม่เชื่อใจลูก ขอโทษที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย แม่คงเป็นแม่ที่แย่มากเลยสินะในสายตาลูก แต่แม่ก็ไม่โกรธนะถ้าลูกจะรู้สึกแบบนั้น เพราะทุกอย่างมันก็เป็นเพราะแม่เอง แต่แม่ไม่เคยไม่รักแกนะ” ศรีไพรบอกพลางน้ำตาไหล
“หนูก็รักแม่ แล้วหนูก็ไม่เคยโกรธแม่เลยสักครั้ง มีบ้างที่อาจจะน้อยใจนิดหน่อย” มีนาร้องไห้โฮพร้อมกับโผกอดผู้เป็นแม่อย่างออดอ้อน
“แต่พี่ว่าไม่หน่อยหรอก” พี่สาวอดล้อเลียนไม่ได้
“พี่เมอะ” มีนาทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่พี่สาว
“เฮ้อ! ในที่สุดเราก็ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าเป็นครอบครัวกันเหมือนเดิมสักทีเนอะ ขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้ทุกคนไม่มีความสุข ขอโทษจริงๆ” เมษาบอกพลางกางแขนโอบทั้งแม่และน้องเอาไว้ด้วยความรู้สึกผิด
“ช่างเหอะพี่ ไหนๆ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ลืมมันให้หมด แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่เนอะ แต่ว่าสัญญากับหนูข้อหนึ่งได้ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…อย่าทิ้งกันอีกนะ หนูไม่อยากโดนเทแล้ว”
“พี่ว่าคนที่เทพี่กับแม่น่าจะเป็นแกมากกว่า แม่คะ…ยัยมัดมีแฟนแล้วค่ะ” ล้อน้องเสร็จ เมษาก็หันไปบอกผู้เป็นแม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ