“สภาพนี้ของหลิงหลง เกรงว่าจะทำให้ฮองเฮาตกใจ” เฟิ่งเชียนอวี่แสร้งกะพริบตาปริบๆ อย่างน่าสังเวช “หรือไม่รอหลิงหลงเป็นผื่นหายแล้ว ค่อยไปขอขมาฮองเฮา?”
“ไม่จำเป็นแล้ว”
ตงฟางจิ่งหรี่ตายิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มจางๆ กลับทำให้เฟิ่งเชียนอวี่แอบตกใจ
“คิดว่าเสด็จแม่ก็คงไม่สนใจรายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้มากนัก ถ้าหากพระชายากังวลจริงๆ…”
ดวงตาที่เยือกเย็นของตงฟางจิ่งขยับเล็กน้อย จู่ๆ เขาก็คว้ามือของเฟิ่งเชียนอวี่!
เฟิ่งเชียนอวี่เพิ่งร้อง ‘อ๊ะ’ ผ้าไหมที่อยู่ในแขนเสื้อก็ถูกเขาแย่งไปแล้ว ครู่ต่อมา คลุมบนใบหน้านาง!
เขามองตรงไปที่นาง กลิ่นอายที่ไม่อนุญาตให้แสดงความคิดเห็นสายหนึ่งแผ่ออกมาในเวลานี้ “ถ้าหากพระชายาถือสา สามารถใช้ผ้าไหมปิดผื่นแดงไว้ พระชายาคิดว่าเป็นอย่างไร?”
เฟิ่งเชียนอวี่ถูกเขาถามจนหนังตากระตุก คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องขี้โรคคนนี้จะมีแรงมากเช่นนี้ ถึงกับทำให้นางไม่กล้าโต้แย้งอีก!
นางแอบร้องทุกข์ระทมในใจ กลับทำได้เพียงสวมผ้าไหมแต่โดยดี “แค่ก…ท่านอ๋อง ฉลาดหลักแหลม”
ระหว่างทางเข้าวัง เฟิ่งเชียนอวี่กระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลา
เฟิ่งเชียนอวี่เป็นที่เป็นลูกอนุภรรยาจวนอัครเสนาบดี ฮองเฮาย่อมไม่เคยพบนาง แต่เฟิ่งหลิงหลงไม่เหมือนกัน ฮองเฮาเคยพบนางครั้งสองครั้ง
แต่ว่า…อย่างไรนางกับเฟิ่งหลิงหลงก็เป็นพี่น้องต่างแม่ หน้าตาก็มีความคล้ายคลึงสี่ห้าส่วน และตอนนี้นางก็ยังสวมผ้าไหม เกรงว่าฮองเฮาไม่พบความผิดปกติได้ง่ายๆ…
ขณะที่กำลังคิดอย่างกระสับกระส่าย กลับได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นสายหนึ่งลอยมา “ฮองเฮา ท่านต้องออกหน้าให้หลิงหลงนะเพคะ!”
เอ๋ เสียงนี้คุ้นหูมาก เหมือนกับเสียงของเฟิ่งหลิงหลงเลย!
เดี๋ยวก่อน…ม่านตาเฟิ่งเชียนอวี่เบิกกว้างทันที
หลิงหลง?! เฟิ่งหลิงหลง!?? นางก็อยู่ที่นี่เช่นกัน!!
เงยหน้าฉับพลัน เห็นเพียงในห้องพระบรรทม ฮองเฮานั่งอยู่ด้านหน้าสุดอย่างสง่างาม ส่วนเฟิ่งหลิงหลงคุกเข่าอยู่ตรงข้างๆ นาง กำลังก้มหน้าร้องไห้!!
นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น…
หนังตาเฟิ่งเชียนอวี่กระตุกฉับพลัน เห็นเพียงสายตาที่เย็นชามองมา ฮองเฮาจ้องนางแล้วกล่าวถามอย่างเฉียบขาด “เฟิ่งเชียนอวี่บังอาจ ยังไม่คุกเข่ายอมรับผิดอีก!”
เสียงดังปัง เฟิ่งเชียนอวี่เข่าอ่อน คุกเข่าลงในตำหนักแล้ว
ได้ยินเพียงเฟิ่งหลิงหลงมองไปทางตงฟางจิ่งแล้วกล่าวอย่างโอดครวญ “ท่านอ๋องโปรดพิจารณา ข้าจึงจะเป็นเฟิ่งหลิงหลงที่ฝ่าบาททรงประทานงานแต่งให้กับท่านอ๋อง! ส่วนคนที่อยู่ข้างกายท่านอ๋อง คือเฟิ่งเชียนอวี่น้องสาวต่างมารดาของข้า!”
เสียงแหลมที่โอดครวญของเฟิ่งหลิงหลงดังลั่นไปทั้งตำหนัก!
ตงฟางจิ่งยืนมือไพล่หลัง เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้ายังคงสงบ ไม่มีอารมณ์ใดๆ
เฟิ่งหลิงหลงโอดครวญต่อ “เดิมทีเมื่อวานเป็นวันมงคลของหลิงหลงกับท่านอ๋อง แต่ในวันออกเรือน จู่ๆ น้องหญิงก็เข้ามาในห้องหลิงหลง จับมือหลิงหลงบอกว่าที่จริงนางชื่นชมท่านอ๋องมานานแล้วทั้งน้ำตา หวังว่าหลิงหลงจะสามารถมอบโอกาสออกเรือนนี้ให้นาง”
“หลิงหลงไม่ยอม ทันใดนั้นหน้าตานางก็ดุร้าย ตีหลิงหลงจนสลบ! รอหลิงหลงฟื้นมาอีกที จึงจะพบว่างานแต่งเสร็จสิ้นแล้ว น้องหญิงเป็นคนแต่งงานแทนหม่อมฉัน!!”
เฟิ่งหลิงหลงพูดถึงตรงนี้ กัดฟันจนปากสั่น ราวกับว่าได้รับความคับข้องใจครั้งใหญ่
เฟิ่งเชียนอวี่กลับกำหมัด ในใจก็อดเต้นแรงไม่ได้
พริบตานั้นนางก็เข้าใจแล้ว เฟิ่งหลิงหลงต้องการให้นางตาย!!
ถ้าหากเรื่องแต่งงานแทนไม่ถูกเปิดโปง เช่นนั้น ‘เฟิ่งหลิงหลง’ ก็นับว่าแต่งงานกับอ๋องหกตงฟางจิ่งแล้ว เช่นนั้นนางก็ไม่สามารถแต่งงานกับรัชทายาทอย่างเปิดเผยตลอดไป
เพื่อที่จะปูทางของวันข้างหน้าให้ตัวเอง เฟิ่งหลิงหลงจึงผลักเฟิ่งเชียนอวี่ออกมาตาย! การแต่งงานแทนครั้งนี้ กลายเป็นว่าเฟิ่งเชียนอวี่พูดเท็จต่อเบื้องสูงเพียงคนเดียว…
และโทษของการพูดเท็จต่อเบื้องสูง สมควรถูกประหาร!
“เฟิ่งเชียนอวี่ เจ้าบังอาจมาก!!”
ฮองเฮาเกรี้ยวโกรธอย่างที่คิด มือหยกตบลงบนโต๊ะอย่างแรง
เฟิ่งเชียนอวี่กัดฟัน รีบกล่าว “ฮองเฮาโปรดพิจารณา! เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เฟิ่งหลิงหลงพูดเพคะ!”
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังกล้าแก้ตัวอีก!” เสียงของฮองเฮายิ่งดุดันแล้ว
มือที่อยู่ในแขนเสื้อเฟิ่งเชียนอวี่ก็กำแน่นเช่นกัน และฝ่ามือก็ถูกนางบีบจนมีเหงื่อออก
จบเห่แล้ว ตอนนี้ต่อให้นางสารภาพสองแม่ลูกเฟิ่งหลิงหลงออกมา เกรงว่าไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว