สาวใช้ทั้งสองสั่นศีรษะเป็นกลองสั่น “ข้าน้อยก็ไม่ได้ตั้งใจ ข้าน้อยจะไม่กุเรื่องล้อเลียนฮูหยินอีกแล้ว ฮูหยินโปรดอย่าโกรธเลย”
เมิ่งจิ่นเหยาสีหน้าขรึมลงทันที พลางเอ่ยเสียงต่ำ “ไม่ว่าข้าจะแต่งงานกับท่านโหวอย่างไร ตอนนี้ข้าก็เป็นนาย พวกเจ้าเป็นบ่าว กุเรื่องล้อเลียนเจ้านาย สาวใช้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เรือนเวยหรุยเซวียนจะเก็บไว้ไม่ได้”
นางพูดพร้อมกับเลื่อนสายตาไปที่ชิงชิวและหนิงตง “ชิงชิว หนิงตง ตบปากคนละยี่สิบครั้ง จากนั้นมอบพวกนางให้เป็นหน้าที่ของพ่อบ้าน ส่งไปอยู่ที่หมู่บ้านในชนบท”
ชิงชิวและหนิงตงตอบรับ “เจ้าค่ะ ฮูหยิน”
ทันทีที่สิ้นเสียง สาวใช้อีกสามคนที่ไม่ได้ร่วมวงนินทาก็ถึงกับอึ้งไป สองคนนี้เป็นสาวใช้ชั้นสองในเรือน ฮูหยินบอกจะส่งพวกนางออกไปก็ส่งไปเลยหรือ? จู่ ๆ ก็รู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ตัวเองไม่ชอบนินทาใคร ไม่เช่นนั้นพวกนางต้องลำบากเหมือนกันแน่
สาวใช้สองนางนั้นใบหน้ายิ่งซีดเผือดราวกับกระดาษ ตัวสั่นระริก โขกหัวอ้อนวอน “ฮูหยิน ข้าน้อยผิดไปแล้ว เป็นเพราะข้าน้อยปากมาก ข้าน้อยปากไม่ดีเอง ฮูหยินได้โปรดยกโทษให้ข้าน้อยสักครั้ง ข้าน้อยทำงานในจวนท่านโหวมาตั้งแต่ยังเล็ก รับใช้นายอย่างสุดความสามารถ แม้จะไม่มีผลงานแต่ก็ทุ่มเททำงานนะเจ้าคะ”
เมิ่งจิ่นเหยาทำไขสือ ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด ก่อนจะพูดอย่างเฉยชา “ชิงชิว หนิงตง พวกเจ้ามัวอึ้งอยู่ทำไมล่ะ ลงมือสิ”
ชิงชิวและหนิงตงยกมือขึ้นตบ ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของสาวใช้อย่างไม่ปรานี สิ่งที่พวกนางใช้คือวิธีการอันชาญฉลาด เจ็บปวดจนทำให้สาวใช้ทั้งสองร้องไห้โฮ
“โอ๊ย...ฮูหยินได้โปรดไว้ชีวิตด้วย...”
กู้จิ่งซีเพิ่งกลับมาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร่ำไห้อย่างน่าเวทนาดังมาจากในเรือน คิ้วจึงกระตุกขึ้นมา เมื่อช่วงเช้าเพิ่งมีทีท่าขอความเห็นจากเขา พอตกบ่ายก็ทำจริงเสียแล้ว รวดเร็วฉับไวมาก สาวใช้ยังถึงกับร้องขอความเมตตา ดูภายนอกเป็นคุณหนูน้อยอ่อนหวานหยาดเยิ้ม ความจริงออกจะโหดร้าย แต่อย่าให้เป็นเรื่องเป็นราวถึงแก่ชีวิตก็พอ
เขารีบก้าวเข้าไปในเรือน พอแหงนหน้ามองขึ้นไป ก็เห็นภรรยาสาวที่เพิ่งแต่งงานใหม่กำลังถือถ้วยน้ำชา จิบชาอย่างไม่เร่งรีบ ในขณะที่สาวใช้ประจำตัวภรรยาสาวสองคนกำลังตบสาวใช้อีกสองคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ส่วนสาวใช้ที่เหลืออีกสามคนก็ตกใจหน้าซีดเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก