ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1327

อสูรน้อยเพิ่งจะโล่งใจ แต่จู่ๆ ความรู้สึกนั้นก็กลับมาอีกครั้ง

มีบางอย่างกำลังพยายามแยกมันออกจากพี่พญายมตัวน้อย

อ่าาา สิ่งชั่วร้ายจงถอยไป

อสูรน้อยโก่งก้นเล็กๆ ขึ้นด้วยตื่นตระหนกมาก แล้วตดออกมาแรงๆ

ตดเหม็นโจมตี!

ซู่เป่าที่กำลังใช้จิตเทพ “...”

แต่ไม่ได้กลิ่นเหม็นใดๆ เพียงแค่รู้สึกว่ากระทบจิตเทพเล็กน้อย

เธอเริ่มคล่องแคล่วขึ้น เกือบจะจับหางอสูรน้อยและหิ้วมันขึ้นมาได้แล้ว...

แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะล้มเหลว

ทันใดนั้นซู่เป่าพลันเปลี่ยนความคิด: การจับสิ่งมีชีวิตอาจจะยากเกินไป เพราะมันสามารถดิ้นหรือเคลื่อนไหว และอาจโจมตีเราได้

ทำไมเธอถึงไม่ลองจับสิ่งไร้ชีวิตก่อนนะ

ซู่เป่าใช้จิตเทพกวาดมองภายในถ้ำรอบหนึ่ง ถ้ำนั้นสะอาดมาก ไม่มีหญ้าหรือแม้แต่ก้อนหินเล็กๆ เลย มีแต่ก้อนหินก้อนใหญ่ๆ ส่วนหญ้า...

จิตเทพของเธอหยุดมองชั้นวางของที่อยู่ในห้องโถง ตรงนั้นมีสมุนไพรวิเศษ

ซู่เป่าพยายามลองจับสมุนไพรวิเศษนั้นทันที

เมื่อมีประสบการณ์ที่เกือบจะหิ้วอสูรน้อยขึ้นมาได้เมื่อครู่แล้ว ซู่เป่าจึงเรียนรู้วิธีใช้จิตเทพหยิบของได้อย่างรวดเร็ว

จิตเทพของเธอล้อมรอบสมุนไพรวิเศษรอบหนึ่ง จากนั้นพยายามหยิบมันขึ้นมา

สำเร็จแล้ว

ซู่เป่าดีใจเป็นที่สุด จิตเทพสามารถหยิบของผ่านอากาศได้จริงๆ

ถ้าอย่างนั้นตอนต่อสู้กัน เธอก็สามารถลอบเล่นงานชายชุดดำได้แล้ว แอบใช้จิตเทพจับมีดบนตัวเขาตอนที่เขาไม่ทันระวังตัว แล้วฆ่าเขาเอง...

โอ้โห!

ใช้ได้เลย!

ทันทีที่ซู่เป่าดีใจ มือที่ถือสมุนไพรวิเศษอยู่ก็เผลอ “เต้นระบำ” ขึ้นมา

กว่าอสูรน้อยจะสงบจิตใจลงได้ แต่แล้วเมื่อมันหันหน้าไปก็บังเอิญเห็นสมุนไพรวิเศษในห้องยา... กำลังเต้นรำอย่างประหลาด

“!!!”

อสูรน้อยถลึงตาโต หางตั้งชัน และนัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

แมๆ ฉันเห็นผีแล้ว!

แบบเห็นผีจริงๆ

ขาของอสูรน้อยอ่อนแรง ร่วงลงจากตักของซู่เป่าเสียงดังตุบ ในขณะที่มันกำลังจะลุกขึ้นอีกครั้งก็รู้สึกเหมือนมีสายตาสีเขียวขจีจ้องมองมันอยู่

พอหันไปมองก็เห็นพระแม่ธรณีที่ไม่รู้ว่าออกมาตั้งแต่ตอนไหน ลอยอยู่ที่ประตูห้องนอนเงียบๆ และจ้องมองมันตาเขม็ง

อสูรน้อย: อึ้งเลยจ้า

คนตายกลายเป็นผี ผีตายกลายเป็นปีศาจ

วันนี้มันไม่เพียงแค่เจอผีตัวเป็นๆ แต่ยังได้เห็นปีศาจในตำนานอีกด้วย

พระแม่ธรณีหัวเราะคิกคัก และพูดอย่างเลือดเย็นว่า “ไม่มีนางคอยปกป้องเจ้าแล้ว ข้าจะกินเจ้าซะ...”

พระแม่ธรณีนึกถึงคำพูดของพญายมตัวน้อยที่บอกว่าจะ “ล่าเหยื่อให้นาง” แล้วเผลอแสยะยิ้มโดยไม่รู้ตัว

นางกำลังหิวพอดี

หากกินอสุรกายก็ไม่ได้ยากที่จะยอมรับสักเท่าไหร่...

ในอดีตอันยาวนานพระแม่ธรณีฝึกบำเพ็ญโดยการดูดซับพลังหยินบนโลก รวมทั้งจากหินสีชาดและอัญมณีอัคนีอะไรทำนองนี้

นางไม่กินปีศาจหรืออสุรกาย และยิ่งไม่กลืนกินผีบำเพ็ญ

ต่อมานางถูกจองจำที่ภูเขาหลีจนกระทั่งหลายพันปีผ่านไป แต่เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่กินอะไรเลย ภูเขาหลีที่แปรเปลี่ยนจากร่างของนางมีหมอกลึกลับ แต่นางไม่อาจดูดซับพลังหยินที่แตกตัวออกไปได้เลย

แต่กลับมีอสุรกายจำนวนมากถูกดึงดูดมาที่ภูเขาหลี จากนั้นอยู่อาศัยและสืบเผ่าพันธุ์ที่นี่

พระแม่ธรณีย่อมไม่ยอมสาบสูญไปแบบนี้เป็นธรรมดา นางนึกถึงคนๆ นั้นที่ประณมมือคารวะและกล่าวอย่างอ่อนโยนกับนางก่อนจากไปว่า “สำหรับข้า ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าเลย”

“แต่ข้าจำเป็นต้องทำ ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องลำบากที่นี่”

พระแม่ธรณีหัวเราะเยาะ ไม่อยากฆ่าอะไรกัน จริงๆ แล้วการที่จองจำนางไว้บนภูเขาศพของนางเองเพื่อหลอมรวมนาง

เช่นนั้นจึงคุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอายได้

แต่เพื่อให้อยู่รอด เผื่อว่ามีโอกาสตบหน้าคนๆ นั้นสักที นางจึงต้องอดทนอย่างยากลำบาก ท้ายที่สุดก็ต้องเริ่มกินอสุรกาย...

เมื่อนางเริ่มกินอสุรกาย นางก็เริ่มปล่อยวางได้เปราะหนึ่ง และแอบสาบานกับตัวเองว่าอสุรกายไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ต่อจากนี้ไปนางจะกินแค่อสุรกายเท่านั้น...

แต่นึกไม่ถึงว่าคำสาบานนี้จะถูกทำลายเมื่อไม่กี่วันก่อน

และนางก็คิดไม่ถึงว่าพญายมตัวน้อยจะทำอาหารได้หอมมากจริงๆ

(ಥ﹏ಥ)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน