หมอกลึกลับบนภูเขาหลีปกคลุมเป็นชั้นๆ อสุรกายก็รายล้อมเข้ามา
มู่กุยฝานทั้งคอยปกป้องซูจิ่นอวี้ทั้งแยกแยะทิศทาง
“มาจนถึงที่นี่แล้วแต่กลับไม่สามารถหาร่องรอยของซู่เป่าได้เลย” มู่กุยฝานพูดด้วยความกังวลพร้อมฆ่าอสุรกายตัวหนึ่ง
สำหรับเขาแล้วอสุรกายที่นี่ไม่ได้ยากที่จะต่อกรด้วย เพียงแต่มีจำนวนมากเท่านั้น พวกมันล้อมเข้ามาจากทั่วสารทิศ นอกจากฆ่าพวกมันแล้วก็ไม่มีวิธีอื่นอีก
แน่นอนว่าเขาสามารถเปิดค่ายกลส่งตัวเพื่อหลบหลีกอสุรกายในเสี้ยววินาทีได้ แต่ถ้าทำอย่างนั้นอาจพลาดเบาะแสที่ซู่เป่าทิ้งไว้ระหว่างทาง
ซูจิ่นอวี้เหนื่อยจนหายใจหอบหืด แต่เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็วที่สุด เธอจึงยืดหยัดฟาดฟันกับอสุรกาย สำหรับมู่กุยฝานแล้ว อสุรกายเหล่านี้จัดการได้ง่ายมาก แต่สำหรับเธอกลับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก
“ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเราหาเบาะแสของซู่เป่าไม่เจอแน่” ซูจิ่นอวี้พูดอย่างร้อนใจ “อสุรกายมากมายขนาดนี้ ถ้ามีร่องรอยอะไรจริงก็คงถูกกลบหายไปหมดแล้ว”
มู่กุยฝานพูดว่า “อสุรกายที่ถูกฆ่าจะทิ้งร่องรอยไว้ ภูเขาหลีนี้แปลกประหลาด คงต้องหาไปแบบนี้แหละ”
วิธีโง่ๆ แต่ก็ไม่มีวิธีอื่น
ทันใดนั้นซูจิ่นอวี้พลันร้องด้วยความตกใจว่า “ทางนั้น”
มู่กุยฝานรีบหันไปมองทันที แต่เห็นเพียงหมอกลึกลับกำลังเคลื่อนตัว และดูเหมือนอสุรกายทุกตัวกำลังมุ่งหน้าไปทางนั้น
รอบๆ ยังมีซากอสุรกายที่ถูกฆ่าตายอยู่ประปราย
“ซู่เป่า?!” มู่กุยฝานร้องเรียกราวกับเห็นความหวัง เงื้อมีดขึ้นแล้วฟันลงตรงกลางฝูงอสุรกายเพื่อเปิดทาง
บรรพบุรุษใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าภูเขาหลีอันตราย แต่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองจึงจะรู้ว่าอันตรายมากแค่ไหน
สิ่งที่อันตรายไม่ใช่อสุรกาย แต่คนอาจถูกครอบงำด้วยความคลั่งไคล้ในการฆ่า หมอกลึกลับที่ดูธรรมดาที่อยู่รอบๆ นี้ต่างหากที่อันตรายที่สุด
เขาเกือบจะเสียสติหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะตามหาซู่เป่าเขาจึงตื่นจากภวังค์ แต่แม้การตามหาซู่เป่าก็กลายเป็นความหมกมุ่นอย่างหนึ่ง
ในขณะที่เขากำลังฆ่าจนเลือดขึ้นหน้า และไม่รู้วันเวลา ทันใดนั้นแสงสีขาวก็ส่องผ่านหมอกลึกลับที่อยู่รอบๆ บรรพบุรุษก็ได้สติคืนมาทันที
“บรรพบุรุษ?!” ซูจิ่นอวี้ร้องเรียกด้วยความประหลาดใจ เธอทั้งดีใจและผิดหวังเล็กน้อย
ดีใจที่บรรพบุรุษอยู่ที่นี่ จับพัดจับพลูช่วยบรรพบุรุษไว้ได้
แต่ผิดหวังที่ยังตามหาซู่เป่าไม่เจอ
มู่กุยฝานพูดเสียงทุ่มต่ำว่า “ไปจากที่นี่ก่อน”
บรรพบุรุษยิ้มเฝื่อน “จะหนีไปไหนได้ ที่นี่เต็มไปด้วยอสุรกาย”
มู่กุยฝานส่ายหน้า “มีอสุรกายหลากหลายเผ่าพันธุ์ สถานที่ที่ใกล้กับจุดตัดของแต่ละเผ่าพันธุ์จะมีพื้นที่สุญญากาศในเวลาอันสั้น”
นี่คือสิ่งที่เขาค้นพบหลังจากสังเกตมานาน แม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์สำหรับเขาในตอนนี้
ซืออี้หรันรู้สึกเสียวสันหลัง รีบซ่อนตัวในหมอกลึกลับทันที
ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือป้องกันใดๆ ร่างกายจึงถูกหมอกลึกลับกัดเซาะ ซืออี้หรันเคยทนทุกข์ทรมานจากสิ่งนี้มาก่อน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงทนได้
ในที่สุดเขาก็มองเห็นเงาดำปรากฏขึ้นไม่ไกล ดูเหมือนเขากำลังสับสน มองไปรอบๆ และรีบวิ่งไปทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้ทำไมเขาถึงคล่องแคล่วและชำนาญในภูเขาหลีราวกับรู้วิธีหลบหลีกหมอกลึกลับและไม่ให้อสุรกายเข้าใกล้
ซืออี้หรันกลั้นลมหายใจให้เบาที่สุด และแอบสะกดรอยตามไป...
เขามีลางสังหรณ์ว่าชายชุดดำเหมือนจะรู้อะไรบ้างอย่าง ถ้าตามเขาไปไม่แน่อาจเจอซู่เป่า
ซืออี้หรันไม่กล้าใช้พลังหลินในร่างเลยเพราะหากใช้พลังหยินที่นี่ก็เหมือนกับส่องแสงสว่างในความมืด ชายชุดดำและฝูงอสุรกายก็จะเจอตัวเขาได้ง่าย
แม้ว่าการหลบซ่อนจากอสุรกายนั้นยากลำบาก แต่ก็พอทำได้ พิษร้ายของหมอกลึกลับค่อยๆ กัดเซาะร่างกายของเขาจนเผยให้เห็นเนื้อชั้นใน และมีเลือดไหลหยดลงพื้น
หมอกลึกลับหนามาก แต่ที่ซืออี้หรันไม่ทันสังเกตก็คือทันทีที่เลือดของเขาหยดลงพื้นดินๆ ก็ดูดซึมเลือดของเขาอย่างรวดเร็ว...
เขาสะกดรอยตามชายชุดดำได้ประมาณสิบนาที จู่ๆ ชายชุดดำที่มองเห็นได้รางๆ ก็หายตัวไป
ซืออี้หรันรู้สึกเสียวสันหลังทันที: ซวยแล้ว...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...