ทุกคนต่างพากันงุนงง แต่ในเมื่อแก้ไขปัญหาแล้วก็ไม่เป็นไร
กระทั่งหลายคนพูดปลอบใจว่า “เหนื่อยหน่อยนะ เหนื่อยหน่อยนะ”
พี่เจวียนลุกขึ้นด้วยท่าทางใสซื่อแล้วเกาศีรษะอย่างเก้อเขิน จากนั้นรีบวิ่งไปดูแลคุณท่านในทันที
ในขณะนั้นเองมีชายวัยกลางคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากนั้นพูดว่า “พ่อ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”
เดินตามหลังเขามาคือผู้อำนวยการอวี๋
พยาบาลเฝ้าไข้พี่เจวียนรีบพูดว่า “คุณผู้ชายสบายใจได้ค่ะ คุณท่านไม่เป็นไร อาจเป็นเพราะฉันง่วงมากเกินไปจากการเฝ้าไข้เมื่อคืนจึงล้มโดยไม่ระวัง...”
พยาบาลเฝ้าไข้คนหนึ่งช่วยเธอพูด “ใช่ค่ะ เมื่อคืนพี่เจวียนเฝ้าไข้ทั้งคืน ตอนพวกเราเข้าเวรกะดึกยังเห็นเธอยุ่งตลอด”
พยาบาลเฝ้าไข้อีกคนหัวเราะพลางพูดว่า “ดังนั้นพี่เจวียนนี่พี่หลับทั้งยืนเหรอ ต้องกำลังฝันอยู่แน่ๆ ถึงได้พูดเหลวไหลว่าเจ้าหนูน้อยผลักพี่”
พี่เจวียนหัวเราะอย่างเก้อเขินและไม่แก้ต่าง แต่ช่วยคุณท่านเช็ดน้ำลายอย่างอ่อนโยนและพิถีพิถันโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ตอนซู่เป่ากำลังจะเปิดโปงเธอ แต่จู่ๆ ผู้อำนวยการอวี๋ก็พูดว่า “แต่ก็ไม่แน่นะ ได้ยินมาว่าเด็กตระกลูซูคนนี้แรงเยอะมาก อีกทั้งยังซุกซน ถ้าฉวยโอกาสผลักพยาบาลเฝ้าไข้ตอนกำลังสะลึมสะลือล่ะ”
แววตาเจ้าเล่ห์เล็กน้อยของผู้อำนวยการอวี๋มองซู่เป่าพลางเย้ยหยันในใจ
ดีจริง ตกในเงื้อมของเขาพอดีสินะ
เขาต้องการประจบคุณฮ่าวและยังต้องคิดอีกว่าจะทำยังไงให้คุณฮ่าวมีความประทับที่ไม่ดีต่อตระกูลซู
ปรากฏว่าเด็กคนนี้โชคไม่ดีตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา
ซู่เป่าหน้าบึ้งและกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มีเสียงหนึ่งขัดจังหวะขึ้นมา
“ผู้อำนวยการอวี๋ พูดได้ก็เอาใหญ่เลย ทำไมเหรอ เพราะลูกสาวผมไม่มีคนหนุนหลังก็เลยรังแกเธองั้นเหรอ”
มู่กุยฝานเดินสาวเท้าเข้ามาพร้อมกล่องอาหารหนึ่งกล่องในมือด้วยสีหน้าเย็นชา “ทางเดินเส้นนี้มีกล้องวงจรปิด ลองตรวจเช็คกล้องวงจรปิดดูไหม”
เมื่อได้ยินว่าตรวจเช็คกล้องวงจรปิด นัยน์ตาของพี่เจวียนก็ฉายแววตื่นตระหนกทันที
ผู้อำนวยการอวี๋สำลักในทันที “ฉันเพียงแค่เดา ท่าทางพยาบาลเฝ้าไข้คนนี้ดูไม่เหมือนพูดโกหก”
มู่กุยฝานแสยะยิ้ม “หมายความว่าลูกสาวของผมโกหกงั้นสิ”
เขามองพยาบาลเฝ้าไข้พี่เจวียนอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง
พี่เจวียนรีบพูดว่า “โธ่เอ๊ย ไม่ถึงขนาดนั้น ไม่ถึงขนาดนั้น ก็แค่หกล้ม เป็นความผิดของฉันเอง ทุกคนอย่าผิดใจกันเพราะฉันเลยนะ”
เธอยังคงแสแสร้งเป็นเจ้เซ่อๆ ที่มีความสุขเสมอต่อหน้าผู้คนพร้อมพูดอย่างจริงใจว่า “ขอโทษด้วยนะคะคุณฮ่าว ต่อไปฉันจะระวังให้มากขึ้นและจะไม่หลับทั้งยืนอีกค่ะ”
ผู้อำนวยการอวี๋มองชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ “คุณฮ่าว คุณดู...”
ตระกูลซูรังแกคนอื่นจนลามมารังแกพยาบาลเฝ้าไข้ที่คุณฮ่าวจ้างมา นี่ไม่เท่ากับรังแกคุณฮ่าวตรงๆ หรอกเหรอ
คุณฮ่าวกตัญญูมาก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจผิดหรือไม่ก็ตาม อันดับแรกต้องทำให้เขามีความประทับที่ไม่ดีต่อตระกูลซูก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
ในขณะที่ผู้อำนวยการอวี๋คิดว่าคุณฮ่าวจะชักสีหน้าเย็นชาใส่มู่กุยฝาน แต่กลับเห็นเขาอ่ำๆ อึ้งๆ “เอ่อ คุณ……คุณมู่”
ผู้อำนวยการอวี๋ใจเต้นตุบๆ ในทันที
คุณฮ่าวรู้จักกับมู่กุยฝานหรือนี่
ในเวลานี้ในใจของคุณฮ่าวปั่นป่วนและรู้สึกดีใจไม่หยุด โชคดีที่เขามองเห็นมู่กุยฝานแต่ไกลๆ จึงจำเขาได้ในขณะวิกฤต
รูปลักษณ์ภานนอกของมู่กุยฝานถึงไม่อยากจำได้ก็จำได้
เขาขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า “ผู้อำนวยการอวี๋ ถ้าไม่มีหลักฐานจะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วเชิญผู้อำนวยการอวี๋กลับไปก่อนเถอะ”
จากนั้นมองมาทางมู่กุยฝาน “คุณมู่ ขอโทษจริงๆ ครับ”
คราวนี้เป็นทีของผู้อำนวยการอวี๋ที่จะต้องตกตะลึง
สายตาของคุณฮ่าวที่มองเขาท่าไม่ดีมาก ท่าไม่ดีเอามากๆ
เดิมทีเขาคิดอยากจะทำให้คุณฮ่าวมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อตระกูลซู แต่ทำไมถึงกลับตาลปัตรกลับกลายเป็นคุณฮ่าวไม่พอใจเขาซะเอง...
นี่ประจบสอพอจนได้เรื่องแล้วสินะ
ผู้อำนวยการอวี๋รีบพูดว่า “คุณฮ่าว ต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมก็แค่เป็นห่วงคุณท่าน ดังนั้นจึงไม่ได้คิดให้รอบคอบในทันที”
คุณฮ่าวไม่พูดอะไร
มู่กุยฝานชำเลืองมองพี่เจวียนอย่างดูเหมือนไม่มีอะไรแวบหนึ่งแล้วถือโอกาสตัดบท “ไม่เป็นไร แต่คุณฮ่าวควรมองคนให้ขาดกว่านี้หน่อยนะ”
คุณฮ่าว “ใช่ๆ ขอบคุณครับคุณมู่”
แต่ในใจของเขาแทบจะร้องไห้ออกมา มู่กุยฝานไม่ใช่คนที่ยอมวางมือง่ายๆ และได้ยินมาว่าเขาเป็นทาสของลูกสาว
คุณฮ่าว “...”
จะนั่งลงได้เหรอ
ใครจะกล้านั่งต่อหน้าผู้บัญชาการมู่ นั่นเท่ากับราวกับนั่งบนเข็มหมุดรู้ไหม
เขามองผู้อำนวยการอวี๋อย่างโมโหมากแวบหนึ่ง
ผู้อำนวยการอวี๋ “...”
ผู้อำนวยการอวี๋โมโหมากและแอบมองซู่เป่าแวบหนึ่ง ต้องโทษเด็กคนนี้
เรื่องเยอะจริงๆ
พยาบาลเฝ้าไข้เขาจะดีหรือไม่ดีแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ ยังไงพ่อของผู้อำนวยการฮ่าวก็ต้องย้ายมาสถาบันดูแลผู้ป่วยพักฟื้นของเขา
ตอนนี้เป็นไงล่ะ ผู้อำนวยการฮ่าวไม่ประทับใจเขาเพราะเหตุวุ่นวายนี่ ไม่แน่อาจไม่ย้ายมาสถาบันดูแลผู้ป่วยพักฟื้นของเขาแล้วก็ได้
ซู่เป่าพูด “ที่จริงไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ พวกเราสามารถให้คุณปู่พูดเองได้ค่ะ”
ทั้งคุณฮ่าวและคุณท่านต่างตกตะลึง
พยาบาลเฝ้าไข้คนหนึ่งพูดอย่างเก้อเขินว่า “เจ้าหนูน้อย หนูอาจจะไม่รู้ว่าคุณปู่ท่านสุขภาพร่างกายไม่ดี ตอนนี้เขาพูดไม่ได้จ๊ะ...”
มือเกร็งจนขดเข้าหากันและสั่นอย่างรุนแรง แม้แต่เขียนหนังสือก็เขียนไม่ได้
ซู่เป่าพูด “หนูรู้ค่ะ แต่หนูสามารถรักษาคุณปู่ได้ค่ะ ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งสองสามสี่... หนึ่งร้อยนาทีค่ะ”
ผู้อำนวยการอวี๋หัวเราะในทันที
เมื่อวิธีหนึ่งแก้ปัญหาไม่ได้ก็ใช้วิธีอื่นแก้ปัญหาได้ ในขณะที่เขากำลังคิดว่าจะอธิบายอาการป่วยของคุณท่านอย่างถูกจังหวะและเป็นขั้นตอนยังไง และจำเป็นต้องไปทำกายภาพบำบัดที่สถาบันดูแลผู้ป่วยพักฟื้นของเขา เด็กคนนี้ก็เปิดทางให้เขา
ครั้งนี้เขาจะต้องคว้าโอกาสไว้อย่างแน่นอน บำบัดฟื้นฟูร่างกายที่อาณาจักรนี้ของเขาไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน
ผู้อำนวยการอวี๋ไพล่หลัง ส่ายหน้าและพูดว่า “เด็กก็คือเด็ก อย่าว่าแค่หนึ่งร้อยนาทีเลย ให้เวลาหนูวันสองวันหรือกระทั่งปีสองปีก็ทำไม่ได้”
“คุณท่านป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีกเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตกและเราก็ทราบดีว่าโรคอัมพาตครึ่งซีกรักษาให้หายขาดได้ยาก แทบจะเสียใจไปตลอดชีวิต... แต่สถาบันดูแลผู้ป่วยพักฟื้นของเรามีการศึกษาวิจัยโรคอัมพาตครึ่งซีกโดยเฉพาะและมีประสบการณ์มากมาย”
“ตอนนี้คุณท่านเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล หากเราตีเหล็กขณะยังร้อน ถือโอกาสก่อนที่ความทรงจำของกล้ามเนื้อจะหายไปอย่างสมบูรณ์ ใช้วิธีการบำบัดฟื้นฟูอย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพเพื่อบำบัดฟื้นฟู ฉันกล้าใช้ตำแหน่งหน้าที่ของฉันรับประกันเลยว่าไม่เกินสองปี คุณท่านจะกลับมาพูดได้อีกครั้งหรืออย่างน้อยก็จะไม่น้ำลายไหลอีก”
เขาพูดจาอย่างฉะฉานและมั่นใจเป็นที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...