ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 303

เมื่อได้ยินว่าซู่เป่ามาแล้ว กู้ชีชีก็ตาเป็นประกาย แล้วรีบออกไปต้อนรับ

แม่ของกู้ชีชีเห็นก็ยืนขึ้นอย่างสงบแล้วเดินตามหลังไป

ซู่เป่าเข้าไปในตระกูลกู้ด้วยความว้าว “สวยจังเลย!”

ทุ่งดอกไม้สีชมพู ทุกที่ประดับประดาไปด้วยหมีน้อย หัวใจ ดวงดาว ลูกกวาด...

น่ารักราวกับอยู่ในจินตนาการ!

ซูลั่วเหมือนคิดอะไรออก ก่อนจะถามว่า “ซู่เป่า วันนั้นลุงสี่ส่งช่อดอกไม้หมีน้อยให้เธอเห็นแล้วหรือยัง”

เพราะว่าเรื่องของอวี้เอ๋อร์ เขาจึงลืมเรื่องนี้ไปเลย

ซู่เป่าก็เพิ่งนึกได้ ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “เห็นแล้ว ขอบคุณนะคะลุงสี่!”

ซูลั่วสบายใจแล้ว เธอชอบหมีน้อยที่ตกแต่งในบ้านของคนอื่น หมีน้อยที่ลุงสี่ส่งไปให้ก็ต้องยิ่งชอบถึงจะถูก

ยังไม่ทันได้เข้าประตูก็เห็นกู้ชีชีวิ่งมาแต่ไกล

เธอไม่ปกปิดความดีใจบนใบหน้าของเธอเลยแม้แต่น้อย ตอนเห็นซู่เป่าก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง

ซู่เป่าตัดผมแล้วเหรอ

แต่ว่า...น่ารักจัง!

“ซู่เป่า!” กู้ชีชีอดไม่ไหวที่จะอุ้มเธอขึ้นมา “ว้าว เธอตัดผมใหม่แล้วสวยจังเลย!”

“ขอบคุณเธอนะที่มาฉลองวันเกิดพี่ พี่เตรียมของอร่อย ๆ ไว้เพียบเลย ทั้งเค้กน้ำตาลน้อย สาคูมะม่วงส้มโอ สาคูเผือกและขนมกุ้ยฮวา เธอจะกินอันไหนก่อนดี”

จู่ ๆ ซู่เป่าก็รู้สึกท้องเริ่มหิวแล้ว ทนไม่ได้ที่จะถามว่า “กินหมดเลยได้ไหมคะ”

กู้ชีชีรู้สึกว่าที่ตัวเองลำบากตื่นเช้าขึ้นมาทำ มันไม่ไร้ประโยชน์เลย จากนั้นจึงอุ้มซู่เป่าเดินตรงไปที่โซนอาหารและเครื่องดื่ม

ซูลั่วมองของขวัญในมือที่ยังไม่ทันได้ให้

เขาถึงขนาดไม่มีแม้แต่โอกาสจะที่พูดแทรก

ในชั่วพริบตากลับทำให้เขาคิดว่ากู้ชีชีเชิญเขามาจริง ๆ ใช่ไหม หรือว่าแค่ซู่เป่ามาคนเดียวก็พอแล้วมั้ง

ขณะที่เขากำลังหาที่นั่ง พ่อแม่ของกู้ชีชีก็เดินเข้ามา ในฐานะที่เป็นหนึ่งในลูกทั้งแปดของตระกูลซู พ่อก็ต้องออกมาต้อนรับเป็นธรรมดา

พ่อของกู้ชีชีแอบสังเกตซูลั่ว ยิ่งดูก็ยิ่งพอใจ

ใส่แว่นตากรอบทอง หากมองแวบแรกดูไม่ใช่คนดีอะไร เหมือนพวกหน้าเนื้อใจเสือ...ว้าวสุด ๆ

กู้ชีชียังไม่รู้ตัวว่าพ่อแม่ของตัวเองนั้นเข้าใจผิดไปแล้ว

เธอพาซู่เป่าไปหาอะไรกินที่ห้องอาหารอย่างมีความสุข

กู้เซิ่งเสวี่ยแกล้งทำเป็นเปลี่ยนที่ ตั้งแต่ซู่เป่าเข้ามา เธอก็จ้องซู่เป่าอยู่ตลอดเวลา

นี่น่ะเหรอนักพรตน้อยปราบผีของตระกูลซู ดูแล้วเหมือนจะไม่เก่งเลยแม้แต่น้อย ทำไมถึงแย่งkpiของเธอไปได้ล่ะ

ซู่เป่ากัดคัพเค้กเข้าปาก จู่ ๆ ก็เข้าไปใกล้กู้ชีชี แล้วกระซิบถาม “พี่ชีชี นั่นน้องสาวของพี่เหรอ ทำไมเธอถึงจ้องหนูตลอดเลยล่ะ”

หรือว่าอยากกินเค้ก

ผีจับเสร็จแล้วเหรอไง ถึงได้อยากมากินเค้ก เหอะ

ไม่รู้ว่าทำไมซู่เป่าเห็นกู้เซิ่งเสวี่ยแล้วรู้สึกไม่ถูกชะตา เห็นเธอแล้วอยากจะแกล้งสักหน่อย

ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมตอนเสี่ยวอู่เห็นคุณปู่เต่าถึงอยากจะเหยียบสักที

กู้ชีชีตอบ “เธอน่ะเหรอ เธอเป็นน้องสาวพี่เอง ชื่อกู้เสี่ยวปา เป็นคนแปลก ๆ ไม่ต้องไปสนใจหรอก”

ซู่เป่าเอียงศรีษะ “ทำไมถึงแปลก ๆ ล่ะ”

กู้ชีชีทำท่าทีราวกับว่ากำลังจะนินทากับป้าข้างบ้าน จู่ ๆ สีหน้าก็ดูลึกลับขึ้นมา “เธอรู้ไหม น้องสาวของพี่ไม่เคยร้องไห้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เด็กทุกคนตอนเกิดก็จะร้องไห้ แต่เธอไม่ร้องสักแอะ”

ซู่เป่าตาโต “ว้าว! อย่างนั้นตอนเธอหกล้มก็ไม่ร้องเลยเหรอ”

กู้ชีชีส่ายหน้า “ไม่ร้อง”

ซู่เป่าก็ถามขึ้นมาอีก “โดนตีก็ไม่ร้องเหรอ”

กู้ชีชี “ไม่ร้องจริง ๆ !”

“ตอนเด็ก ๆ เธอถูกน้ำร้อนลวก เธอดูที่หลังมือนั่นสิตอนนี้ยังมีรอยแผลเป็นอยู่เลย ขนาดนั้นก็ยังไม่ร้องเหมือนกัน”

ซู่เป่านับถือจากใจจริงทำได้อย่างไรเนี่ย

เธอก็เข้าใจว่าแค่หกล้มไม่ต้องร้อง แต่พอมันเจ็บน้ำตามันก็ไหลมาเองอย่างควบคุมไม่ได้

แต่คาดไม่ถึงเลยว่ากู้เสี่ยวปาจะไม่ร้องสักแอะ

ในใจซู่เป่าก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ แว้บขึ้นมา อยากจะแอบเข้าไปใกล้ ๆ เธอสักหน่อย…

เจ้าตัวเล็กตกใจกับความคิดของตัวเองรีบส่ายหัวราวกับป๋องแป๋ง

กู้ชีชีเห็นสีหน้าของเธอทีแรกอยากรู้อยากเห็น ต่อมาก็ทำหน้าตาจริงจัง สุดท้ายก็ส่ายหัวอย่างแรง

ผีร้ายไม่มีเจ้าของ ต่อให้มีก็ต้องมีเครื่องหมายแน่นอน

กู้เซิ่งเสวี่ยกัดฟันเน้นย้ำ “ฉันเจอก่อน”

พอซู่เป่าได้ยินก็เข้าใจ ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง

เธอนับนิ้วมือ ก่อนที่จะส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ถูกสิ หนูเจอก่อน”

กู้เซิ่งเสวี่ยโมโห “เถียงเอาดื้อ ๆ ! วันที่สิบสี่ กรกฎาคม ฉันก็ทำเครื่องหมายไว้บนตัวของหวังเจียเจียแล้ว”

ซู่เป่า “หนูก็เจอป้าหวังวันที่สิบสี่ กรกฎาคม เหมือนกันนะ”

กู้เซิ่งเสวี่ยหมดคำพูด ไม่คิดว่าซู่เป่าจะเถียงคำไม่ตกฟาก ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา “ขโมยของคนอื่นก็แล้ว ยังจะไม่ยอมรับอีกเหรอ”

ซู่เป่าสับสนเข้าไปอีก “ก็เพราะหนูเจอป้าหวังก่อนไง แล้วหนูก็เจอป้าหวังช่วงเช้า ตอนเก้าโมงกว่า ของวันที่สิบสี่ กรกฎาคม ถึงรู้ว่าในบ้านมีผี พี่ล่ะกี่โมง”

คำตอบนี้ถึงกับทำให้กู้เซิ่งเสวี่ยพูดไม่ออก

เธอเจอก่อนจริง ๆ...

โมโห ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่เลย…

กู้เซิ่งเสวี่ยแทบกระอักเลือด แต่เป็นความผิดพลาดของตัวเอง เลยไม่มีอะไรจะเถียง

ที่แท้ไม่ใช่เธอที่เป็นหัวขโมย แต่เป็นตัวเองที่พยายามไม่พอ

ถ้าจะพูดอย่างละเอียดก็คือเธอลังเลเอง ไม่กล้าที่จะจัดการตั้งแต่คืนนั้น

คิดได้อย่างนี้ก็ยิ่งโกรธเข้าไปอีก

凸(艹皿艹 )

ซู่เป่าราวกับคนที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ยังคงถามต่อ “ตกลงพี่เจอกี่โมง”

กู้เซิ่งเสวี่ยกัดฟันกรอด “ครั้งนี้เธอชนะแล้ว ครั้งหน้าไม่โชคดีแบบนี้หรอก”

ชะงักไปชั่วครู จากนั้นเธอก็พูดอย่างอับอายขายขี้หน้า “ขอโทษ!”

นี่มันศึกแย่งชิงอะไรกันเนี่ย

จับผีตอนกลางคืนงั้นเหรอ

ไม่หลับไม่นอนมันแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน