ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 362

ลูกพี่ลูกน้องเสี่ยงหงคว้าอิฐขึ้นมาแล้วรีบพุ่งไปที่โจวจวี่ แล้วยกมือปามันไปที่โจวจวี่!

ด้วยความที่เธอเตี้ยกว่าโจวจวี่ ในความชุลมุลนั้นก้อนอิฐก็ทุบเข้าไปที่หน้าของโจวจวี่ ทุบจนใบหน้าเขาเป็นหลุม

โจวจวี่ร้องเสียงดัง กระอักเลือดออกมาจากปากและคายฟันหน้าออกมาหลายซี่ พูดไม่ชัด “เธอ…เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ…”

ลูกพี่ลูกน้องเสี่ยวหงคว้าก้อนอิฐไว้ในมือ ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “ใช่ ฉันบ้าไปแล้วๆ!”

เธอพูดพลางคว้าก้อนอิฐทุบๆไปด้วย

โจวจวี่หลบแล้วหลบอีก แต่จะหลบได้ที่ไหนเล่า รอบนี้ก็โดนทุบเข้าหน้าอีกตั้งสองครั้ง

เขาดั้งหัก ปากแตก ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด

พวกญาติตกใจ ลนลานรีบไปดึงตัวทั้งสองคนออกจากกัน แม้แต่เสี่ยวหงที่ถือถังขยะเพื่อจะเอามาตีเขาก็อึ้งไปด้วย

หลังความวุ่นวายจบลง ลูกพี่ลูกน้องกับโจวจวี่ถูกแยกออกจากกัน ทันใดนั้นลูกพี่ลูกน้องอีกคนของเสี่ยวหงก็รีบเอ่ยว่า “นี่ ทำอะไรกันน่ะ ใช้กำลังไม่ได้นะ มีเรื่องอะไรมาค่อยๆคุยกันดีกว่า พี่เขาเธอเขาก็แค่…”

เสี่ยวหงยิ้มเยาะ “พี่ก็อย่าพูดแทนพี่เขยเลยเหอะ! เขาเป็นคนยังไงพี่ก็รู้ดีที่สุดนี่?”

พูดอะไรไม่น่าฟัง เขาจิตใจดีนะ

เธอดูหมิ่นเขาเกินไปหรือเปล่า!

ลูกพี่ลูกน้องเสี่ยวหงไม่พูดอะไร แต่ในใจก็โล่งอกขึ้นนิดหน่อย——พี่สาวตีโจวจวี่ขนาดนี้ จะบอกว่าเสมอกันก็ไม่ได้ อย่างน้อยก็คงได้ออกค่ารักษาน้อยลงนิดหนึ่ง…

สุดท้ายโจวจวี่ถูกพาไปพันแผล สรุปเขาแค่ดั้งหัก ปากแตก ฟันร่วงไปแค่หกซี่เท่านั้น (รวมซี่ที่ซู่เป่าทำด้วย)

ถือว่าแค่บาดเจ็บเล็กน้อย ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวหงก็เริ่มโมโหอีกรอบ

โจวจวี่พูดไม่ชัด แววตาไม่พอใจ “นางบ้า…!ผมวินิบฉายยังไม่ออบมาเลย%……#¥”

ผลวินิจฉัยยังไม่ออกมาเลย จะมั่นใจได้ยังไงว่าเป็นเพราะดื่มเหล้าไปอึกเดียว

ตอนเด็กๆ มีใครไม่เคยแอบดื่มเหล้าบ้างเล่า มีเด็กตั้งเยอะที่ทำแล้วไม่เห็นเป็นอะไร ทำไมเขาถึงมีปัญหาได้

เพราะลูกชายเธอบอบบางต่างหาก?

อีกอย่างลุงห้าของเขา เมื่อก่อนดื่มเหล้าเก่งจะตายเคยดื่มเยอะที่สุดทีหนึ่งตั้งห้าลิตร แต่เมื่อวานแค่ดื่มคำเดียวจะมาโทษว่าเป็นเพราะเขาเนี่ยนะ

ดีไม่ดีเป็นเพราะหลังผ่าตัดพักผ่อนไม่เพียงพอ ดูแลไม่ดี อยู่เฉยไม่ได้ลุกมาทำงานก็เลยเลือดออก แล้วยังมาโทษเขาอีก!

ถอยไปมองหมื่นก้าว จะบอกว่าลุงห้าไม่ต้องรับผิดชอบเลยหรือไง? ตัวเองดื่มไม่ได้แล้วจะฝืนดื่มทำไม

แม่ของจวิ้นจวิ้นไม่ต้องรับผิดชอบเลยหรือไง? ตัวเองไม่ดูลูกดีๆ เอง ตอนเกิดเรื่องทำไมไม่ห้าม? แล้วก็มาโทษเขาหลังจากนั้น!

โจวจวี่บ่นพึมพำ แต่ก็ไม่มีใครฟังออกว่าเขาพูดอะไร

พอถึงช่วงบ่าย ผลวินิจฉัยของจวิ้นจวิ้นและหวงต้าฉวนก็ออกมาแล้ว จวิ้นจวิ้นเป็นพิษสุราเฉียบพลัน ส่วนหวงต้าฉวนที่เลือดออกจะบอกว่าไม่ใช่เพราะเหล้าก็ไม่ได้

คราวนี้ดีแล้ว โจวจวี่ไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้อีก

หวงต้าฉวนเองก็มีโรคหัวใจ โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่หัวใจมีขดลวด บริเวณที่มะเร็งลําไส้ไม่สามารถหยุดเลือดไว้ได้ เนื่องจากมีข้อบ่งชี้เยอะ การผ่าตัดไม่ราบรื่นเลยต้อ

เข้าห้องไอซียู

สามารถช่วยชีวิตจวิ้นจวิ้นไว้ได้ แต่พิษสุราทำให้สมองเสียหายและชัก สติปัญญา การออกกำลัง ภาษาต่างๆ ได้รับผลกระทบหมด มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมแล้วต้องได้รับการดูแลไปตลอดชีวิต

พี่สาวและเสี่ยวหงฟ้องโจวจวี่เรียกค่าชดเชยกับเขาทันที

โจวจวี่เหมือนตกนรกทั้งเป็น สมองมึนไปหมด

ไม่มั้ง…เขาแค่ชวนดื่มสองคำเท่านั้นเอง! ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้…

ยังไม่พูดถึงลุงห้าของเขา ถ้าช่วยได้ก็ดีไป แต่ถ้าช่วยไม่ได้ก็คงต้องปล่อยไป เขาคงต้องจ่ายค่าชดเชยกี่หมื่นกี่แสนก็ช่าง

แต่ค่ารักษาจวิ้นจวิ้นนี่สิ ค่าเลี้ยงดูตลอดชีวิต ค่าเสียหายทางจิตใจต่างๆ ที่ต้องใช้เงินเป็นหลายล้าน?

ต่อให้เขาจะขายบ้านขายรถมาชดใช้ก็ยังไม่พอ!

ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวหงขอหย่ากับเขาทันที แม้ว่าโจวจวี่จะหนีไปได้แต่ก็กลายเป็นผู้ต้องหาไปแล้ว ส่วนรถสองแสนและบ้านสองสามล้านของเขาก็จะต้องถูกยึดแล้วนำไปขายมาชดเชยค่ารักษาหวงต้าฉวงและจวิ้นจวิ้น

โจวจวี่ถึงกับขาอ่อน คุกเข่าลงบนพื้นโรงพยาบาล สติหายไปนาน ในใจเหลือเพียงแค่ความหงุดหงิดและเสียใจ คิดแค่ว่าทำไมตัวเองถึงโชคร้ายขนาดนี้!…

**

ลูกพี่ลูกน้องเสี่ยวหงได้แพร่กระจายข่าวที่โจวจวี่โดนตีจนหัวแตกไปทั่วโรงพยาบาล ทั้งคนไข้ทั้งญาติคนไข้แพร่ข่าวไปเรื่อยๆ จนทั้งโรงพยาบาลนรู้เรื่องกันหมดในไม่ช้า

ได้ยินมาว่าพ่อของจวิ้นจวิ้นที่ทำงานอยู่ต่างถิ่นก็รีบกลับมาแล้วเอามีดไล่จับโจวจวี่ตามทั่วถนน…

มีเสียงวิจารณ์กันไปทั่ว

อาจเป็นความสัมพันธ์ของซูอี้เซิน หรือเป็นเพราะโชคดี เตียงที่ซูจื่อซีจองไว้เป็นห้องเดี่ยว

ซู่เป่าตะลึง

เสี่ยวปามาได้ยังไง…ไม่สิ พี่เสี่ยวเสวี่ยมาได้ยังไง?

กู้เสี่ยวปาจ้องไปที่ซู่เป่าด้วยความโมโห “เธอ!…เธอเป็นคนเก็บผีสาวคนนั้นใช่ไหม!”

ซู่เป่ายังไม่ทันตอบสนองก็เลยถามไปว่า “คนไหน?”

กู้เซิ่งเสวี่บ “ก็ผีสาวคนนั้นไง! ผีสาวที่อยู่ในตู้เสื้อผ้ากับ ‘พี่สาว’ มาสองเดือนคนนั้นไง!”

ซู่เป่า “…”

อ่อ เถาลิ่วถู่เหรอ(เถาเหยาเหยา)!

พระเจ้า ผ่านไปนานขนาดนี้ จนเธอเกือบจะลืมไปแล้ว

และ…

ซู่เป่ามองไปที่กู้เซิ่งเสวี่ยด้วยสีหน้าไร้เตียงสา “หนูเคยถามพี่แล้วนะ แถมหนูยังถามพี่ตั้งสองครั้ง หนูบอกว่าหนูจะไปจับผีตัวนั้นแล้วนะ! แล้วพี่ก็เห็นด้วย!”

กู้เซิ่งเสวี่ย “ฉันเห็นด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่!ฉัน…”

จู่ๆ สหายเสี่ยวปาก็อึ้ง

เธอจำได้แล้ว ตอนนั้นที่ซู่เป่าบอกว่าจะไปจับผี แล้วเธอบอกว่าจะหาว่ามาแย่งเคพีไอเธอไม่ได้นะ…อ่อที่แท้หมายถึงอันนี้นี่เอง?!

กู้เสี่ยวปา “…” โมโหจนอยากจะร้องไห้

เป็นครั้งแรกที่กู้เซิ่งเสวี่ยมีความรู้สึกอยากร้องไห้ น้ำตาคลออยู่ใต้ตาแล้วก็ฝืนกลั้นน้ำตากลับไป

ถือว่าเธอซวยแล้วกัน!

ก็แค่ผีเอง?

ตอนที่เธอผ่านมาที่โรงพยาบาลที่สี่แล้วมองไกลๆเห็นมีไอหยินปกคลุมอยู่

เธอจะไปจับผีที่โรงพยาบาลที่สี่เดี๋ยวนี้แหละ รอบหน้าไม่มีใครมาแย่งเธอแน่!

สหายเสี่ยวปาก็เดินหันหัวไปด้วยความโมโห

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน