ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 391

ขณะที่ซู่เป่ากำลังจะกินอาหารเช้าเสร็จ ซูอิ๋งเอ่อร์กับซูจื่อหลินเพิ่งจะตื่น

เมื่อคืนมีผู้ดูแลมาลงพื้นที่หน้างานก่อสร้าง ซูอิ๋งเอ่อร์จึงต้องไปเฝ้าสังเกตการณ์

ส่วนซูจื่อหลินเมื่อคืนไปเฝ้าซูจื่อซีที่โรงพยาบาล เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน อาบน้ำเสร็จถึงลงมาชั้นล่าง

ส่วนซูอี้เซินเนื่องจากเมื่อคืนต้องกู้ชีพผู้ป่วย เลยตื่นค่อนข้างสาย

แปดพี่น้อง อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันห้าคน

“ลุงใหญ่คะ ลุงไม่ไปบริษัทเหรอคะ” ซู่เป่าถามขึ้น

ซูอีเฉินนั่งจัดการงานอยู่บนโซฟา ขาทั้งสองนั่งไขว่ห้างกัน เนื่องจากสวมชุดสูทสีดำทั้งตัวจึงทำให้เขาดูเย็นชาและเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด

“เดี๋ยวตอนกลางคืนต้องออกไปทำงานที่อื่น” ซูอีเฉินพูด “เพราะงั้นตอนเช้าไม่ต้องไปบริษัท”

ซู่เป่าเอียงศีรษะ เสี่ยวอู่ที่อยู่บนศีรษะก็เอียงศีรษะเช่นกัน เจ้าตัวน่ารักทั้งสองมองไปที่ซูอีเฉินอย่างสงสัย

ซู่เป่าถามขึ้นว่า “ลุงใหญ่จะออกไปทำงานที่ไหนเหรอคะ คืนนี้จะกลับบ้านไหม”

ซูอีเฉินปิดแท็บเล็ต แล้วอุ้มซู่เป่าที่เดินเข้ามาขึ้นมาวางไว้บนเข่า ในน้ำเสียงอันเย็นชาแฝงไปด้วยความอบอุ่นเล็กน้อย “ไม่เร็วขนาดนั้นหรอก น่าจะประมาณครึ่งเดือน”

ซู่เป่าประหลาดใจ “ไปนานขนาดนั้นเลยเหรอคะ! ไปทำอะไร”

ริมฝีปากของซูอีเฉินยกยิ้ม “นี่เป็น...ความลับของบริษัท”

ซื้อเกาะต้องเจรจาเรื่องสัญญา และแผนการเปิดสวนสนุกในภายหลัง เรื่องพวกนี้ซูอีเฉินยังไม่อยากบอกกับซู่เป่า

รอเธออายุห้าขวบ ค่อยยกเกาะนี้เป็นของขวัญให้กับเธอ

ซู่เป่ารีบเอามือป้องปาก แล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง “เข้าใจแล้วค่ะ งั้นซู่เป่าไม่ถามแล้ว!”

ความลับเชียวนะ จริงจังมากๆ

เสี่ยวอู่ส่ายหัวตาม “ไม่ถามๆ เราไม่ถาม!”

ซูอีเฉินถูกเจ้าตัวเล็กทั้งสองแกล้งเล่น

นายหญิงซูพูดบ่นอยู่ข้างๆ “กี่โมงกี่ยามแล้วพี่สาวของหนูยังไม่ตื่นอีก อีกสองวันก็เปิดเทอมแล้วยายจะดูซิว่าเธอจะทำยังไง”

“ซู่เป่า หนูไปปลุกพี่สาวของหนูหน่อยสิ? เดี๋ยวผู้จัดการผลิตภัณฑ์ดีแอนด์อาร์จะเอาชุดมาให้ถึงบ้าน พวกหนูเลือกชุดใหม่สักสองสามชุดเตรียมไว้ใส่ตอนเปิดเทอมสิ”

ซู่เป่าไถลลงมาจากอ้อมแขนของซูอีเฉิน วิ่งขึ้นไปชั้นบนพลางพูดขึ้นว่า “ได้ค่ะ!”

ในห้องของหานหาน ยัยหานหัวโตกำลังนอนหลับสบาย เธอกอดหมอนเอาไว้ เท้าข้างหนึ่งห้อยอยู่ขอบเตียงสัมผัสกับพื้น เท้าอีกข้างหนึ่งคร่อมอยู่บนผ้าห่ม

เสี่ยวอู่กระพริบตาที่มีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว เลียนแบบสคริปต์ของคลิปวิดีโอสั้นสุดฮอตมาจนบรรยายได้อย่างละเอียด “นี่มันสร้างภาพลักษณ์อะไรกัน แปลกใหม่เฉพาะตัวจริงๆ ช่างเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นจริงๆ!”

ซู่เป่าผลักหานหาน แล้วพูดขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “พี่หานหาน พี่นอนยังไงเนี่ย อีกนิดจะหล่นลงบนพื้นแล้ว!”

หานหานลืมตาอย่างสะลึมสะลือ เดิมตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิดและในขณะที่ลืมตามาเห็นซู่เป่า เธอก็หายหงุดหงิดเป็นปลิดทิ้ง

เธอพูดขึ้นพึมพำๆ “อ๋า...ฉันปวดฉี่แบบเร่งด่วน ตอนแรกจะลุกมาเข้าห้องน้ำ...จากนั้นก็หาห้องน้ำในความฝัน...แล้วฉันก็ตื่น...”

พอตื่นแล้วยังจำได้ว่าต้องไปฉี่ สุดท้ายเอนหลังลงบนเตียงก็เหมือนจะลืมไปแล้ว

กลับกันก็หลับต่ออีกแล้ว

หานหานลุกขึ้นนั่ง ทันใดนั้นพูดอุ๊ยโอ๊ยขึ้นมาเสียงหนึ่ง และพูดว่า “ฉี่จะราดแล้ว ฉี่จะราดแล้ว อั้นไม่ไหวแล้ว!”

เธอพูดไปพลางใช้มือปิดก้นเอาไว้แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ

ซู่เป่าตะลึงงันไปชั่วครู่ แล้วพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “ฉี่จะราดแล้วทำไมต้องเอามือปิดก้นล่ะ”

เสี่ยวอู่เอียงศีรษะ “ไม่งั้นจะให้ปิดปาก?”

ซู่เป่า “…”

หลังปลุกพี่หานหานแล้ว ซู่เป่ากำลังจะไปหาซูเหอเวิ่น ก็ได้ยินมู่กุยฝานตะโกนขึ้นมาจากชั้นล่าง “ซู่เป่า”

นัยน์ตาของซู่เป่าเป็นประกาย “พ่อคะ หนูมาแล้ว!”

เธอวิ่งลงมาชั้นล้างตึงๆๆ กระโดดตัวลงมาในตรงที่ยังเหลือขั้นบันไดอีกสองขั้น มู่กุยฝานกอดรับเธอเอาไว้อย่างแม่นยำ

ซู่เป่าหัวเราะฮ่าๆ อย่างมีความสุข จากนั้นถามขึ้นว่า “พ่อคะ ต่อไปถ้าหนูกระโดดลงมาจากชั้นสองเลย พ่อจะรับหนูได้ไหม”

มู่กุยฝาน “แน่นอนอยู่แล้ว หนูจะกระโดดลงมาชั้นสิบพ่อก็รับหนูได้”

นาหญิงซู “อะแฮ่มๆ!”

มู่กุยฝานเปลี่ยนน้ำเสียง แล้วพูดต่ออย่างไม่ติดขัด “แต่ว่าแบบนั้นอันตรายมากๆ เราห้ามทำแบบนี้เด็ดขาดนะ”

ซู่เป่า “โอเคค่ะ”

มู่กุยฝานพูดถึงชายหัวล้านที่ถูกจับกุมแล้ว จากนั้นก็อธิบายทุกอย่างที่ถามมาอย่างละเอียดอีกรอบ

สิ่งที่ยืนยันได้คือเขาเป็นคนแปะหนังหุ่นกระดาษให้ซูเยว่เฟย และผีเจ้าสาวในชุดแต่งงานเขาก็เป็นคนปล่อยเอาไว้ ทำไปเพื่ออะไรยังไม่รู้

นี่คือผู้นำแห่งตระกูลซู ประธานจอมเผด็จการแห่งซูซื่อกรุ๊ป ซูอีเฉิน!

ปกติก็สามารถเห็นได้ตามพาดหัวข่าวเศรษฐกิจอยู่เป็นครั้งคราว แต่ไม่นึกเลยว่าตัวจริงจะหล่อกว่าในทีวีขนาดนี้...

ผู้จัดการผลิตภัณฑ์หรี่ตา ตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ สติกระเจิดกระเจิง...

ซูอีเฉินมองเธอด้วยสายตาเย็นชาทีหนึ่ง แล้วเดินผ่านไปจากด้านข้าง

ด้านหลังคือเสียงอันไร้เดียงสาของซู่เป่า “บ๊ายบายค่ะลุงใหญ่!”

ซูอีเฉินหันหน้ากลับไป โบกไม้โบกมือ ขณะนี้เองถึงขึ้นรถและจากไป

ตอนนี้เองผู้จัดการผลิตภัณฑ์ดีแอนด์อาร์ถึงได้สติกลับมา และหงุดหงิดโมโหเป็นอย่างมากในทันใด!

เมื่อครู่ประธานซูเดินผ่านข้างกายเธอไป ในระยะที่ใกล้ขนาดนี้ เป็นโอกาสที่ดีแค่ไหน!

ไม่นึกเลยว่าเธอจะสติกระเจิดกระเจิง ไม่นึกถึงเรื่องแปะยันต์เลย

พลาดโอกาสครั้งนี้ ครั้งหน้าก็ไม่รู้แล้วว่าเมื่อไรถึงจะได้พบกันในระยะที่ใกล้ขนาดนี้อีก...

ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ดีแอนด์อาร์นึกเสียใจจนแอบกระอักเลือด ทำได้เพียงแค่พยายามร่าเริงอารมณ์ดี มองไปทางซู่เป่าที่อยู่หน้าประตู แล้วพูดขึ้นด้วยใบหน้าฉีกยิ้มว่า “สวัสดีค่ะ คุณหนูน้อยซูใช่ไหมคะ ฉันคือผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของดีแอนด์อาร์ ฉันชื่อหม่าหลิน คามิลลี่ ดีใจที่ได้ให้บริการคุณหนูนะคะ”

ซู่เป่า “...”

เธอมองประเมินหม่าหลิน คามิลลี่ทีหนึ่ง คนนี้ชื่อแปลกจัง!

ไม่เหมือนชื่อของคนประเทศหลงเลยสักนิด

หรือว่าเธอชื่อหม่าหลิน คามิลลี่ข้างหลังคือเม็ดข้าวติดจริงๆ ? (*คามิลลี่พ้องเสียงกับคำว่าเม็ดข้าวติด)

เธอสบายดีใช่ไหม ต้องการให้ช่วยอะไรหรือเปล่า

ซู่เป่าครุ่นคิดอย่างหนัก สุดท้ายก็โพล่งถามขึ้นมาว่า “ทำไมคุณถึงชื่อคามิลลี่เหรอคะ เม็ดข้าวติดอยู่ตรงไหน ติดอยู่ในจมูกเหรอ”

เสี่ยวอู่พูดขึ้นต่อว่า “ในจมูกมีเม็ดข้าวติดอยู่! ระวังเธอพ่นน้ำมูกออกมาโจมตีนะ!”

สีหน้าของหม่าหลิน คามิลลี่เกร็งไปหมด “...”

เจ้าเด็กน้อยตระกูลซูคนนี้ ช่างไร้มารยาทเสียจริง!

ได้ยินมาว่ารับกลับมาจากชนบท เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ แม้แต่คามิลลี่ชื่อต่างประเทศที่นิยมใช้กันยังไม่รู้จักเลย

บุคลิกของคุณหนูน้อยแห่งตระกูลไฮโซสลักอยู่ในกระดูก เห็นได้ชัดว่าคุณหนูน้อยตระกูลซูคนนี้ไม่มี...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน