ที่สุดซู่เป่าก็ส่ายหน้าอย่างซื่อสัตย์ “ฉันไม่รู้ว่าเธอทำถูกไหม และก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาทำชั่วแล้วยังมีเทพเจ้าคอยปกป้องคุ้มครอง”
“ถ้าต่อไปฉันรู้คำตอบแล้วจะจะบอกเธอแน่นอน”
อาเจียมองซู่เป่านิ่ง ผ่านไปพักใหญ่ถึงพยักหน้า “โอเค งั้นฉันจะรอเธอ ถ้าเมื่อไหร่เธอรู้คำตอบแล้ว เธอก็บอกฉันนะ!”
ซู่เป่าพยักหน้า มือสองข้างจับไว้ด้วยกัน แต่ว่ามือข้างหนึ่งเนื้อเยอะแถมผิวอมชมพูนุ่ม มืออีกข้างหนึ่งผอมขาวซีด…
ฟ้ากำลังจะสว่างแล้ว
มู่กุยฝานมองดูพื้นผิวทะเลพูดว่า “เราควรกลับกันแล้ว”
ซู่เป่าเก็บผีทั้งหลายกลับเข้าไปในน้ำเต้าวิญญาณ รวมถึงอาเจียและตุ๊กตาผ้าของเธอก็ถูกเก็บเข้าน้ำเต้าวิญญาณด้วย
ระหว่างทางกลับซู่เป่านอนตัวนวลอยู่บนบ่าของมู่กุยฝานหาววอด
แต่ว่าเธอไม่ได้ง่วง เธอเหม่อมองจ้องไปทางทิศหนึ่ง
มู่กุยฝานถามว่า “คิดอะไรอยู่เหรอ?”
ซู่เป่าถามว่า “พ่อคะ อาเจียทำถูกไหมคะ?”
มู่กุยฝานเงียบไปพักหนึ่งก่อนตอบว่า “โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับอาเจียมาจากเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของพวกเขา มาจากแม่ของเขา มาจากคนที่จิตใจวิปริต”
“ฆ่ามาฆ่ากลับ ใครจะบอกได้ว่าผิดหรือถูก คำถามนี้พ่อเองก็ตอบลูกไม่ได้เหมือนกัน”
การตัดสินสิ่งต่าง ๆ ในโลกใบนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ถูกกับผิดง่าย ๆ แค่นั้น
เพราะแบบนี้ถึงต้องมียมบาลมาคอยดูทั้งชาติก่อนชาตินี้ ทั้งตอนมีชีวิตและหลังจากตายไปแล้วว่าผิดถูกขาวดำ
มันเหมือนกัน เขาไม่ใช่ยมบาลเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องนี้ผิดหรือถูก
ซูเป่าหมอบอยู่และเธอก็หาวอีกครั้ง
จี้ฉางที่ลอยอยู่ข้าง ๆ บอกว่า “ถูกหรือผิด ถ้าแยกกันพูดแล้ว แม่และคนพวกนั้นต่างก็ผิด อาเจียเองก็ผิด”
“คนพวกนั้นผิดที่โฉดเขลา มีจิตใจวิปริต”
“อาเจียผิดที่ฆ่าคนไม่เลือกหน้า ในร้อยกว่าคนนั้น อาจจะมีคนที่เป็นศิษย์ของพวกวิปริต แต่เขาจุดไฟเผาคนตายหมด”
เด็กตัวแค่นี้สามารถฆ่าคนตายได้เป็นร้อยคน ก็เป็นหนึ่งเดียวในโลกเหมือนกัน
“แต่ถ้าให้พูดโดยองค์รวม เรื่องทุกเรื่องล้วนมีเหตุและผลของมัน กรรมตามสนอง อาเจียกับพี่สาวเดิมทีมีชีวิตที่เรียบง่ายสงบสุข แต่กลับต้องมาเกิดโศกนาฏกรรมเพราะคนทำกลองพวกนั้นทำให้อาเจียต้องโหดร้าย ถ้าจะบอกว่าอาเจียทำให้คนหลายร้อยคนต้องตาย ไม่สู้บอกว่าเธอกับพวกนั้นร่วมกันทำให้ทุกคนต้องมาตายกันหมด”
“ถ้าพวกเขาไม่ทำชั่วก่อน ต่อมาอาเจียคงไม่ฆ่าคนไม่เลือกหน้า”
แน่นอนว่า พวกเขาอาจจะบอกว่าถ้าอาเจียไม่ได้มีความโหดเหี้ยมติดตัวมาตั้งแต่เกิด ทำไมถึงฆ่าคนหลายร้อยคนได้
คำพูดพวกนี้ อยู่กับว่าใครเป็นคนพูดออกมา แต่ละคนมีความคิดที่ต่างกัน คนบริสุทธิ์ที่ตายไปก็มีพี่สาว แม่ หรือน้องสาวน้องชายที่รักเหมือนกัน
แล้วพวกเขาจะโกรธแค้นใครล่ะ? ต้องเป็นอาเจียอยู่แล้ว
ตอนแรกซู่เป่าก็ไม่ง่วง แต่พอฟังอาจารย์พูดมายาว ๆ กลับง่วงซะงั้น
หนังตาเธอลืมแทบไม่ขึ้น เธอพึมพำสะลืมละลือว่า “ท่านอาจารย์พูดทีไร…ทั้วยาวทั้งน่าเบื่อ…”
จี้ฉาง “…”
หนังสือสารานุกรมอย่างเขายังโดนรังเกียจอีกเหรอ???
พอตอนที่ต้องการก็มาเปิดหาคำตอบ
พอไม่ต้องการก็บอกว่าทั้งยาวทั้งน่าเบื่อ!
โธ่! ผู้หญิงนะผู้หญิง!
เงาร่างของจี้ฉางค่อย ๆ จางจนหายลับไป แน่นอนว่ามู่กุยฝานมองไม่เห็น แต่ที่จริงเขาก็ยังคอยเฝ้าอยู่ข้างซู่เป่า
มู่กุยฝานแบกซู่เป่ากลับไปนอนบนเตียงที่โรงแรงก่อนที่นายหญิงซูจะมาเช็คที่ห้อง
ยามสวนสนุกเหล่านั้นได้รับการช่วยเหลือลงมาหมดแล้ว หลังฟ้าสางพวกเขาก็จะตื่นขึ้นมาอย่างงงงวย ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ สวนสนุกค่อย ๆ กลับมามีรูปลักษณ์ในแบบที่ควรจะเป็น มีชีวิตชีวาและสนุกสนานอย่างแท้จริง
นายหญิงซูมาพร้อมกับอาหารเช้าแสนอร่อยและพบว่าซู่เป่ายังคงนอนหลับอยู่ เรียกเธอเธอก็แค่พลิกตัว แต่ท่าทางลืมตาตาไม่ขึ้น
หญิงชรายิ้ม “มู่กุยฝาน เมื่อคืนซู่เป่าไม่ค่อยได้หลับเหรอ?”
มู่กุยฝานหน้าไม่เปลี่ยนสี “เธอนอนหลับสบายมากครับ”
นายหญิงซูชี้ไปที่ซู่เป่าที่นอนหลับไม่ยอมตื่น “งั้นเธอบอกฉันซิว่านี่มันเรื่องอะไรกัน เมื่อคืนพาเธอไปจับผีอีกแล้วใช่ไหม?”
มู่กุยฝานสายตาตรงแน่ว “จะเป็นไปได้อย่างไรครับ!”
นายหญิงซูจ้องมองเขา “เชอะ”
มู่กุยฝานพูดเพ้อเจ้าหน้าตาย “ก็เพราะว่างานเลี้ยงวันเกิดเมื่อคืนเล่นจนดึกเกินไป เรื่องนี้ต้องโทษลุงใหญ่นะครับ”
ซูอีเฉินที่รับบาปแทนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้เรื่องอะไรด้วย “...”
นายมันสุดยอด นายมันเจ๋ง นายมันดีเลิศ
คนที่บอกให้ฉันจัดงานวันเกิดก็นาย คนที่โยนความผิดให้ฉันก็นาย!
ซูอีเฉินเหนื่อยใจ แต่ก็ยังพูดว่า “ให้ซู่เป่านอนอีกสักพักเถอะครับ คืนแรกที่ขึ้นเกาะไม่ได้นอน การอดนอนจะง่วงทีหลังแบบนี้แหละ”
ความหมายโดยนัยก็คือ จะโทษก็โทษมู่กุยฝานที่คืนก่อนให้ซู่เป่าฝึกทั้งคืน
บอกตรง ๆ เลยว่าในหัวเธอเต็มไปด้วยน้ำก็พอแล้ว
ผู้ใหญ่ชอบเป็นห่วงเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่เข้าใจเลยจริง
แล้วหานหานก็ลากซู่เป่าหนีไป
เครื่องเต้นตื่นเต้น ๆ เล่นไม่ได้ ม้าหมุนที่แสนอ่อนโยน สไลเดอร์และอย่างอื่น ๆ ที่เล่นได้เธอก็เล่นจนหมด
สองวันต่อมาก็เล่นเครื่องเล่นที่สามารถเล่นได้ในเกาะหนีกวงจนหมด แล้วก็ฉลองวันเกิดครบรอบ 5 ขวบให้กับซู่เป่าย้อนหลัง นี่ก็ถือว่าไม่มีอะไรให้เสียใจภายหลังแล้ว
กว่าจะได้มาสักที แผนเดิมของตระกูลซูคืออีกหนึ่งวันถัดไปค่อยกลับ แต่จู่ ๆ ซู่เป่าก็ยืนยันที่จะกลับบ้าน คนตระกูลซูจึงต้องออกเดินทางกลับเมืองจิงกระทันหัน
ในขณะนี้
กลุ่มโจรที่จ้องหินดิบอยู่กําลังเตรียมที่จะลงมือ
“ตามข่าวกรองที่เชื่อถือได้ ตระกูลซูจะมาถึงเมืองจิงพรุ่งนี้หกโมงเย็น พวกเรามีกําหนดจะลงมือในคืนนี้!”
โจรโง่เขลาคนหนึ่งถามว่า “ทําไม?”
หัวหน้าโจรถลึงตาใส่เขา “จะทําไมได้ล่ะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนตระกูลซูกําลังจะกลับมา ในวันนั้นคนรับใช้ของตระกูลซู ยามเฝ้าประตูและคนอื่น ๆ ล้วนมีสภาพจิตใจที่ผ่อนคลาย ประมาทเลินเล่อง่าย เราก็จะอาศัยช่องโหว่นี้แหละ”
ลูกน้องโจรโง่เขลา “แล้วเหตุผลอีกส่วนหนึ่งล่ะ?”
ลูกพี่ “อีกเหตุผลหนึ่งก็คือพวกโง่อย่างพวกแกยังหาตําแหน่งที่แน่นอนของหินดิบไม่เจอเลย”
หัวหน้าโจรเหนื่อยใจ
การหาสมบัติที่มีค่าที่สุดในพิพิธภัณฑ์ในประเทศตะวันตกยังไม่ยากขนาดนี้เลย!
ครั้งนี้เหมือนผีหลอกเลย แค่คฤหาสน์หลังเล็ก ๆ ของตระกูลซู แต่พวกเขาหาที่อยู่ของหินดิบนั้นไม่เจอ
หินดิบก้อนใหญ่ขนาดนั้น!
ลูกน้องโจรโง่เขลาถามอย่างลังเลว่า “ลูกพี่ คุณว่าหินดิบนั้น... จะเป็นก้อนที่วางอยู่ที่ประตูตึกหลักหรือเปล่า?”
หัวหน้าโจรตบเขาฉาดหนึ่งทันที “โง่เหรอ? มันเป็นไปได้ไหม? หินก้อนนั้นใหญ่ขนาดนั้น ฉันขึ้นเหนือลงใต้มาหลายสิบปี ก็ไม่เคยเห็นหินดิบใหญ่ขนาดนั้นมาก่อน เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
“อีกอย่าง แกเคยเห็นใครตากวาซาบิบนหินดิบไหม เมื่อวานยังตากปลาเค็มด้วยซ้ำ”
ลูกน้องทุกคน “...”
หัวหน้าพูดมีเหตุผลนะ
หัวหน้าเป็นคนที่มีไอคิวสูงที่สุดในหมู่พวกเขา
หัวหน้าบอกว่าไม่ใช่ งั้นก็ไม่ใช่!?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...