ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 559

ชายชุดดำพยายามสื่อกระแสจิตอีกที แต่ก็สื่อไม่ถึงจริง ๆ

เขาลองเรียกผีสาวผมขาวแต่ก็ไม่กลับมา

เขารู้สึกเพียงสับสนงุนงง

ผีสาวผมขาวเป็นผีที่เขาหลอมขึ้นมาเอง มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเขา ต่อให้ถูกฆ่าตายจริง ๆ ก่อนที่วิญญาณจะแตกสลายจะต้องส่งสารมาหาเขาจึงจะถูก

ชายชุดดำหรี่ดวงตา “หรือว่านังเด็กนั่นจะมาด้วย”

เขาไม่รออยู่ในห้องแล้ว เขาออกไปข้างนอก เดินอยู่บนทางเดินพลางส่งกระแสจิต

ขอเพียงมีผีอยู่ ต่อให้อยู่ในที่ที่เขามองไม่เห็น เขาก็ยังสามารถสัมผัสได้อยู่ดี

แต่กลับไม่มีความรู้สึกตลอดทาง

--------------------------

มู่กุยฝานออกจากโรงแรมนานแล้ว

เขาเลือกร้านหม้อไฟที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม พ่อครัวกำลังตุ๋นน้ำซุปเดือดพล่านด้วยไฟแรงอยู่ตรงชั้นหนึ่งของที่นี่

เตาไฟตรงหน้าเขากำลังลุกโชนอยู่พอดี ทั้งร้านหม้อไฟกำลังอยู่ในภาวะที่ร้อนระอุอย่างหนึ่ง

ในที่ที่ร้อนระอุและมีไอหยางมากจะเป็นประโยชน์แก่การซ่อนตัว

เพียงแต่ตุ๊กตาจะรู้สึกทรมานเล็กน้อยเท่านั้น

มู่กุยฝานกินอาหารพลางจ้องโรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็พูดขึ้น “ไอหยางแค่นี้ สำหรับแกไม่นับเป็นอะไรหรอก เงียบหน่อย!”

ตุ๊กตา ...

นายมันสูงส่ง นายมันเก่ง นายกินหม้อไฟแต่ให้ฉันหลบอยู่ใต้โต๊ะ!

ทันใดนั้นมู่กุยฝานก็เห็นชายชุดดำคนหนึ่งเดินออกมาจากโรงแรม

เขาหรี่ดวงตา ล็อกเป้าคนผู้นี้ตั้งแต่แวบแรก

คนผู้นี้ไม่ต่างจากคนปกติคนอื่น ที่มู่กุยฝานมุ่งประเด็นมาที่เขาเพราะ...แค่อาศัยลางสังหรณ์เท่านั้น

ที่แท้พอผู้ชายคนนั้นล้มลง มู่กุยฝานก็ล็อกประตูออกจากห้องทันที

เขาติดต่อตำรวจในท้องที่ การจะใช้ฐานะของตัวเองปิดเรื่องนี้ให้เงียบมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร

แต่ผู้ชายคนนั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าวิญญาณไปถึงไหนต่อไหนแล้ว พอตุ๊กตากินผีที่สิงอยู่ในร่างเขาไป...ผิงเติ่งหวังจึงไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ

มู่กุยฝานมองผู้ชายคนนั้นออกจากโรงแรม เดินสบาย ๆ เหมือนกำลังชมวิวทิวทัศน์ และกำลังสัมผัสกับอะไรบางอย่าง

พอเห็นเขาหายไปจากหัวสะพาน มู่กุยฝานจึงล้วงโดรนลำเล็กมินิออกมา

“จับผีด้วยวิทยาศาสตร์” นักพรตมู่กล่าว “เวลาแบบนี้ ใช้แกไม่ได้เลย”

ตุ๊กตา ...

โดรนขนาดประมาณโทรศัพท์มือถือล้ำสมัยถึงที่สุด กลายสภาพจากที่พับอยู่เป็นโดรนได้ในหนึ่งวินาที จากนั้นก็ยืด ‘กรงเล็บ’ ออกมา ก่อนจะบินออกหน้าต่างไป

มันตามหลังชายชุดดำสบาย ๆ ส่งภาพกลับมาที่โทรศัพท์มือถือของมู่กุยฝาน

พอผิงเติ่งหวังออกจากโรงแรมแล้วก็พยายามสัมผัสกับรอบตัวโดยละเอียด

มีผีอยู่สองสามตนอยู่ตามข้างถนน หัวสะพาน แต่ไม่ใช่ผีที่เขาหามา

เขาเดินพลางสัมผัส เปลี่ยนผีเร่ร่อนทั้งหมดเป็นดวงตาและมือเท้าของตัวเอง

ถ้าผีขุนศึกถูกกำจัดไปจริง อีกฝ่ายจะต้องเก่งกาจมากแน่ ๆ และคนที่เก่งอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่นักพรต ก็ต้องเป็นผู้สูงส่งที่มีภูตผีวิญญาณร้ายเป็นสมุน

ผิงเติ่งหวังมั่นใจมาก ขอแค่เป็นผี เป็นนักพรต เขาจะต้องตามหาจนเจอได้แน่

แต่น่าเสียดาย เขาพันคำนวณหมื่นคำนวณ แต่คำนวณไม่ได้ว่านักพรตมู่ผู้จับผีด้วยวิทยาศาสตร์จะไม่ทำตามหลักการที่ควรทำ

‘นักบิน’ อันเป็นไพ่ไม้ตายกำลังบินอยู่บนฟ้าเหนือศีรษะของเขาห้าร้อยเมตร กำลังจับตามองทุกการกระทำของเขาอยู่...

-------------------------

มู่กุยฝานกินหม้อไฟอย่างผ่อนคลายพลางดูภาพติดตามในมือ

เปิดบอตได้ก็ดีอย่างนี้นี่แหละ เขาเห็นอีกฝ่ายเดินไปตามถนนทะลุตรอกกับตาตัวเอง มองออกว่าตัดสถานที่จำนวนหนึ่งออก

ด้วยความเร็วในการสอดส่อง เขาน่าจะตามหาทั่วทั้งอำเภอก่อนฟ้ามืด

ต้องพูดเลย มันหอมมาก!

ซู่เป่าก็ยกมือขึ้นด้วย “ลุงใหญ่ หนูก็อยากกินหม้อไฟค่ะ!”

ซูอีเฉินมอง “ร้านอาหารแมลงวัน” หม้อไฟร้านนี้...ไม่นับว่าสะอาดสักเท่าไร

ผู้ใหญ่กินไม่เป็นไร แต่ซู่เป่ายังเด็กนะ!

มู่กุยฝานไม่ใส่ใจเลย ดึงเก้าอี้ออกมา เอาตุ๊กตาที่อยู่บนเก้าอี้วางไว้ข้างหน้าต่าง จากนั้นก็ให้ซู่เป่านั่งลง

ในที่สุดก็มีอาหารรสเลิศซุกซ่อนอยู่ในถนนสักที ถึงสภาพแวดล้อมดูไม่เท่าไร แต่อาหารสดมาก

เขาเคยชิมหม้อไฟนี้แล้ว รสชาติไม่เลว ควรค่าแก่การลิ้มลอง นายหญิงซูอยู่อีกฟากฝั่งอันไกลโพ้น รีบฉวยโอกาสนี้ให้ซู่เป่าสัมผัสรสชาติของอำเภอเล็ก ๆ ดีกว่า

“อยากกินอะไรล่ะ” มู่กุยฝานหยิบเมนูอาหาร “เอากระเพาะวัวไหม ลิ้นวัวไหม เออ..สมองหมูเอาไหม”

ซู่เป่า (⊙⊙)

เหยาหลิงเยว่ (⊙⊙) เอา หมด!

ซูอีเฉินจนปัญญาจึงได้แต่นั่งลง ให้เถ้าแก่ตั้งหม้ออีกใบ

จากนั้นก็เลือกเห็ด ผักกาดหางหงส์ เนื้อวัว เนื้อแกะติดมันสดใหม่ด้วยตัวเอง จากนั้นก็ลวกเนื้อแกะให้ซู่เป่าพลางถาม “หาเจอหรือยัง”

มู่กุยฝานส่ายหน้า “พี่อวิ๋นเจามีฝีมือเหมือนกันนะ ซ่อนตัวซะมิดชิดเลย”

เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสองวันนี้รอบหนึ่ง

ซู่เป่าถามขึ้นพลัน “พ่อคะ ผิงเติ่งหวังจะย้อนกลับมาหาพวกเราไหมคะ”

มู่กุยฝานส่ายหน้า “ยังไม่ คนคนนี้พ่อมองปราดเดียวก็รู้ว่าเขาผยองมั่นใจตัวเอง เมื่อกี้เขาเพิ่งตรวจสอบว่าทางนี้ไม่มีคนที่เขาต้องการตามหา ดังนั้นเขาจะไม่กลับมาหรอก”

บางครั้งความมั่นใจก็เป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรงเหมือนกัน

มู่กุยฝานถามอีก “นายหญิงซูไม่เป็นไรใช่ไหม เธอยอมให้พวกพี่มาเหรอ”

ซูอีเฉินตอบ “พ้นขีดอันตรายแล้ว ซู่เป่าจะมาซะอย่าง แม่จะไปค้านอะไร”

เพราะนายหญิงซูรู้ทุกอย่าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน