ชายชุดดำพยายามสื่อกระแสจิตอีกที แต่ก็สื่อไม่ถึงจริง ๆ
เขาลองเรียกผีสาวผมขาวแต่ก็ไม่กลับมา
เขารู้สึกเพียงสับสนงุนงง
ผีสาวผมขาวเป็นผีที่เขาหลอมขึ้นมาเอง มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเขา ต่อให้ถูกฆ่าตายจริง ๆ ก่อนที่วิญญาณจะแตกสลายจะต้องส่งสารมาหาเขาจึงจะถูก
ชายชุดดำหรี่ดวงตา “หรือว่านังเด็กนั่นจะมาด้วย”
เขาไม่รออยู่ในห้องแล้ว เขาออกไปข้างนอก เดินอยู่บนทางเดินพลางส่งกระแสจิต
ขอเพียงมีผีอยู่ ต่อให้อยู่ในที่ที่เขามองไม่เห็น เขาก็ยังสามารถสัมผัสได้อยู่ดี
แต่กลับไม่มีความรู้สึกตลอดทาง
--------------------------
มู่กุยฝานออกจากโรงแรมนานแล้ว
เขาเลือกร้านหม้อไฟที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม พ่อครัวกำลังตุ๋นน้ำซุปเดือดพล่านด้วยไฟแรงอยู่ตรงชั้นหนึ่งของที่นี่
เตาไฟตรงหน้าเขากำลังลุกโชนอยู่พอดี ทั้งร้านหม้อไฟกำลังอยู่ในภาวะที่ร้อนระอุอย่างหนึ่ง
ในที่ที่ร้อนระอุและมีไอหยางมากจะเป็นประโยชน์แก่การซ่อนตัว
เพียงแต่ตุ๊กตาจะรู้สึกทรมานเล็กน้อยเท่านั้น
มู่กุยฝานกินอาหารพลางจ้องโรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็พูดขึ้น “ไอหยางแค่นี้ สำหรับแกไม่นับเป็นอะไรหรอก เงียบหน่อย!”
ตุ๊กตา ...
นายมันสูงส่ง นายมันเก่ง นายกินหม้อไฟแต่ให้ฉันหลบอยู่ใต้โต๊ะ!
ทันใดนั้นมู่กุยฝานก็เห็นชายชุดดำคนหนึ่งเดินออกมาจากโรงแรม
เขาหรี่ดวงตา ล็อกเป้าคนผู้นี้ตั้งแต่แวบแรก
คนผู้นี้ไม่ต่างจากคนปกติคนอื่น ที่มู่กุยฝานมุ่งประเด็นมาที่เขาเพราะ...แค่อาศัยลางสังหรณ์เท่านั้น
ที่แท้พอผู้ชายคนนั้นล้มลง มู่กุยฝานก็ล็อกประตูออกจากห้องทันที
เขาติดต่อตำรวจในท้องที่ การจะใช้ฐานะของตัวเองปิดเรื่องนี้ให้เงียบมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร
แต่ผู้ชายคนนั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าวิญญาณไปถึงไหนต่อไหนแล้ว พอตุ๊กตากินผีที่สิงอยู่ในร่างเขาไป...ผิงเติ่งหวังจึงไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ
มู่กุยฝานมองผู้ชายคนนั้นออกจากโรงแรม เดินสบาย ๆ เหมือนกำลังชมวิวทิวทัศน์ และกำลังสัมผัสกับอะไรบางอย่าง
พอเห็นเขาหายไปจากหัวสะพาน มู่กุยฝานจึงล้วงโดรนลำเล็กมินิออกมา
“จับผีด้วยวิทยาศาสตร์” นักพรตมู่กล่าว “เวลาแบบนี้ ใช้แกไม่ได้เลย”
ตุ๊กตา ...
โดรนขนาดประมาณโทรศัพท์มือถือล้ำสมัยถึงที่สุด กลายสภาพจากที่พับอยู่เป็นโดรนได้ในหนึ่งวินาที จากนั้นก็ยืด ‘กรงเล็บ’ ออกมา ก่อนจะบินออกหน้าต่างไป
มันตามหลังชายชุดดำสบาย ๆ ส่งภาพกลับมาที่โทรศัพท์มือถือของมู่กุยฝาน
พอผิงเติ่งหวังออกจากโรงแรมแล้วก็พยายามสัมผัสกับรอบตัวโดยละเอียด
มีผีอยู่สองสามตนอยู่ตามข้างถนน หัวสะพาน แต่ไม่ใช่ผีที่เขาหามา
เขาเดินพลางสัมผัส เปลี่ยนผีเร่ร่อนทั้งหมดเป็นดวงตาและมือเท้าของตัวเอง
ถ้าผีขุนศึกถูกกำจัดไปจริง อีกฝ่ายจะต้องเก่งกาจมากแน่ ๆ และคนที่เก่งอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่นักพรต ก็ต้องเป็นผู้สูงส่งที่มีภูตผีวิญญาณร้ายเป็นสมุน
ผิงเติ่งหวังมั่นใจมาก ขอแค่เป็นผี เป็นนักพรต เขาจะต้องตามหาจนเจอได้แน่
แต่น่าเสียดาย เขาพันคำนวณหมื่นคำนวณ แต่คำนวณไม่ได้ว่านักพรตมู่ผู้จับผีด้วยวิทยาศาสตร์จะไม่ทำตามหลักการที่ควรทำ
‘นักบิน’ อันเป็นไพ่ไม้ตายกำลังบินอยู่บนฟ้าเหนือศีรษะของเขาห้าร้อยเมตร กำลังจับตามองทุกการกระทำของเขาอยู่...
-------------------------
มู่กุยฝานกินหม้อไฟอย่างผ่อนคลายพลางดูภาพติดตามในมือ
เปิดบอตได้ก็ดีอย่างนี้นี่แหละ เขาเห็นอีกฝ่ายเดินไปตามถนนทะลุตรอกกับตาตัวเอง มองออกว่าตัดสถานที่จำนวนหนึ่งออก
ด้วยความเร็วในการสอดส่อง เขาน่าจะตามหาทั่วทั้งอำเภอก่อนฟ้ามืด
ต้องพูดเลย มันหอมมาก!
ซู่เป่าก็ยกมือขึ้นด้วย “ลุงใหญ่ หนูก็อยากกินหม้อไฟค่ะ!”
ซูอีเฉินมอง “ร้านอาหารแมลงวัน” หม้อไฟร้านนี้...ไม่นับว่าสะอาดสักเท่าไร
ผู้ใหญ่กินไม่เป็นไร แต่ซู่เป่ายังเด็กนะ!
มู่กุยฝานไม่ใส่ใจเลย ดึงเก้าอี้ออกมา เอาตุ๊กตาที่อยู่บนเก้าอี้วางไว้ข้างหน้าต่าง จากนั้นก็ให้ซู่เป่านั่งลง
ในที่สุดก็มีอาหารรสเลิศซุกซ่อนอยู่ในถนนสักที ถึงสภาพแวดล้อมดูไม่เท่าไร แต่อาหารสดมาก
เขาเคยชิมหม้อไฟนี้แล้ว รสชาติไม่เลว ควรค่าแก่การลิ้มลอง นายหญิงซูอยู่อีกฟากฝั่งอันไกลโพ้น รีบฉวยโอกาสนี้ให้ซู่เป่าสัมผัสรสชาติของอำเภอเล็ก ๆ ดีกว่า
“อยากกินอะไรล่ะ” มู่กุยฝานหยิบเมนูอาหาร “เอากระเพาะวัวไหม ลิ้นวัวไหม เออ..สมองหมูเอาไหม”
ซู่เป่า (⊙⊙)
เหยาหลิงเยว่ (⊙⊙) เอา หมด!
ซูอีเฉินจนปัญญาจึงได้แต่นั่งลง ให้เถ้าแก่ตั้งหม้ออีกใบ
จากนั้นก็เลือกเห็ด ผักกาดหางหงส์ เนื้อวัว เนื้อแกะติดมันสดใหม่ด้วยตัวเอง จากนั้นก็ลวกเนื้อแกะให้ซู่เป่าพลางถาม “หาเจอหรือยัง”
มู่กุยฝานส่ายหน้า “พี่อวิ๋นเจามีฝีมือเหมือนกันนะ ซ่อนตัวซะมิดชิดเลย”
เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสองวันนี้รอบหนึ่ง
ซู่เป่าถามขึ้นพลัน “พ่อคะ ผิงเติ่งหวังจะย้อนกลับมาหาพวกเราไหมคะ”
มู่กุยฝานส่ายหน้า “ยังไม่ คนคนนี้พ่อมองปราดเดียวก็รู้ว่าเขาผยองมั่นใจตัวเอง เมื่อกี้เขาเพิ่งตรวจสอบว่าทางนี้ไม่มีคนที่เขาต้องการตามหา ดังนั้นเขาจะไม่กลับมาหรอก”
บางครั้งความมั่นใจก็เป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรงเหมือนกัน
มู่กุยฝานถามอีก “นายหญิงซูไม่เป็นไรใช่ไหม เธอยอมให้พวกพี่มาเหรอ”
ซูอีเฉินตอบ “พ้นขีดอันตรายแล้ว ซู่เป่าจะมาซะอย่าง แม่จะไปค้านอะไร”
เพราะนายหญิงซูรู้ทุกอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...