ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 565

ในร้านหม้อไฟ

ซูอีเฉินหยัดตัวตรง สีหน้าเฉยเมย

เขาถือเสื้อกล้ามตัวหนึ่ง ทีละเข็มทีละด้าย อ้อไม่ ยัดยันต์สีเหลืองลงไปในช่องกระเป๋าลับของเสื้อกล้ามทีละแผ่น ๆ เฉกเช่นคุณยายที่กำลังเย็บแผ่นรองเท้า

ตรงหน้าเขา น้องชาย น้องเขย หลานสาวตลอดจนภรรยา...กำลังกินกร้วม ๆ กันอย่างมีความสุข

แต่ละคนใบหน้าแดงฝาด พูดคุยสนุกสนาน แล้วพอย้อนมองเขาอีกที...‘เย็บ’ เสื้อกล้าม

ซูอีเฉินสะบัดเสื้อกล้ามทีหนึ่ง พูดด้วยสีหน้าเย็นชา “เอาไป”

ซูอวิ๋นเจาปราดมอง ทั้งที่เขาเห็นพี่ชายเชื่องช้าทำเป็นขั้นเป็นตอนแท้ ๆ แพล็บเดียวกลับยัดยันต์คุ้มภัยยันต์ ยันต์สวัสดิภาพกับเครื่องรางหนึ่งร้อยแผ่นลงไปเรียบร้อยแล้ว

ซู่เป่า “ว้าว ลุงใหญ่สุดยอดไปเลยค่ะ! ลุงใหญ่เก่งกว่าคุณยายที่เจ็บแผ่นรองเท้าในทีวีเสียอีก!”

ซูอีเฉิน “...”

ทีหลังลองใช้ให้เขาทำเรื่องพรรค์นี้อีกสิ เขาจะไม่ทำเด็ดขาด! ทิ้งน้องชายแท้ ๆ ไปซะ!

“กินอิ่มหรือยัง” ซูอีเฉินที่กำลังรอจ่ายเงินกอดอก พูดเสียงเย็น

ซู่เป่ากะพริบตา “ลุงใหญ่ขา พวกเรากินเยอะไปหรือเปล่าคะ ลุงใหญ่เสียดายเงินเหรอคะ”

ซูอีเฉินตอบฉับพลัน “ไม่เกี่ยวกับหนู ลุงใหญ่ดีใจที่ได้ใช้เงินกับหนู ยังจะกินอะไรอีกไหมจ๊ะ”

ซูอวิ๋นเจาและมู่กุยฝาน “...”

มู่กุยฝานดื่มเครื่องดื่มคำสุดท้าย แล้วจึงพยักหน้า “พวกเราไม่มีอะไรที่อยากกินแล้ว ซู่เป่าสั่งมาเยอะเกินไป จะเสียของไม่ได้”

ซูอวิ๋นเจาพยักหน้าตาม “พวกเราช่วยซู่เป่ากินต่างหาก”

มู่กุยฝาน “เถ้าแก่ คิดเงิน!”

ซูอวิ๋นเจาชี้ซูอีเฉิน “พี่ผมจ่ายครับ!”

ซูอีเฉิน “...”

ซู่เป่ามองพ่อ แล้วมองลุงใหญ่และลุงเจ็ด

ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกพ่อกับลุงเจ็ดใช้ประโยชน์สองนาทีนะ

ซูอวิ๋นเจาไปเข้าห้องน้ำ เขาใส่เสื้อกล้าม แล้วสวมเสื้อยืดทับอีกที จากนั้นก็คลุมด้วยเสื้อเชิ้ตตัวเดิม

พอใส่เสื้อกล้ามเพิ่มอีกตัว เขาก็รู้สึกหนัก ๆ

มันคือความรักจากหลานสาว

หลานสาวบ้านอื่นเก่งแบบนี้เหรอ

ไม่!

ชั่วขณะ ซูอวิ๋นเจารู้สึกว่าเนื้อตัวฉาบด้วยแสงสีทอง พกพาบอต ตอนนี้ต่อให้โยนเขาเข้าห่าฝนกระสุนระเบิด เขาก็ไม่กลัวแล้ว

ลุงเจ็ดเดินออกมาด้วยหัวใจที่อบอุ่น กางมือออกแล้วยิ้มกล่าว “ดูดีไหม”

ซูอีเฉินเหลือบมองแวบหนึ่ง นี่มันไม่ต่างอะไรกับตอนที่เข้าไปเลยนี่

เหยาหลิงเยว่มองบนล่างอย่างเปลืองกำลังเหมือนกัน เมื่อกี้ตอนที่เข้าไปเป็นยังไง ออกมาก็เป็นอย่างนั้น!

ซู่เป่าสองตาเปล่งประกาย “หล่อไปเลยค่ะ! แสงทองระยิบระยับ!”

นี่ก็คือไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งที่ท่านอาจารย์บอกล่ะมั้ง

มู่กุยฝานสำรวจตรวจตราอย่างละเอียด เห็นเขา ‘บึก’ ขึ้นมาอีกหน่อยจึงพยักหน้าพูด “เสื้อกล้ามที่คุณยายเย็บนี่ไม่เลวเลยนะ”

ก็ไม่รู้ว่า ‘คุณยาย’ ที่พูดถึงคือนายหญิงซูหรือว่าท่านประธานซูผู้ยิ่งใหญ่กันแน่

ซูอีเฉินหิ้วกระเป๋าเป้ใบน้อยของซู่เป่าแล้วพูดชืด ๆ “ไปกันได้แล้ว”

ซูอวิ๋นเจาฉายอารมณ์อาลัยอาวรณ์อยู่บนใบหน้าทันที พอออกจากห้องวีไอพีนี้ เขาก็ต้องกลับไปเป็นชายหนุ่มผู้ดูแลร้านกินขนมปังคนนั้นอีกแล้ว

ไม่รู้ว่าเมื่อไรภารกิจถึงจะสำเร็จ ได้กลับบ้านอยู่เป็นเพื่อนหลานสาวที่ไม่ได้พบหน้ามาห้าร้อยตอนของเขา

เบื้องบนบอกว่าพอภารกิจครั้งนี้สิ้นสุดจะให้เขาหยุดเจ็ดวัน...

ตอนนี้เอง ซูอวิ๋นเจารู้สึกว่าขากางเกงถูกกระตุก พอก้มหน้ามองก็เห็นซู่เป่ากวักมือเล็ก ๆ เรียกให้เขาโน้มตัวลงเข้าไปใกล้ ๆ

“ลุงเจ็ด ลุงพูดสักสี่คำสิคะ”

ซูอวิ๋นเจางงงวย “พูดอะไรเหรอ”

ซู่เป่า “อะไรก็ได้ เร็วสิคะ!”

ซูอวิ๋นเจาพูดไปแบบไม่คิด “พี่...เย็บเสื้อกล้าม”

ซูอีเฉิน “...”

ซู่เป่าพยักหน้า “คนที่ลุงเจ็ดอยากจะหาในรอบนี้มีทั้งหมดเจ็ดคน ลุงเจ็ดอย่าหาขาดนะคะ”

ซูอวิ๋นเจา “???”

คำนวณออกมาได้ยังไงเนี่ย

แต่...เจ็ดคนเหรอ

ข้อมูลที่พวกเขาได้มาทั้งหมดคือหกคนนี่!

คิดไม่ถึงว่ายังมีอีกคน

สีหน้าซูอวิ๋นเจากลายเป็นตึงเครียด

ผีหลายใจ “พี่ชาย ต้องการให้พวกเราทำอะไรเหรอ สามคนพร้อมกันก็ได้นะ”

ผีชุดแต่งงานแดง “พี่สาวหลายใจ ท่านระวังหน่อยสิ”

ผีน้าสาวขี้เหร่ “พูดอย่างนี้กับเด็กหนุ่มมันเหมาะสมแล้วเหรอ พี่ชายสุดหล่อ มองน้าสิ ถ้าไม่อยากพยายามก็บอกน้านะ”

ผีชุดแต่งงานแดง “...” ข้าอ้อมค้อมเกินไปหรือ

ซูอวิ๋นเจา “...”

เขาพาดตัวอยู่กับหน้าต่าง มองซู่เป่าที่จากไปตาปริบ ๆ

เห็นเธอขึ้นรถ จากนั้นก็โบกมือกับเขาจากในกระจกรถ

ถึงจะไม่ได้เอากระจกลง แต่ซูอวิ๋นเจาก็ยังเห็นได้อย่างแจ่มชัด แม่หนูน้อยยิ้มแป้นให้กับเขา

ซูอวิ๋นเจาห่อเหี่ยวใจพลัน ช่างเถอะ ยังไงก็เป็นของที่หลานสาวตัวน้อยให้มา หลานสาวคนอื่นให้ผีสามตนมาเป็นผู้ช่วยได้เหรอ

ไม่ได้!

ฉะนั้นเขาต้องรู้จักพึงพอใจ

ซูอวิ๋นเจารอจนเถ้าแก่ร้านหม้อไฟเก็บของบนโต๊ะไปหมดแล้ว ก็สั่งน้ำชามากาหนึ่ง นั่งต่ออีกครึ่งชั่วโมงแล้วจึงจากไป

บนรถ ซูอีเฉินขับรถอยู่ตรงที่นั่งคนขับ เหยาหลิงเยว่นั่งอยู่ข้างคนขับ

ส่วนมู่กุยฝานกับซู่เป่านั่งอยู่ข้างหลัง

ซูอีเฉินถาม “ซู่เป่า ทำไมถึงให้ผีสาวสามตนกับลุงเจ็ดของหนูล่ะ”

ซู่เป่าตอบ “ก็พ่อบอกว่าลุงเจ็ดเป็นเจ้าพนักงานลับสุดยอด ถ้าพวกเราช่วยลุงเจ็ดจะกลับเป็นเพิ่มความวุ่นวายให้ ก็เลยได้แต่ให้ผี คนอื่นมองไม่เห็น ส่วนลุงเจ็ดก็ไม่ต้องลำบากค่ะ”

พ่อบอกว่าภารกิจของลุงเจ็ดคือภารกิจของตัวเขาเอง ถ้าคนที่ไม่เกี่ยวข้องโผล่ออกมา ในตอนท้ายเขาต้องรายงานกับเบื้องบน ไม่แน่ว่ายังจะถูกตำหนิอย่างหนัก

พ่อก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษเหมือนกัน ดังนั้นจะโผล่อยู่ข้างตัวลุงเจ็ดบ้างก็ไม่เป็นไร แต่เธอไม่ได้

ซูอีเฉินถามต่อ “ลุงใหญ่ไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้ ลุงจำได้ว่าในน้ำเต้าวิญญาณของหนูมีผีผู้ชายนี่ ทำไมไม่ให้ผีผู้ชายกับลุงเจ็ดหนูล่ะ”

ซู่เป่าตอบด้วยความงุนงง “เพราะในทีวีบอกว่าชายหญิงเข้าคู่กัน ทำงานไม่เหนื่อย ซู่เป่าก็เลยให้น้าผีสามคนกับลุงเจ็ดค่ะ”

เธอไม่อยากให้ลุงเจ็ดเหน็ดเหนื่อยขนาดนั้นนี่นา จะได้ทำภารกิจให้เสร็จไว ๆ สบาย ๆ

ซูอีเฉินและมู่กุยฝาน “...”

หนูผิดอะไร หนูแค่ไม่อยากให้ลุงเจ็ดของหนูเหนื่อยก็เท่านั้น

หมายความตามที่พูด

เป็นพวกเขาผู้ใหญ่ที่คิดซับซ้อนกันไปเอง...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน