ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 652

จู่ๆ มู่กุยฝานก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา รู้สึกมีบางอย่างมุดมาระหว่างคิ้ว

“ซู่เป่า?” นักพรตมู่ถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ

ซู่เป่า “พ่อไม่ต้องกลัวไปนะคะ!”

เธอยื่นมือออกไปตบ

เพียะ!

ด้วยแรงมหาศาลตบจนมู่กุยฝานถอยหลังไปสองก้าว

“...”

เสื้อกล้ามที่ลมเข้าได้...ก็ยังเป็นเสื้อกล้ามของวูฟเวอรีน

ซู่เป่า “เรียบร้อยแล้วค่ะ ตีตายแล้ว”

มู่กุยฝาน “...”

เขาลูบหน้าผากแล้วถามขึ้นว่า “นี่มันผีอะไรเหรอ”

ผีตนนี้จับยากกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้

ซู่เป่าส่ายหน้า “เรื่องที่ไม่แน่ใจหนูจะไม่พูด!”

มู่กุยฝาน คำพูดที่คุ้นหูนี่บล็อกเกอร์ที่ชื่อพี่ปัวเมื่อกี้นั่นพูดเอาไว้ไม่ใช่เหรอ

ทุกคนต่างถูกการกระทำที่ทั้งตื่นตระหนกและทั้งตื่นเต้นทำให้ตกตะลึง ประจวบเหมาะกับทางตำรวจมาพอดี ทางตำรวจล้อมที่เกิดเหตุด้วยความเร็ว ให้กลุ่มคนที่มุงดูความสนุกออกไป

เหล่าเน็ตไอดอลที่ปักหมุดพวกนั้นต่างก็ถูกไล่ออกไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว พูดกระซิบขึ้นว่า “หัวหน้า!”

มู่กุยฝานพยักหน้าแล้วพูดว่า “ล้อมรัศมีหนึ่งร้อยเมตรรอบๆ นี้เอาไว้ให้หมด”

เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดขึ้นอย่างลำบากใจ “ก่อนหน้านี้เราตรวจสอบที่นี่อยู่นานมากแล้ว มันส่งผลกระทบต่อธุรกิจใกล้เคียง สองสามวันก่อนหน้านี้เพิ่งจะถอนกำลัง...”

มู่กุยฝานทำหน้าแบบไม่อนุญาตให้สงสัย “ตรวจสอบใหม่อีกครั้ง! ประตูของร้านกาแฟแห่งนี้มีไฟรั่ว พวกนายตรวจสอบพบอะไรหรือยัง”

เจ้าหน้านี้ตำรวจอึ้ง “ห๊ะ?”

พวกเขาเข้าๆ ออก เสาะหาเบาแสข้างในข้างนอกและโดยรอบร้านกาแฟ แต่ไม่ได้สนใจประตูที่เหยียบเข้าไปเป็นก้าวแรกเลยจริงๆ...

ทุกคนถูกอบรมยกหนึ่ง จากนั้นก็รีบไปตรวจสอบ

ตอนนี้ที่เกิดเหตุเหลือเพียงเถ้าแก่ของร้านกาแฟและบล็อกเกอร์ที่ชื่อพี่ปัวคนนั้น

ทั้งสองคนต่างตกตะลึง

ขณะนี้เองเถ้าแก่ของร้านกาแฟถึงได้รู้ว่าตัวตนของมู่กุยฝานไม่ธรรมดา เขาก็ว่าทำไมจู่ๆ ถึงมีแขกมาร้านกาแฟ ที่แท้ก็มาตรวจสอบนี่เอง

“ขอบคุณมากๆ นะครับ!” ขณะที่เถ้าแก่ร้านกาแฟถูกเชิญให้ออกไป เขาก็รีบพูดขอบคุณกับซู่เป่าและมู่กุยฝาน

ซู่เป่าโบกไม้โบกมือ

เธอเห็นคุณอามากมายวิ่งวุ่นไปทั่ว ตรวจสอบใหม่ทั้งข้างนอกและข้างใน

ตรวจสอบพบวงจรที่ไฟรั่ว เปิดพื้นแล้วตรวจสอบอย่างละเอียด

ซูเหอเวิ่นกระซิบถาม “น้องซู่เป่า ผีสาวตนนั้นถูกเผาไปแล้วเหรอ”

ซู่เป่าส่ายหน้า “ตอนนี้ยังหาไม่เจอ ไว้ค่อยมาใหม่ตอนกลางคืน”

ซูเหอเวิ่นโอดครวญ “กลางคืนอีกแล้วเหรอ!”

ซู่เป่า “อืม!”

ภูตผีปีศาจชอบออกมาตอนกลางคืนไง ไม่อย่างนั้นจะมีคำที่ว่า เดินทางตอนกลางคืนมักจะเจอผีเหรอ

และยังมีประโยคที่ว่ากลางวันห้ามพูดถึงคน กลางคืนห้ามพูดถึงผี การพูดจาให้ร้ายลับหลังคนอื่นกลางวันแสกๆ ก็ง่ายที่จะถูกคนได้ยิน กลางคืนชอบพูดถึงเป็นเรื่องลี้ลับเล่าเรื่องผี ก็ง่ายที่จะถูกผีจับจ้อง

มู่กุยฝานตะโกนบอกซู่เป่า “ไปกันเถอะ กลับบ้านกันก่อน”

ซูเหอเวิ่น หานหานกับซูจื่อซีรีบตามเข้าไป ซูเหอเวิ่นกอดกล้องเอาไว้ ร้อนอกร้อนใจเป็นอย่างมาก

“น้องซู่เป่า ผีตนนั้นจะไม่ตามเรากลับบ้านใช่ไหม...”

“น้องซู่เป่า เมื่อกี้ผีตนนั้นเกาะอยู่หน้ากล้องฉัน เธอจับจ้องฉันแล้วใช่ไหม”

“น้องซู่เป่า เธอยังมียันต์เหลือไหม...”

ซูเหอเวิ่นรีบกุมสร้อยข้อมือป้องกันภัยบนข้อมือของตัวเองเอาไว้

ซู่เป่าพูดปลอบว่า “แบบนั้นก็ดีสิ! ถ้าเธอตามพี่มา เราจะได้ไม่ต้องมาอีกรอบ พี่ควรดีใจสิ”

ซูเหอเวิ่น “...” ดีใจไม่ไหว ขอตัวลา!

มู่กุยฝาน “...”

“อาจารย์ของหนูเชื่อถือไม่ได้เลยจริงๆ ทุกครั้งตอนที่ต้องการเขา เขาก็ไปประชุมตลอด”

ซู่เป่า “ใช่แล้วค่ะ เพราะโลกใต้พิภพไม่มีอาซือเย่ไปช่วยเขาประชุมไงคะ!”

มู่กุยฝาน “อืม...”

ถูกลูกสาวของตัวเองบอกเป็นนัยเป็นความรู้สึกยังไง

การแสดงออกของซู่เป่า เธอหมายความตามตัวอักษรจริงๆ นะ!

ตอนที่มู่กุยฝานพาเหล่าเจ้าตัวเล็กกลับถึงบ้าน นายหญิงซูก็รออยู่หลายชั่วโมงแล้ว

“ไปทวงหนี้นานขนาดนั้นเลยเหรอ” นายหญิงซูสงสัย

ซู่เป่าวิ่งเข้าไปคนแรก “คุณยายคะหนูหิวแล้ว!”

ประโยคนี้ฆ่าเรียบ

นายหญิงซูรีบพูดขึ้นว่า “รีบไปล้างมือแล้วมากินข้าวสิ! จริงๆ เลย กี่โมงกี่ยามแล้ว บ่ายสองแล้วไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่อง หนูเพิ่งจะอายุเท่าไรเองก็รู้จักทำตัวไม่ดีแล้ว...”

มู่กุยฝานลูบคาง เขารีบล้างมือแล้วคว้าน่องไก่ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง

กินไปได้ครึ่งหนึ่ง มู่กุยฝานก็พูดขึ้นอย่างคิดละเอียดถี่ถ้วนแล้ว“คุณแม่ครับ ตอนค่ำผมจะพาซู่เป่าออกไปเดินย่อยอาหารนะครับ”

นายหญิงซูหน้าบึ้ง “ทำไมต้องออกไปเดินเล่นตอนกลางคืนด้วย”

ซู่เป่าพูดแทรก “หนูรู้ค่ะ เพราะตอนกลางคืนดี เย็นสบาย โอ๊ะ!”

ซูเหอเวิ่นหดคอ เย็นสบายจริงๆ ถึงขั้นเย็นวูบวาบน่าสะพรึงกลัว

นายหญิงซูเงียบไปในทันใด และแอบถอนหายใจอย่างเงียบๆ

ซู่เป่าของพวกเขา ถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่าต้องแตกต่างจากเด็กคนอื่น

นายหญิงซูบ่นขึ้นว่า “ไปเดินเล่นก็ไปเดินเล่น รีบกลับมาให้มันเร็วๆ หน่อย เด็กบ้านอื่นเข้านอนกันตั้งแต่สามทุ่ม รู้ไหมว่าทำไม เพราะสารปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตจะมีมากที่สุดตอนห้าทุ่มถึงตีสอง...ทั้งคืน ล้วนเป็นช่วงที่สารปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตจะหลั่งได้เร็วที่สุด...นอนสามทุ่ม แล้วได้นอนหลับสนิทตอนห้าทุ่ม จะเป็นประโยชน์กับการเติบโต...บลาๆๆ”

มู่กุยฝานกับซู่เป่าแคะหูพร้อมกัน สองคนพ่อลูกพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ค่ะๆๆ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน