เซียนเซียนไม่รู้ว่าตัวเองถูกเฉินซู่สะกดรอยตาม เธอนัดเพื่อนเอาไว้...
--------------------
วันหยุดฤดูร้อนที่แสนมีความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ
พรุ่งนี้ก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว หานหานร้องไห้ไปพลางร้องอ๊าๆๆๆ ไปด้วย “ปากกาด้ามหนึ่ง...คืนหนึ่ง...ฉันจะสร้างปาฏิหาริย์!”
ซู่เป่าพับผ้าด้วยตัวเองอยู่ในห้อง
นายหญิงซูช่วยจัดเก็บไปพลางบ่นพึมพำกับตัวเองไป “เฮ้อ แป๊บๆ วันหยุดฤดูร้อนก็ผ่านไปแล้ว รู้สึกยังไม่ได้ทำอะไรเท่าไรเลย...”
ซู่เป่ายุ่งกว่าซูอีเฉินเสียอีก แต่ละวันถ้าไม่เห็นเงาเลย ก็กลับมาเที่ยงคืนดึกดื่น
เจ้าเด็กน้อยที่เพิ่งจะอายุแค่ห้าขวบ นี่สมเหตุสมผลเหรอ!
แต่ก็ยังดี เมื่อไปเข้าเรียนแล้วก็จะไปไหนมาไหนตามใจชอบไม่ได้ ใครพาซู่เป่าไปไหนต่อไหนอีกเธอก็จะตีขาเขาให้หักซะ...
ขณะที่ทั้งหมดสงบลง จู่ๆ ซู่เป่าที่เตรียมจะนอนก็พลิกตัวลุกขึ้นมา
เธอมองซ้ายมองขวา...ท่านอาจารย์ไม่อยู่ ตอนนี้แหละ!
ซู่เป่ารีบหยิบพู่กันชี้ชะตาออกมา เมื่อมือน้อยๆ วาด ตรงหน้าก็ปรากฏราวกับจุดเริ่มต้นของจักรวาล ว้าวุ่นไปหมด
สามพันโลกราวกับดาวดวงเล็กๆ รวมกันเป็นธารดาวอันกว้างขวาง
ข้างหูซู่เป่าพลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“เด็กดีซู่เป่า! ฉันมาให้คำตอบเธอ! นักพรตซานชิงอยู่ในอารามแห่งหนึ่งบนสันเขาทางตะวันตกของเขาต้าหม่างแถวชานเมือง! โอเวอร์! โอเวอร์!”
ดวงตาทั้งสองของซู่เป่าเปล่งประกาย!
ว้าว เธอทำสำเร็จแล้ว!
ซู่เป่าดีใจจนรีบกลับมา ‘ตอบข้อความ’ “รับทราบ! ขอบคุณพี่สาวถังซินปิ๋งปิ่ง โอเวอร์! โอเวอร์!”
เมื่อจี้ฉางเข้ามาก็เห็นเธอกำลังพูดว่าโอเวอร์
ในมือถือพู่กันชี้ชะตา วาดไปมั่วซั่ว บรรยากาศโดยรอบมีลมหมุนอย่างบ้าคลั่งจนน่ากลัว เธอราวกับนั่งอยู่ท่ามกลางธารดาวในกาแลกซี และราวกับจะถูกทั้งฟ้าดินดูดเข้าไป...
ถ้าจัดการไม่ดี...ชั่ววูบเดียวก็เป็นสวรรค์หรือนรกได้!
“ซู่เป่า!” ท่านอาจารย์โกรธเป็นอย่างมาก “เจ้าเอาพู่กันชี้ชะตามาให้ข้าเดี๋ยวนี้! ยังมาโอเวอร์ๆ อยู่อีก เจ้าไม่กลัวว่าตัวเองจะโอเว่อร์ (*จบเห่) บ้างหรือ”
ซู่เป่าคิดจะเก็บพู่กันชี้ชะตาแต่ก็ไม่ทันแล้ว
เจ้าตัวเล็กนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง สองมือคว้าพู่กันชี้ชะตามาซ่อนไว้ข้างหลัง แล้วส่ายหน้าอย่างแรง
จี้ฉางโกรธจะแย่อยู่แล้วจริงๆ
เขาเองก็รู้จักพู่กันชี้ชะตาดี แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าสามารถมองเห็นนอกสามภพหกวิถีได้
มีคน ‘มองเห็น’ เธอได้ เธอไม่กลัวเลยเหรอ
ไม่กลัวว่าคนอื่นเขาจะฉวยโอกาสโจมตีเธอจนตายระหว่างธารดาวเลย
คมในฝัก ราวกับอาวุธวิเศษ พู่กันชี้ชะตาของเธอทำลายครรลองสวรรค์ กลัวเพียงคนอื่นจะจ้อง
“เอามา!” จี้ฉางหน้าคล้ำดำเขียว “ก่อนเจ้าจะอายุสิบแปด อาจารย์จะเป็นคนเก็บรักษาพู่กันชี้ชะตาเอาไว้เอง”
ซู่เป่าเงยหน้าเล็กๆ ขึ้น แล้วพูดขึ้นอย่างดื้อรั้น “หนูไม่ให้!”
“ท่านอาจารย์ หนูรู้แล้วว่านักพรตซานชิงนั่นอยู่ที่ไหน...”
สีหน้าของจี้ฉางยิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่ “นี่เจ้าสอดแนมดูอนาคตของตัวเองงั้นหรือ พฤติกรรมโกงเช่นนี้ หากมีผลข้างเคียงอะไรย้อนกลับมาทำร้าย เจ้าจะทำเช่นไร”
เจ้าเด็กน้อยดื้อดึงเป็นอย่างมาก นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงทั้งอย่างนี้ มือน้อยๆ ยังคงพ่ายหลัง เอียงใบหน้าน้อยๆ พลางเถียงอย่างไม่ยอม “จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ จะไม่มีผลข้างเคียงเลยแม้แต่น้อย”
จี้ฉางขมวดคิ้ว พูดขึ้นอย่างเสียงแข็ง “เอาพู่กันชี้ชะตามาให้อาจารย์เดี๋ยวนี้”
ซู่เป่า “ไม่ให้!”
ผู้ใหญ่หนึ่งคนกับเด็กหนึ่งคนจ้องกันไปมา จี้ฉางโกรธจนเจ็บใจ
ถ้ายังมีชีวิตอยู่ เดาว่าต้องโกรธเธอจนตายแน่ๆ
ความรู้สึกแบบนี้ราวกับคุณแม่ที่เจอกับลูกสาวเริ่มเข้าสู่วัยต่อต้าน โกรธจนอยากขึ้นสวรรค์ในเสี้ยววินาที
ศิษย์ตัวน้อยโตแล้ว เริ่มเถียงเป็นแล้วใช่ไหม!
เพียงแต่ขณะฝันรู้สึกกระวนกระวายใจ...
มู่กุยฝานพาซู่เป่ามาถึงอารามเขาต้าหม่างก็เป็นเวลาห้าทุ่มถึงตีหนึ่งแล้ว
รอบๆ เงียบสงัดจนน่าประหลาดใจเล็กน้อย อารามแห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดสลัวในเขาลึก ราวกับบ้านเก่าร้างในหนังผี
“ที่นี่เหรอ” มู่กุยฝานจ้องอาราม
ซู่เป่าพยักหน้า “ที่นี่แหละค่ะ พี่สาวถังซินบอกว่าอารามที่อยู่บนสันเขาต้าหม่างทางชานเมืองแถบตะวันตก...”
มู่กุยฝานแอบพูดในใจ งั้นก็ถูกต้องแล้ว
แต่อารามแห่งนี้ให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีอย่างหนึ่งแก่เขา
มู่กุยฝานพลันถามขึ้นว่า “จริงสิซู่เป่า ถ้าจัดการเก็บผีมั่งคั่งแล้ว เขาจะพาพวกเราไปหานักพรตซานชิงนั่นไหม”
ซู่เป่าส่ายหน้า “ไม่ค่ะ”
มู่กุยฝานพยักหน้า ไม่ได้ถามว่าเพราะอะไร มีเพียงพูดขึ้นว่า “อารามแห่งนี้มีอะไรผิดปกติเหรอ”
ซู่เป่าเกาะอยู่บนไหล่ของพ่อ พร้อมทั้งหยิบกล้องส่องทางไกลสำหรับมองกลางคืนความละเอียดสูงของพ่อมาสำรวจอาราม
เศษผ้าตรงประตูพลิ้วไหวไปตามลม ไม่เห็นสิ่งอื่น...
“น่าจะไม่มีใครอยู่มั้ง”
ซู่เป่าลองสัมผัสดูดีๆ “ไม่รู้สึกถึงไอหยิน ไอพิฆาตอันแรงกล้าประเภทนี้เลย กลับกันกลับรู้สึกถึงแสงทองระยิบระยับอยู่เล็กน้อย”
มู่กุยฝาน “?”
แสงทองระยิบระยับมันเป็นความรู้สึกยังไง
สองพ่อลูกค่อยๆ เข้าไปใกล้ๆ ทีละน้อย ลมพัดจนวัชพืชไหวเอน เกิดเสียงซู่ๆ ขึ้นมา
ขณะที่พวกเขาเดินไป ในพุ่มไม้สูงครึ่งตัวคน...‘ศพ’ ก็ปรากฏขึ้นมาทีละศพๆ เงียบๆ
นับเป็นผี แต่ก็ไม่ได้ตระหนักรู้ในตนเองอย่างผี แต่ละศพเหมือนกับผีดิบที่ถูกควบคุมมากกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...