ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 726

ซู่เป่าคว้าพู่กันชี้ชะตาไปพลางออกแรงดึงถอยหลังไปด้วย!

ในขณะนี้เองเธอถึงเข้าใจที่ท่านอาจารย์บอกว่าเธอเอาพู่กันชี้ชะตาไม่อยู่อย่างถ่องแท้

ที่แท้ก็หมายความว่าอย่างนี้นี่เอง

พู่กันชี้ชะตาเป็นของเธอ แต่พละกำลังของเธออ่อนแอเกินไป หากทำให้คนมีจิตใจละโมบเห็นเข้า และถ้าคนคนนี้เองก็มีความสามารถจริงๆ...

เช่นนั้นพู่กันชี้ชะตาก็อาจถูกแย่งไปได้

ทว่า...

ไม่นึกเลยว่าจะมีคนกล้าแย่งของที่อยู่ในมือพญายม

ซู่เป่าโกรธเป็นอย่างมาก ของของเธอใครก็อย่าคิดจะแย่งไปเชียว!

ซู่เป่ายกมือขึ้นหนีบพู่กันชี้ชะตาเอาไว้กลางอากาศ นัยน์ตาทั้งสองเผยความเดือดดาลออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ตะหวาดขึ้นว่า “สะกด!”

แสงทองทั้งหมดพลันถูกสะกดเอาไว้ ซู่เป่าเหยียบกระถางธูปเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว แล้วยื่นมือไปคว้าพู่กันชี้ชะตา...

แขนเธอยาวไม่พอ พู่กันชี้ชะตาแทบจะถูกดูดเข้าไปในกระถางธูป ซู่เป่าห้อยโตงเตงอยู่บนกระถางธูปทั้งอย่างนี้ พยายามคว้าพู่กันชี้ชะตาเอาไว้อย่างสุดชีวิต

“พู่กันเชื่อฟังนะ รีบกลับมา...” ซู่เป่าลำบากยากเข็ญเป็นอย่างมาก ขณะนี้เองก็รับรู้ได้ว่าพ่อมาแล้ว เธอจึงเหยียบบนศีรษะของพ่อทำเป็นที่รองฝ่าเท้าโดยไม่พูดพล่าม...

ในที่สุดก็คว้าพู่กันชี้ชะตามาไว้ในมือได้จริงๆ!

ตกมาอยู่ในมือเธอแล้ว ใครก็อย่าคิดจะแย่งไป

มู่กุยฝานพูดขึ้นว่า “ซู่เป่า รีบลงมาเร็วเข้า!”

เขาสัมผัสได้ว่ากระถางธูปใบนี้ไม่ชอบมาพากล

ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลแบบนี้ ราวกับเขากำลังปลดชนวนระเบิดเวลาในฐานที่มั่นของศัตรู มีโอกาสระเบิดได้ตลอดเวลา

ซู่เป่าพูดขึ้นว่า “โอเคค่ะ หนูได้พู่กันของหนูมาแล้ว...”

แต่ทว่าในเวลานี้ แสงทองที่ถูกสะกดเอาไว้ก็พลันโชติช่วงขึ้นมา ราวกับจะระเบิดอย่างแรงจริงๆ อย่างนั้น

มีเสียงตู้มออกมาจากกระถางธูป แสงทองคละคลุ้งไปด้วยซากกระถางธูป กระเด็นไปทางซู่เป่าอย่างแรง

สีหน้าของซู่เป่าเปลี่ยน จบแล้วๆ!

เธอยกมือขึ้นมาปิดตาตามสัญชาตญาณ วินาทีต่อมา เงาร่างสีขาวลำแสงหนึ่งก็วาบเข้ามา จี้ฉางรับซู่เป่าเอาไว้ในอ้อมแขน เท้าเหยียบบนไหล่ของมู่กุยฝานอาศัยเขาถีบส่งตัวเองให้ลอยออกไป

ตึงๆ!

มู่กุยฝานล้มไปอีกทาง กระถางธูปที่ระเบิดทำถังน้ำที่อยู่ตรงมุมแตก

จี้ฉางกอดซู่เป่าไว้แน่น เขาโบกแขนเสื้อ ชุดผาวกว้างขวางแสงทองที่ส่องเข้ามาเข้าไว้

นัยน์ตาของเขาเดือดดาล ผมดำขลับราวกับถูกลมพัดไหวขึ้นมา ในที่สุดแสงทองก็หายวับไป แต่ชุดผาวของเขาก็ขาดรุ่งริ่งเช่นกัน โดยเฉพาะแขนเสื้อ ราวกับขอทาน

ซู่เป่าที่หลับตาปี๋หรี่ตาขึ้นมาดู พบว่าตัวเองไม่เป็นอะไร จึงทำเสียงเอ๊ะขึ้นมาเสียงหนึ่ง “ไม่เป็นไร?”

จี้ฉาง “...” แต่ข้าเป็น!

เขาจ้องซู่เป่าอย่างเดือดดาลพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เคยบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ ว่าอย่าหยิบพู่กันชี้ชะตาออกมามั่วซั่ว”

ซู่เป่าเม้มปาก ใบหน้าน้อยๆ ซีดเผือด กระซิบพูดขึ้นว่า “ท่านอาจารย์ หนูไม่ได้หยิบออกมา...”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรพู่กันชี้ชะตาถึงออกมาเอง

จี้ฉางโกรธเป็นอย่างมาก เขาพูดขึ้นตำหนิว่า “หากอาจารย์มาช้าไปสองสามวินาที ตอนนี้เจ้าก็คงถูกระเบิดจนบาดเจ็บหนักแล้ว เหตุใดจึงไม่เชื่อฟัง”

“ช่วงนี้นับวันเจ้าก็ยิ่งเก่งกาจขึ้น จับผีร้ายได้ สู้ผีขุนศึกกับพญาผีได้ เพราะงั้นก็เลยคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้วใช่หรือไม่”

ซู่เป่าก้มศีรษะน้อยๆ ไม่พูดไม่จา

จี้ฉางพูดขึ้นอีกว่า “มีหยินก็ต้องมีหยาง บนโลกใบนี้นอกจากวิญญาณแล้ว ก็ยังมีไอพิฆาตหยาง เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน หยินย่อมถูกหยางควบคุมได้ง่ายอยู่แล้ว...”

บนท้ายทอยของหุ่นฟางมียันต์แผ่นหนึ่งแปะอยู่ ขณะนี้เองยันต์ก็เกิดไฟลุกขึ้นมาเสียงดังซู่ทีหนึ่ง ตัวหุ่นฟางก็ถูกเผาไปด้วยเช่นกัน

มู่กุยฝานถอยหลังอย่างรวดเร็ว

จี้ฉางมองด้วยสายตาเย็นชาพลางพูดด้วยเสียงต่ำ “ช่างมีความสามารถจริงๆ จุดกระดาษให้เป็นคน”

ซู่เป่าถามขึ้นว่า “นี่คือตัวแทนของนักพรตซานชิงเหรอคะ”

จี้ฉางพยักหน้า “เป็นร่างตัวแทน ตัวเขาจริงๆ น่าจะอยู่ในรัศมีสองสามกิโลเมตรนี้แหละ แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว”

จี้ฉางพูดถูก

ขณะที่ซู่เป่าสะกดแสงทอง นัยน์ตาของนักพรตซานชิงที่อยู่ไกลออกไปสองสามกิโลเมตรก็หดตัวลง พบว่าตัวเองเคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว

หากเป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องถูกพบในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงแน่

นักพรตซานชิงเดือดดาล กระถางธูปทำลายตัวเองแทบจะไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย ระเบิดพลังศรัทธาที่เขารวบรวมเอาไว้อย่างยากลำบาก จึงจะหลุดพ้นพันธนาการได้!

เขาพลันกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง เขาเองก็บาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน เขารีบปักธูปหนึ่งดอกลงบนพื้น แล้วลุกหนีออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง

ตอนที่จี้ฉาง ซู่เป่าและมู่กุยฝานหาถ้ำนี้เจอ ก็เห็นเพียงธูปก้านหนึ่งปักอยู่หน้าถ้ำ ใกล้จะเผาจนหมดดอกแล้ว

“เขาหนีไปแล้ว!” ซู่เป่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก จะเตรียมทำนายทิศทางในทันที ทว่ากลับถูกจี้ฉางขวางเอาไว้

“ยังทำตัวเองเจ็บไม่พออีกหรือ” เขาพูดขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชา

ซู่เป่ากัดนิ้ว “ท่านอาจารย์...”

จี้ฉางสะบัดแขนเสื้อ แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เลิกเรียกข้าว่าอาจารย์ได้แล้ว เจ้าเก่งกาจขนาดนี้ เป็นอาจารย์ได้เองแล้วกระมัง”

เขาแค่นเสียงฮึทีหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป

ซู่เป่าเบะปาก น้อยใจจนน้ำตาไหลพรูออกมา...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน