ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 732

สีหน้าของเซียนเซียนแข็งทื่อ!

คราวก่อนเธออารมณ์ไม่ดี จึงออกจากบ้านมากินข้าวกับเพื่อน

สุดท้ายเฉินซู่ก็ปรากฏตัวขึ้น

ในบรรดาเพื่อนมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งพอดี เป็นแฟนของเพื่อนอีกคนของเธอ

แต่เฉินซู่ก็ยังมองเธออย่างเย็นชา เขาพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ย “เลิกกับผมไปแล้วคุณก็ใช้ชีวิตอย่างดีจริงๆ นะ มีผู้ชายใหม่เร็วขนาดนี้เลยเหรอ”

เขายังมองประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้าผู้ชายคนนั้นอีกด้วย ทำให้เธออิหลักอิเหลื่อเป็นอย่างมาก

เซียนเซียนรู้สึกผิดต่อเพื่อนเป็นอย่างมาก ทำได้เพียงกลับบ้าน สุดท้ายเพิ่งออกมาจากลิฟต์ก็เห็นเฉินซู่ยืนอยู่ในทางเดิน จ้องเธอเขม็ง

เขากดเธอไว้บนผนัง บีบคอเธออย่างแรง ด่าว่าเธอหน้าไม่อาย

ขณะที่เธอเกือบถูกบีบคอตาย จู่ๆ เขาก็ปล่อยเธอ ยกสองมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วพูดขอโทษ “ขอโทษนะ...เป็นผมที่บุ่มบ่ามเกินไป ยังไม่ยอมปล่อยคุณไป”

พูดจบเขาก็เดินจากไป

หลังจากวันนั้น เซียนเซียนก็ยังเจ็บปวดกับเฉินซู่อยู่ แต่ทั้งๆ ที่เธอเจ็บปวดใจ เธอก็คิดถึงเขาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว นึกย้อนไปถึงคำที่ว่าเขาปล่อยเธอไปไม่ได้คำนั้น

ยามค่ำคืนเงียบสงัดเธอมักมีอาการอกจะแตกทุกครั้ง เอาแต่คิดว่าไม่ควรเลิกกับเฉินซู่...

เฉินซู่พบว่าเซียนเซียนเห็นเขาแล้ว เขาก็ไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป มองโต๊ะทางซู่เป่าอย่างหวาดผวาทีหนึ่ง จากนั้นก็เลือกนั่งตรงข้ามเซียนเซียน

เซียนเซียนเนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อย

เฉินซู่พูดขึ้นอย่างอ่อนโอน “บังเอิญจัง ไม่เจอกันนานเลยนะ คุณไม่ต้องกลัวผมแล้ว คราวก่อนผมบุ่มบ่ามไป กลับไปผมเองก็นึกเสียใจเหมือนกัน”

เซียนเซียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

เฉินซู่ชะงักไป แล้วพูดขึ้นอย่างเจ็บปวด “นึกถึงเมื่อก่อนตอนที่มากินอาหารเช้ากับคุณที่นี่ ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ก็นึกขึ้นมาน่ะ”

“กลัวว่าเจอคุณแล้วจะทำให้คุณตกใจ เพราะงั้นก็เลยใส่หมวก แต่ก็ไม่นึกว่ายังทำให้คุณตกใจอยู่ดี”

เฉินซู่มองเซียนเซียน นัยน์ตาเรียกได้ว่าอ่อนโยนสุดขีด “ขอโทษนะ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

พูดจบเขาก็รีบดื่มน้ำเต้าหู้ให้หมด หยิบแป้งทอดไส้แกะสองชิ้นแล้วเตรียมจะไป

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ ขณะที่เขากำลังหมุนตัวก็ได้ยินเซียนเซียนพูดขึ้นว่า “คุณ...คุณไม่ต้องไปหรอกค่ะ...”

มุมปากเฉินซู่เผยรอยยิ้มเล็กๆ รอยยิ้มหนึ่ง นัยน์ตาลึกซึ้งสุดจะบรรยาย เช้าตรู่ ดูแล้วน่าขนลุกขนพองเล็กน้อย...

ซู่เป่ากินไปด้วยมองเฉินซู่ไปด้วย

รู้สึกเพียงว่าผู้ชายที่มาแย่งที่ตรงนี้พิลึกกึกกือสุดๆ ทำไมต้องแอบมองพี่สาวคนนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ชอบมาพากลสุดๆ แต่ก็ยังอ่อนโยนกับพี่สาวคนนั้นถึงขนาดนั้น

เซียนเซียนนอนไม่ค่อยหลับ ทั้งอกจะแตกและเศร้าซึมเป็นอย่างมาก เธอพูดขึ้นว่า “เฉินซู่...เรามาคุยกันเถอะ!”

เฉินซู่หมุนตัวไปมองเธอ ลูบศีรษะเธออย่างจนใจ แล้วพูดขึ้นว่า “โอเค”

ทั้งสองคนออกไปแล้ว

ซู่เป่าอยากตามไป มู่กุยฝานเห็นเธอเองก็กินอิ่มแล้ว จึงคว้าตัวเธอขึ้นมา แล้วพูดโน้มน้าวว่า “เด็กดี ตอนนี้หนูยังต้องไปเรียนนะ หนูควรไปโรงเรียนอนุบาลได้แล้ว เชื่อไหมว่าตอนนี้คุณยายของหนูต้องยืนรออยู่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลแล้วแน่ๆ”

เวลาของโรงเรียนอนุบาลค่อนข้างอิสระ หากตัวเองกินข้าวเช้าอยู่ที่บ้านละก็ มาถึงโรงเรียนก่อนเก้าโมงครึ่งก็พอ

ถ้าไม่ทันจริงๆ อันที่จริงสายอีกหน่อยก็ไม่มีใครว่าอะไร

ซู่เป่าถอนหายใจ “โอเคค่ะ!”

ซู่เป่าต้องเป็นเด็กดี ซู่เป่าต้องเชื่อฟัง

แต่จะไม่จับผีก็ไม่ได้อีก

ฉะนั้นเธอจึงมองไปที่ผีคลั่งรัก “ขอร้องลุงละนะคะ!”

ผีคลั่งรัก “หืม...?”

วางใจให้เขาออกไปขนาดนี้เลยเหรอ??

มู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าขึ้นมา เมื่อถึงโรงเรียนอนุบาลก็เห็นนายหญิงซูกำลังรออยู่จริงๆ เมื่อเห็นซู่เป่าปลอดภัยดีเธอถึงวางใจ

เธอรู้ดีพวกเด็กดื้อด้านเหล่านี้เพื่อไม่ให้เธอเป็นกังวล ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่มีวันบอกเธอหรอก

ตอนเช้าถ้าเธอฟังไม่ผิดละก็ เสียงติ๊ดๆๆ น่าจะเป็นเสียงเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เธอคิดว่าพวกเขายังอยู่ที่โรงพยาบาลกันซะอีก

“เมื่อคืนใครเป็นคนพาซู่เป่าออกมา” นายหญิงซูหรี่ตา

เด็กต้องเข้าเรียน ก็ยังยอมให้เธอออกจากบ้านตอนดึกดื่นเที่ยงคืน

เฉินซู่คุ้นเคยกว่าเธอเสียอีก ราวกับเป็นบ้านของตัวเองอย่างนั้น ตั้งแต่หยิบกุญแจออกมาจากใต้ชั้นวางรองเท้าหน้าประตู เมื่อเปิดประตูก็พูดว่า “เข้ามาสิ!”

เซียนเซียนตามเข้าไปโดยไม่พูดพล่าม

แม่สื่อผีอยู่บนศีรษะของเธอ พูดโน้มน้าวไม่หยุด “ไปสิ รีบไปสิ!”

“ยากนะที่เขาจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับการโมโหของเธอ แถมยังกลับมากับเธออีก อย่าพลาดโอกาสล่ะ”

“ครั้งนี้เธอเป็นคนผิด ไม่ว่าเธอจะมีนิสัยขี้โมโหขี้งอนขนาดไหน แฟนที่ดีขนาดนี้ ยังหน้าตื่นวิ่งไปหาข้างนอกอยู่อีก”

เซียนเซียนเงยหน้ามองเฉินซู่

เฉินซู่ขมวดคิ้ว “ทำไมบ้านถึงได้รกขนาดนั้นล่ะ”

“ตอนที่ผมไม่อยู่ คุณก็ไม่รู้จักดูแลตัวเองดีๆ เอาแต่สั่งดิลิเวอรีใช่ไหม”

เขาใส่ผ้ากันเปื้อน เริ่มเก็บกวาด เก็บกวาดไปพลางพูดขึ้นว่า “ไม่สิผมว่าคุณ คุณเป็นแบบนี้ แยกทางกับผมจะอยู่ได้ยังไง ไม่มีใครดูแลคุณ ก็ไม่รู้จักทะนุถนอมตัวเองเลย!”

“ต่อไปเลิกกินดิลิเวอรีได้แล้ว เดี๋ยวผมไปซื้อผักมาทำอาหารให้คุณสักสองสามวัน ใส่ไว้ในตู้เย็น...ถ้าคุณหิวเอามาอุ่นก็กินได้แล้ว”

ท้ายที่สุดเซียนเซียนก็ไม่สามารถทนต่อมนต์สะกดของแม่สื่อผีได้ เธอเดินเข้าไปกอดเฉินซู่จากด้านหลังอย่างแรง ร้องไห้พลางพูดขึ้นว่า “เฉินซู่...ฉัน...ขอโทษ!”

นัยน์ตาของเฉินซู่ประกายรังสีแสงแห่งชัยชนะออกมาเล็กน้อย เขาพูดขึ้นอย่างใจกว้างสุดๆ “ไม่เป็นไร...เอ๊ะ...คุณก็เป็นซะแบบนี้ จะดื้อเอาให้ได้”

“ไม่มีผมคอยดูแลคุณ คุณจะใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง คุณอารมณ์ร้อนไม่ดี แล้วก็ชอบใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย แถมยังแพลนชีวิตของตัวเองไม่เป็น ไม่รู้จักเก็บกวาดบ้าน นอกจากผมแล้วใครจะยังกล้าเอาคุณอีก ห๊ะ”

ในอาณาเขตอันอ่อนโยนของเขา อันที่จริงเวลาแบบนี้ก็ยังไม่ลืมแทรกพียูเออย่างเงียบๆ ไปด้วย (*เป็นศาสตร์ทางจิตวิทยาโดยกดอีกฝ่ายให้ต่ำแล้วอ้างคุณค่าของตัวเองในการช่วยเหลือ)

แก่นแท้ของพียูเอ ก็คือโจมตีอีกฝ่ายจนไม่มีอะไรดีสักอย่าง จากนั้นโผล่ออกมาแบบผู้กอบกู้โลก แล้วคว้าหัวใจของอีกฝ่าย

บนตัวเซียนเซียนมีผีร่ายมนต์คาถาอยู่ ตรงหน้ามีเฉินซู่กำลังพียูเอ และความอกจะแตกไม่ได้นอนหลับดีๆ มาหลายวัน เธอร้องไห้พลางพูดขึ้นว่า “งั้นคุณยังรักฉันอยู่ไหม”

ผีคลั่งรักอีกด้าน “??”

ไม่นึกว่าเฉินซู่จะยังพูดอีกว่า “ยัยโง่...ผมไม่รักคุณแล้วใครจะรักคุณ”

ผีคลั่งรัก “???”

ยุคสมัยต่างกัน ความรู้สึกมันราคาต่ำขนาดนี้เลยเหรอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน