ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 815

ซูเหอเวิ่นโมโหจนจุกอก คนคนนี้จะเอาแต่ตัวเองว่าเกินไปแล้ว นี่มันตรรรกะอะไรกัน!

รถมอเตอร์ไซค์เล็กกว่ารถยนต์ เขาก็เลยมีเหตุผลงั้นเหรอ

ซูเหอเหวินพูดเสียงเย็น “นายจะพูดกับเขามากทำไม”

หาเรื่องให้โมโห

ตอนที่ผู้ชายคนนี้มาถึงโรงพยาบาล ไม่ถามอาการพ่อตัวเองสักคำ มาถึงก็เอาแต่พูดให้พวกเขารับผิดชอบ ต้องการให้พวกเขาชดใช้เงิน

ตำรวจจราจรพูดต่อหน้าตำรวจว่ารถมอเตอร์ไซค์ต้องรับผิดชอบทั้งหมด

เขาก็ยังเอาแต่บ่นไม่ยอมเลิก

นอกจากซูเหอเวิ่น ทั้งตระกูลซูก็ไม่มีใครอยากทะเลาะกับคนคนนี้

ซูเหอเวิ่นถูกยั่วโมโหเข้าจนได้ “คนพรรค์นี้ไม่มีเหตุผลหรอก!”

ซูเหอเหวินพูดเสียงเย็น “รู้ว่าเขาไม่มีเหตุผล นายยังจะพูดอะไรกับเขาอีก”

ซูเหอเวิ่นโมโหจนกระอักเลือดเป็นครั้งที่สอง คับอกคับใจนั่งอยู่บนเก้าอี้

ซู่เป่าพลิกตัว เหยาหลิงเยว่เห็นว่าหูฟังตัดเสียงรบกวนจะตกก็เลยขยับให้เธอทันที

ไม่นานมู่กุยฝานก็มาถึง สอบถาม “เกิดอะไรขึ้น”

ซูอีเฉินพูดเบา ๆ ไม่กี่ประโยค ซูเหอเวิ่นกลับเล่าความหน้าไม่อายของผู้ชายคนนี้รอบหนึ่ง

มู่กุยฝานมองผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชาทีหนึ่ง น้ำเสียงเจือความเย็นยะเยือกและอันตราย “ ตำรวจจราจรก็วินิจฉัยความรับผิดชอบแล้ว คุณยังไม่ยอมรับอีกเหรอ”

อีกฝ่ายนั่งลงตามจิตใต้สำนึก หดคอแบบหวาดกลัว

จากนั้นก็พูดอย่างโมโหโกรธาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม “ตำรวจจราจรวินิจฉัยก็เอาตามนั้นเหรอ ถึงยังไงตอนนั้นพวกเราก็ไม่ได้อยู่นี่นั่น พวกคุณว่ายังไงก็ต้องว่าไปตามนั้นหรือไง”

“สรุปแล้วรถยนต์ของพวกคุณชนรถมอเตอร์ไซค์พ่อผม เป็นความผิดของพวกคุณนั่นแหละ!”

มู่กุยฝานมองออกแล้ว

ผู้ชายคนนี้หน้าไม่อายจริง ๆ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความโง่เขลาเบาปัญญา

ในการมองโลกของเขา ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ขอเพียงรถใหญ่ชนรถเล็ก ก็ต้องเป็นความผิดของรถใหญ่ทั้งหมด

พวกซูอีเฉินไม่อยากมีปากเสียงกับคนคนนี้ แต่พ่อของเขาก็กำลังกู้ชีพอยู่เหมือนกัน จะไล่เขาออกไปก็ไม่ได้ ดังนั้นจึงอดทนอดกลั้นตลอดทั้งคืน

มู่กุยฝานมองสภาพนายหญิงซูทีหนึ่ง ฉุดคอเสื้อของลูกชายคู่กรณี “มา จะถกเรื่องผิดถูกใช่ไหม ผมจะค่อย ๆ พูดเหตุผลกับคุณเอง”

มู่กุยฝานท่าทางไม่น่าเข้าใกล้มาก ฉุดคอเสื้อของอีกฝ่ายเดินไปข้างนอก

ไม่กลัวคนหน้าไม่อาย กลัวแต่ระดับการมองโลกไม่เท่ากัน

เขายัดเยียดความคิดของตัวเองกับคนอื่นแบบดื้อ ๆ ถ้าความคิดของอีกฝ่ายไม่ตรงกับเขา นั่นคือความผิดของอีกฝ่าย

แม้แต่หัวหน้าใหญ่ มู่กุยฝานก็ยังกล้าค้าน มีหรือจะกลัวเขา

“คุณจะพูดเหตุผลกับหมัดซ้ายของผม หรือว่าจะคุยกับหมัดขวาของผมดี” มู่กุยฝานผลักอีกฝ่ายกับผนัง จากนั้นก็ชกใส่ผนังด้านหลังเขาแรง ๆ ทีหนึ่ง

“ดังนั้นเอาไว้พ่อฟื้นขึ้นมา ความจริงทุกอย่างก็จะปรากฏ!”

เสียงอีกฝั่งก็ดังมากเหมือนกัน “ใช่! ฉันจะบอกนายให้นะ เรื่องนี้ต้องเอาเรื่องให้ได้! พวกเขาต้องชดใช้! ค่ารักษาพยาบาล ค่าดูแล ค่าเสียงาน ค่าทำขวัญอะไรของพ่อ พวกเขาอย่าคิดจะเบี้ยวเลย!”

“ตอนที่เกิดเรื่องวินิจฉัยความรับผิดชอบ นายอยู่ที่ในที่เกิดเหตุไหม”

เขาส่ายหน้า “เปล่า ตอนที่ได้รับโทรศัพท์รีบมา พ่อก็ถูกส่งตัวมาโรงพยาบาลแล้ว...”

ปลายสายพูดขึ้นอย่างหนักแน่นทันพลัน “งั้นก็ถูกแล้ว! นายไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุสักหน่อย! พวกเขารังแกพวกเรานั่นแหละ ต้องแก้ผลการตรวจแน่!”

“ถึงยังไงพวกเราก็ไม่รู้อะไรสักอย่าง ยังไม่ใช่พวกเขาว่ายังไงก็อย่างนั้นเหรอ!”

ทั้งสองยิ่งพูดก็ยิ่งเดือดดาล ท่ามกลางการคาดเดาจากคำพูดเพียงไม่กี่คำ พวกเขาก็ตัดสินความจริงแล้ว เชื่อว่าความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ตำรวจจราจรพูด แต่เป็นอย่างที่พวกเขาคาดเดาต่างหา!

“ถ่วงเวลาเอาไว้! พวกเราคนจนร่วมมือกันไม่กลัวพวกคนรวยหรอก ฉันไม่เชื่อว่าสังคมนี้จะเอาใบบัวมาปิดช้างได้”

“คนรวยเลวจริง ๆ ชั่วช้าจนล้างยังไงก็ไม่สะอาด พวกเราจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!”

หลังจากอีกฝ่ายวางสาย เขาที่เพิ่งถูกทำให้ตกใจขวัญเสีย เวลานี้มีใจเหิมกล้าอีกแล้ว

ใช่ พวกเขาเป็นคนจน ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่มีอะไรแล้วยังจะกลัวคนรวยเหรอ

เป็นความผิดของพวกเขานั่นแหละ ชดใช้เงิน ต้องชดใช้เงิน!

อย่าหนีแม้แต่คนเดียว!

เขาทำหน้าดุดัน เดินออกไปด้วยความโมโห ตัดสินใจอยู่ในใจ อีกเดียวต่อให้ถูกผู้ชายตัวสูงคนนั้นต่อยต่อหน้าสาธารณชน เขาก็จะไม่ปอดแหกเด็ดขาด!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน