ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 875

ซู่เป่าตั้งใจมาหาเป็นพิเศษ ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินประโยคที่ว่า ‘ไม่งั้นล่ะ’

“แต่เธอเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณป้านะคะ!” ในใจของซู่เป่าเจ็บจี๊ด

ทว่าเยียนอวิ๋นเสียยิ่งพยักหน้าอย่างสมเหตุสมผล “ฉันรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของฉัน ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงไม่ทำอย่างนี้หรอก”

“ลูกสาวที่ฉันคลอด ก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขที่ออกมาจากตัวฉัน...ฉันจะทำยังไงก็ไม่ต้องให้คนอื่นมายุ่งหรอกใช่ไหม...”

จนถึงตอนนี้เยียนอวิ๋นเสียก็ยังไม่เข้าใจ มีสิทธิ์อะไรมาจับเธอขังตั้งเจ็ดปี

ลูกที่เธอคลอดออกมาเองตนเองย่อมมีสิทธิ์ตัดสินใจ เธอเป็นแม่ที่คลอดและเลี้ยงดูเธอมา จะจัดการยังไงก็เป็นสิทธิ์ของเธอ

“ตั้งแต่โบร่ำโบราณแม่ตีลูกเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ...” เยียนอวิ๋นเสียยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่เป็นธรรม “เธอแอบกินของหรือว่าไม่ควรตี? ไม่ตีเธอก็ไม่หลาบไม่จำ!”

อยู่บ้านยังแอบกินของ เกิดมาก็เป็นนังกระดูกชั้นต่ำ

ซู่เป่าเข้าใจที่ว่าพูดมากไร้ประโยชน์แล้ว

เธออยากเข้าใจว่าทำไม ที่แท้ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรถึงได้ทำร้ายอย่างทารุณ

บางครั้งก็เพียงเพราะความคิด บางครั้งก็เพียงเพราะเรื่องเล็กๆ ที่ไม่สลักสำคัญอะไรเลย...

“งั้นจนถึงวันนี้ ตัวป้าเองก็ไม่รู้สึกละอายใจต่อลี่ลี่เลยใช่ไหมคะ” ซู่เป่าจ้องเธอ อยากจะดูว่านัยน์ตาของเธอมีความปากแข็งหรือนึกเสียใจแต่ไม่กล้ายอมรับบ้างหรือเปล่า

น่าเสียดาย...ไม่มี

เยียนอวิ๋นเสียเพียงแค่พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง แล้วพูดขึ้นอย่างคล้อยตามไปด้วย “ฉันสำนึกผิดแล้ว ผ่านการอบรมสั่งสอน และการตรวจสอบพฤติกรรมกับความคิดของตัวเองด้านใน ฉันก็ตระหนักถึงความผิดของตัวเองอย่างลึกซึ้ง...”

พูดประโยคนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้องรับมือกับการพูดหลายรอบหรือเปล่า เพียงแต่ไม่มีความนึกเสียใจที่ควรมีเท่านั้น

เธอเป็นคนคลอด คนอื่นยุ่งไม่ได้! เธออยากจะทำยังไงก็ทำอย่างนั้น เธอเป็นคนให้ชีวิตลี่ลี่ ต่อให้ตีจนตายก็ถือเสียว่าคืนให้เธอแล้ว นี่มีอะไรไม่ถูกต้องกัน?

ซู่เป่าพูดขึ้นอย่างผิดหวัง “ทุกสิ่งล้วนมีเหตุมีผล เวียนว่ายตายเกิดไม่จบไม่สิ้น...ป้าทำตัวเองทั้งนั้น”

เมื่อเธอพูดประโยคนี้จบก็พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “พ่อคะ เราไปกันเถอะค่ะ!”

มู่กุยฝานลุกขึ้นยืน และถือโอกาสถีบเก้าอี้กลับไปยังที่เดิม จากนั้นก็อุ้มซู่เป่าเดินจากไป

ซู่เป่าเกาะอยู่บนบ่าของพ่อ ตัวอ่อนปวกเปียก รู้สึกไร้เรี่ยวแรงสุดๆ

บางทีเด็กส่วนมากล้วนมีจินตนาการอันสวยงามต่อโลก เชื่อว่าคนดีจะได้รับสิ่งตอบแทนที่ดีเสมอ และคนชั่วจะถูกลงโทษเสมอ

แต่ในสองสามปีสั้นๆ มานี้ เธอกลับพบว่าไม่ใช่อย่างนั้นเลย ยิ่งมองก็ยิ่งพบความจริงของโลก

หลังขึ้นรถ ซู่เป่าก็หยิบพู่กันชี้ชะตาออกมา เงียบอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าอยู่นานสองนาน...

ระหว่างทาง จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ในปากตะโกนเรียกชื่อหนึ่ง

“หลี่อวี๋เข่อ! แกวิ่งออกมาเองได้ยังไง! แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่งเพ่นพ่านไปทั่วคนเดียว แกก็ยังทำแบบนี้อีก!”

แม่ที่เดือดดาล ตีลูกสาววัยสามสี่ขวบของตัวเองดังเพียะบนถนน มิหนำซ้ำยังตีไปบนหน้า

สายตาประหลาดของคนรอบข้างทำให้คุณแม่วัยใสยิ่งทุกข์ใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำไม่ดี เป็นห่วงก็ผิด ตอนที่โกรธก็ผิด ไม่มีใครเข้าใจ

เธอแสดงอารมณ์เช่นนี้บนใบหน้า เธอเดินไปข้างหน้าด้วยความเดือดดาล ไม่ว่าลูกสาวจะร้องไห้ขอให้แม่อุ้มยังไง เธอก็ไม่แยแส

ไม่นาน พ่อของเด็กก็มาถึง ขณะนี้เองถึงอุ้มลูกสาวที่ร้องไห้โฮขึ้นมา เด็กทอดตัวร้องไห้จนกระหืดกระหอบบนบ่าของเขา

คุณแม่วัยใสเองก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน ถ้าเด็กหายไปคนแรกที่จะถูกกล่าวโทษคือเธอ ตอนที่แม่เกิดโมโหขึ้นมาคนแรกที่จะถูกกล่าวโทษก็คือแม่...ใครจะมาให้อภัยเธอกัน?

ครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกค่อยๆ เดินจากไปไกลพร้อมทั้งเสียงทะเลาะเจี้ยวจ้าว

“พ่อคะ พ่อว่าที่พวกเขาเป็นแบบนี้...ใครเป็นคนผิดเหรอคะ?” ซู่เป่ามองนอกหน้าต่าง

มู่กุยฝานพูดขึ้นว่า “ตอนแรกเด็กเป็นคนผิด ธรรมชาติของเด็กคือมัวแต่ห่วงเล่น...เธอเล่นอย่างสบายใจจนลืมคำพูดของแม่ แล้วออกไปเดินเพ่นพ่านคนเดียว”

“ต่อมาแม่เป็นคนผิด เธอเป็นห่วงเด็ก ร้อนรนเป็นห่วงเด็กไม่ผิด ผิดเพียงแค่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่เท่านั้น”

ลูกก็เพิ่งจะเคยเป็นลูกครั้งแรก แม่ก็เพิ่งจะเคยเป็นแม่ครั้งแรก ชีวิตนี้ใครๆ ก็เป็นคนกันครั้งแรกทั้งนั้น

บางคนครั้งเดียวก็เป็นตัวท็อป ไม่ว่าจะสอบก็ดี แต่งงานก็ดี เลี้ยงลูกก็ดี ทั้งชีวิตล้วนเป็นนักเรียนตัวอย่างในสายตาของคนอื่น

แต่บางคนกลับขรุขระ ค่อยๆ เรียนรู้อย่างช้าๆ แต่ชีวิตคนการทดสอบสนามนี้ไม่มีการจำลอง หากเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมาก็จะถูกคนตำหนิติเตียน

ซู่เป่าถาม “เพราะงั้นควรทำยังไงเหรอคะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน