ไม่รู้ว่าเฉินจื่ออานจะมองความเจ้าเล่ห์ของซวนเหวินลี่ออกไหม แต่สถานการณ์ในตอนนี้ จะพูดหรือไม่พูด ก็ลำบากใจมากจริงไหม?
และเป็นไปตามที่คาด เฉินจื่ออานไม่ได้ตอบ แต่ซวนเหวินลี่ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “เฉินจื่ออาน? เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่ข้าพูดเหรอ?”
หัวหน้าซือหนงซื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รีบพูดออกมา “เฉินจื่ออาน ในเมื่อท่านผู้ว่าการอำเภอถามเจ้า เจ้าก็ตอบมา”
ลู่ม่านรู้สึกร้อนใจมาก และกำลังคิดว่าจะช่วยเฉินจื่ออานแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร แต่เสียงของ หลิวซื่อก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก ก่อนที่นางจะรีบวิ่งเข้ามาโดยไม่คำนึงถึงเจ้าหน้าที่หน้าประตูที่ขวางไว้
พอนางเห็นเฉินจื่ออาน นางก็ร้องไห้ออกมา “จื่ออาน เรื่องตามหาพี่รองของเจ้าได้ความว่าอย่างไรบ้าง”
เฉินจื่ออานขมวดคิ้วแล้วพูดกระซิบ “พี่สะใภ้รอง ท่านมาที่นี่ทำไม”
ดวงตาของหลิวซื่อคลอไปด้วยน้ำตา “ข้าฝันถึงพี่รองของเจ้า เขาช่างน่าสงสารจริงๆ”
หัวหน้าซือหนงซื่อกระแอมเบา ๆ จากนั้นหลิวซื่อถึงได้เห็นว่าในห้องโถงมีคนอยู่เยอะมาก นางรีบคุกเข่าลง ทำความเคารพ
แต่พอนางเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของนางก็จับจ้องไปที่ซวนเหวินลี่ “จื่อคัง...”
หน้าตาของซวนเหวินลี่เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที และต้าซือหนงที่อยู่ข้างๆ เขาก็มองไปที่ซวนเหวินลี่อย่างสงสัย จากนั้นซวนเหวินลี่ก็พูดอย่างโมโห “หญิงชาวบ้านผู้นี้ช่างใจกล้ามาก พูดเรื่องไร้สาระ จับนางไปโบยซะ!”
“ตีไม่ได้นะ!” เฉินจื่ออานรีบขวางไว้ “พี่สะใภ้รองของข้าเป็นแค่หญิงชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องอะไร นางกำลังตั้งครรภ์ โบยไม่ได้เด็ดขาด!”
“ท่านผู้ว่าการอำเภอ!” หัวหน้าซือหนงซื่อที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ช่วยขอร้องด้วย “ซือหนงซื่อของเราให้ความสำคัญกับชาวบ้านเสมือนพี่น้องมาตลอด ใต้เท้าเห็นแก่ที่หญิงสาวชาวบ้านผู้นี้สำนึกผิดแล้ว ยกโทษให้นางเถอะ”
สุดท้ายซวนเหวินลี่ก็ยอมพยักหน้าให้ แต่เขาไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งอยู่ที่นี่ต่อแล้ว หลังจากที่คนในบ้านเฉินจำเขาได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามปกปิดได้ดีเพียงใด เขาก็ยังมีร้อนตัวอยู่ดี
หลังจากพูดทิ้งท้ายเล็กน้อย ซวนเหวินลี่ก็เดินจากไป
เฉินจื่ออานช่วยพยุงหลิวซื่อขึ้นมา และกล่าวลาต้าซือหนงเดินออกไป
ลู่ม่านออกไปรอข้างนอก พอเห็นเฉินจื่ออานเดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นางก็รีบบอกให้เฉินจื่ออานเข้าไปในรถ ก่อนที่ทั้งสามจะเดินทางกลับหมู่บ้านไป่ฮัว
หลิวซื่อยังไม่หายจากอาการตกใจ หลังจากออกมาจากตำบล หลิวซื่อก็ถามด้วยท่าทางตกตะลึง “ซวนเหวินลี่ผู้นั้นเหตุใดถึงหน้าตาเหมือนจื่อคังอย่างนี้”
เฉินจื่ออานนิ่งเงียบ ลู่ม่านรีบกระซิบพูด “พี่สะใภ้รอง เรื่องนี้ทางที่ดีท่านอย่าสนใจ!”
แต่ความหวังของหลิวซื่อกลับถูกจุดประกายขึ้นมา “แล้วเจ้าคิดว่าพี่รองของเจ้าจะอยู่กับ จื่อคังหรือไม่”
“อาจจะ!”
ลู่ม่านตอบอย่างคลุมเครือ แต่หลิวซื่อกลับดีใจขึ้นมา “ถ้าอยู่กับจื่อคังก็ดีแล้ว ตอนนี้จื่อคังได้เป็นขุนนางแล้ว จื่อฟู่อยู่กับเขา จะต้องได้ดีแน่นอน”
พอเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหลิวซื่อ ลู่ม่านก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้ “พี่สะใภ้รอง ท่านเพิ่งเห็นท่านผู้ว่าการอำเภอครั้งแรก ท่านรู้ได้อย่างไร ว่าเขาคือเฉินจื่อคัง”
หลิวซื่อยกยิ้มแล้วพูดว่า “เรื่องนี้เจ้าไม่รู้ ตอนที่จื่อคังอยู่ที่บ้าน เพราะเขาต้องอ่านตำรา ข้าจึงเป็นคนดูแลเขาทุกอย่าง ทั้งยกชายกน้ำให้ ซักผ้า และทำอาหาร เขาหน้าตาเป็นอย่างไร ข้าจะดูไม่ออกได้อย่างไร แล้วอีกอย่าง ตรงใบหูของเขามีแผลเป็น ก่อนจะเกิดไฟไหม้ เขาเผลอได้รับบาดเจ็บ แต่เขาบอกให้ข้าห้ามบอกใคร เมื่อตะกี้ข้าเห็นรอยแผลเป็นนั้น…”
อย่างนี้นี่เอง ...
ลู่ม่านขมวดคิ้ว “เขาได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร”
ตอนที่ลู่ม่านรู้เรื่องนี้ ซวนเหวินลี่ก็ผูกมิตรกับชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว
เหยาซื่อพูดยกยอ “ถ้าอย่างนั้นใต้เท้าซวนก็ดีมากเลย ท่านผู้ว่าการอำเภอของอำเภอเฟิงหนานคนก่อนๆ ไม่เคยเห็นทำเพื่อชาวบ้านเช่นนี้เลย”
ลู่ม่านพูดอะไรไม่ออก และคิดในใจว่า ซวนเหวินลี่จะต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาแน่ๆ ไม่อย่างนั้น เขาที่เมื่อวานยังมีท่าทางร้อนตัว ทำไมวันนี้ถึงสงบได้ถึงขนาดนี้?
คงจะมีคนบอกเขาว่า แทนที่จะหลบซ่อน ให้แสดงตัวอย่างเปิดเผยดีกว่า
การโกหกบางอย่าง ขอแค่ตัวเองก็ยังเชื่อแล้ว คนอื่นก็จะไม่สงสัยเราอีก
“อืม ไม่เลว!” ลู่ม่านพึมพำในใจ
ทันทีที่นางพูดจบ ก็มีเสียงดังขึ้นมา จากนั้นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งก็เดินมาทางนี้พร้อมกับซวนเหวินลี่ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่ “ใจดี” คอยให้คำแนะนำและบอกซวนเหวินลี่ “ข้างหน้าก็ถึงบ้านของเฉินซือหนงแล้ว”
ซวนเหวินลี่กล่าวขอบคุณเขาอย่างสุภาพ และตามเดินไป
ซวนเหวินลี่เป็นถึงท่านผู้ว่าการอำเภอ แน่นอนว่าเหอซานเองก็ไม่สามารถขวางเขาได้ ไม่นานซวนเหวินลี่ก็ถูกเชิญเข้ามา
ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน แน่นอนว่าลู่ม่านต้องออกมาต้อนรับแขก
แต่ว่า ซวนเหวินลี่มาในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อแสดงตัวตนของเขาเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องเมื่อวานที่ยังไม่ได้รับคำตอบ และเขาก็ไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
เขาเพิ่งมาประจำการที่นี่ ซวนเหวินลี่ต้องการผลงานความดีความชอบ ถ้าเครื่องแยกเมล็ดข้าวนั่นเป็นเขาที่รายงานให้ราชสำนัก ผลที่ได้ก็จะแตกต่างออกไป...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...