ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 252

มีดกับส้อมล้วนทำขึ้นจากไม้ไผ่เป็นการชั่วคราวด้วยฝีมือของเฉินจื่ออาน ทำไว้แค่สองชุดเท่านั้น ลู่ม่านเอาให้จวงลี่จ้งใช้ชุดหนึ่ง

นางทำได้แค่ต้องใช้ร่วมกับเฉินจื่ออานเท่านั้นแล้ว เฉินจื่ออานไม่รู้วิธีใช้ ลู่ม่านจึงสาธิตวิธีใช้มีดกับส้อมให้เขาดูก่อน เฉินจื่ออานค่อยรับมันมาก่อนจะค่อย ๆ หั่นออกเป็นสองส่วนอย่างระมัดระวัง

ปฏิสัมพันธ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างสองคนสามีภรรยา อยู่ในสายตาของจวงลี่จ้งตลอด ก่อเกิดเป็นความอิจฉาที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

หลังกินข้าวเสร็จ จวงลี่จ้งค่อยพูดถึงที่ดินที่กำลังจะไปดูกันในวันพรุ่งนี้ “พวกเจ้าซื้อบ้านที่นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีอยู่เหมือนกัน เพราะที่ตั้งของโรงงานอยู่แถวชานเมือง ระยะทางไม่ไกลจากที่นี่มากนัก"

“มีที่อื่นให้เลือกอีกหรือไม่?” ลู่ม่านถาม

“มี ถ้าถึงเวลานั้นเจ้าอยากไปดูก็ได้เสมอ” จวงลี่จ้งพูดจบ ก็ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวลา "ข้ากลับก่อนนะ!"

ทั้งสองคนไปส่งจวงลี่จ้งถึงหน้าประตู จวงลี่จ้งอดถามเพิ่มอีกประโยคไม่ได้ว่า "เมื่อครู่ที่พวกเราเพิ่งกินไปเรียกว่าสเต๊กสินะ?"

“ใช่แล้ว!” ลู่ม่านพูดพลางหัวเราะ

“ข้าเห็นว่ามีดกับส้อมแบบที่เจ้าใช้นั้นดูแล้วมันน่าสนใจมาก เคยคิดบ้างหรือไม่ว่า ถ้าเป็นเมืองหลวงแห่งนี้ จะสามารถสร้างร้านที่ผลิตหรือวางขายของแบบนี้ได้?”

พ่อค้าก็คือพ่อค้าจริง ๆ! แค่พริบตาเดียวก็มองเห็นโอกาสทางธุรกิจได้ทันที

แต่ในช่วงระหว่างนี้ลู่ม่านกลับไม่มีความคิดเช่นนั้น “ ด้วยสถานะของพวกเราในตอนนี้ ปากกัดตีนถีบให้พอมีพอกินในหมู่บ้านไป่ฮัวก็พอแล้วล่ะ ถ้าเรามาถึงเมืองหลวง น่ากลัวว่าจะไปขัดหูขัดตาใครหลายคนอยู่ พอถึงเวลานั้น ข้ากลัวว่าจะมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไม่จบไม่สิ้นแน่ ๆ!"

คนแรกเลย ก็คงจะเป็นจวนอ๋องหนิงนี่แหล่ะมั้ง?

จวงลี่จ้งพูดขึ้นอีกครั้งว่า "หากเจ้ากังวลล่ะก็ ตระกูลจวงสามารถช่วยออกหน้าได้...."

ลู่ม่านยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ “ถ้าคุณชายจวงอยากทำ ข้าสามารถเขียนต้นแบบให้เจ้าได้ พวกเรารบกวนตระกูลจวงมามากเกินไปแล้ว!”

จวงลี่จ้งก็ไม่บังคับอะไรต่อ "ช่างเถอะ ไว้ค่อยคุยกันวันหลังแล้วกัน!"

เด็กรับใช้มารอที่หน้าประตูแล้ว จวงลี่จ้งหันกลับไปกำชับอีกครั้ง “อย่าลืมเปิดดูของขวัญล่ะ” จากนั้นค่อยเดินออกไป

รอจนจวงลี่จ้งกลับไป ทั้งสองคนช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดโต๊ะอาหาร ค่อยไปเปิดดูของขวัญ

สิ่งที่จวงลี่จ้งมอบให้ถึงกับเป็นไข่มุกเลอค่าเม็ดหนึ่ง ทั้งยังเป็นไข่มุกราตรีอีกด้วย ทันทีที่เปิดกล่องออกดู ก็มีแสงสว่างเรืองรองเปล่งออกมาจากด้านใน ทอแสงนวลเย็นตาอ่อนจางภายใต้แสงจันทร์ งดงามจับตาอย่างยิ่ง

“นี่มันจะล้ำค่าเกินไปหรือไม่นะ?” เฉินจื่ออานเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล

ลู่ม่านเองก็คิดแบบนั้น แต่พอมาคิด ๆ ดูว่าปกติแล้วจวงลี่จ้งเป็นคนประเภทหว่านพืชหวังผล ให้อะไรใครต้องมองผลกำไรที่จะได้คืน ก็พลันสงบจิตสงบใจลงได้ “คุณชายจวงคงจะคิดถึงความร่วมมือหลังจากนี้แน่ ๆ ในอนาคตเราคงต้องเจอกับแรงเสียดทานอีกมาก ดังนั้น ก็เลยคิดจะให้ยาต้านกับพวกเราก่อนก็เป็นได้นะ?”

เฉินจื่ออานพยักหน้า “ถ้าหากในอนาคตคุณชายจวงแต่งงาน พวกเราจะต้องมอบของขวัญที่วิเศษมาก ๆ สักชิ้นให้เขา จึงจะสามารถชดเชยได้!”

จวงลี่จ้งแต่งงานเรอะ? ลู่ม่านนึกถึงสีหน้าดำทะมึนของจวงลี่จ้งขึ้นมา ก็อดขมวดคิ้วนิ่วหน้าไม่ได้ “ข้าหวังว่าภรรยาในอนาคตของคุณชายจวงจะเป็นพวกร้ายกาจดุดันมาก ๆ หน่อย ไม่อย่างนั้นคงถูกรังแกตายเลย”

“เสี่ยวม่าน…” เฉินจื่ออานอดปรามเบา ๆ ไม่ได้

ลู่ม่านแลบลิ้นออกมาอย่างซุกซน เก็บไข่มุกราตรีให้เรียบร้อย เฉินจื่ออานรู้สึกสงสัย "ทำไมไม่วางไว้ในห้องนอนล่ะ?"

“ไม่ได้!” ลู่ม่านส่ายหน้า “มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า การนอนหลับในที่ที่มีแสงสว่างตอนกลางคืน จะนำไปสู่โรคเบาหวานได้ง่าย!”

“โรคเบาหวาน?” เฉินจื่ออานสงสัย

ลู่ม่านรีบส่ายหน้า “เป็นอาการป่วยชนิดหนึ่งที่กินน้ำตาลไม่ได้ เจ้าคงไม่ได้คิดว่ามันคือโรคฉี่เป็นน้ำตาล.....”

ยังไม่ทันพูดจบ เฉินจื่ออานก็ปิดปากของลู่ม่านแล้ว “อย่าพูดจาไม่เหมาะสม....”

“ได้ ๆ ๆ ไม่พูดแล้ว ไปนอนเถอะ!” ลู่ม่านยอมแพ้

ถ้าเป็นยุคนี้ ลู่ม่านจะต้องไปตั้งกระทู้โพสต์ในโซเชียลด้วยหัวข้อที่ว่า "สามีนิสัยโคตรน่าเบื่อจะทำยังไงดี?" แน่ ๆ เชื่อได้เลยว่าคงจะมีคนแห่เข้ามาคอมเมนท์กันรัว ๆ แน่นอน

วันรุ่งขึ้น พวกลู่ม่านเพิ่งจะตื่นมาล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็มีรถมารับพวกเขาแล้ว

ลู่ม่านไม่ได้คัดค้าน

หลังจากตัดสินใจเรียบร้อย ความกดดันของลู่ม่านกับเฉินจื่ออานก็เปลี่ยนเป็นเพิ่มมากขึ้น แต่เดิมพวกเขาแค่ปากกัดตีนถีบอยู่ในหมู่บ้านไป่ฮัว แม้จะพูดได้ว่าไม่อาจทำเงินได้มากมายอะไรนัก แต่อย่างน้อยก็ไม่มีหนี้ ทั้งยังพอมีเงินเก็บบ้าง

วันเวลาที่ใช้ที่นั่นค่อนข้างผ่อนคลายสบาย ๆ

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว พวกเขาเป็นหนี้ก้อนเบ้อเริ่มเทิ่ม.....

ลู่ม่านตัดสินใจว่าหลังจากกลับไปครั้งนี้ บางทีน่าจะเริ่มทำธุรกิจเล็ก ๆ อะไรซักอย่าง เก็บเงินได้เร็วนับว่าเป็นเรื่องที่ดี

สาเหตุหลักเป็นเพราะในยุคปัจจุบัน ลู่ม่านผู้ซึ่งไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่ยังเด็ก มีความรู้สึกไม่สบายใจติดค้างอยู่ลึก ๆ จนไม่กล้าฝากทุกอย่างเอาไว้กับคนคนเดียว แม้ว่าตอนนี้ตระกูลจวงจะดีกับพวกเขาก็จริง แต่ว่าในอนาคตล่ะ?

ก็เหมือนกับเจ้าเฉินเฟยอวี่นั่นปะไร ไม่ใช่พอพูดว่าจะนอกใจ ก็นอกใจเลยหรอกรึ?

เก็บความคิดเหล่านี้เอาไว้ในใจ ทางด้านจวงลี่จ้งก็เริ่มหารือเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงงานกับพวกลู่ม่านแล้ว ตามความคิดเห็นของพวกเขา คือต้องการจะสร้างสถานที่ซึ่งคล้ายกับนิคมอุตสาหกรรมแบบยุคใหม่สักแห่ง

สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือสร้างกำแพง เพื่อล้อมรอบส่วนของตัวโรงงานทั้งหมดเอาไว้

แต่หลังจากล้อมแล้ว ก็ยังต้องสร้างอาคารแตกแยกย่อยออกไปอีก ไม่สามารถผสมปนเปทั้งหมดเข้ามาไว้ในโรงเดียวกันได้

หลังจากตกลงแนวความคิดกันเรียบร้อยแล้ว การก่อสร้างโรงงานก็เริ่มต้นขึ้น

เมื่อเปิดดูปฏิทินโหราศาสตร์ สามวันหลังจากนี้จะถือว่าเป็นวันดี สามารถขุดเจาะดินเพื่อเริ่มต้นการก่อสร้างได้แล้ว

หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานกลับไปพักผ่อนในบ้านหลังน้อยเป็นเวลาหนึ่งวัน ที่นี่ไม่มีคนรู้จัก จึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าคนใหญ่คนโตที่ไหน จะมาสร้างเรื่องให้พวกเขามีปัญหา

ทั้งสองตื่นพร้อมกันแต่เช้า กินข้าวเช้าด้วยกัน ช่วงบ่ายออกไปเดินตลาดซื้ออาหาร รวมทั้งซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องใช้ในบ้านมาเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง

เดิมทีคิดว่าวันเวลาเช่นนี้ จะคงอยู่ต่อไปจนถึงวันเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างโรงงาน แล้วค่อยกลับไปที่หมู่บ้านไป่ฮัว แต่คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะวันที่สอง ก็มีคนมาเยือนถึงหน้าประตูแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน