ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 475

“เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียว จื่อคังก็โตแล้ว แต่บ้านเราก็แยกกันแล้ว”

ลู่ม่านถอนหายใจ ปล่อยให้เขากอดนางอยู่แบบนี้ “นี่ไม่ใช่ความผิดเจ้าหรอก”

คืนนี้ ไม่รู้ว่าเฉินจื่ออานนอนหลับเมื่อไหร่ รอถึงตอนเช้า ตอนที่ลู่ม่านตื่นนอน เฉินจื่ออานก็ยังไม่ลุกขึ้น

ช่วงนี้ยุ่งอยู่กับเรื่องในกรมเกษตร เขาก็เหนื่อยมากจริงๆ ลู่ม่านจึงไม่ได้เรียกเขา ปล่อยให้เขานอนต่อไป

ตัวเองก็ลุกขึ้นทำอาหารเช้าให้เฉินจื่ออาน ไข่ดาวกับข้าวต้ม ช่วงก่อนถั่วเหลืองออกแล้ว ตาแก่เฉินพวกเขาก็ใส่กระสอบเล็กมาแบ่งให้

ลู่ม่านก็เลยแช่น้ำเล็กน้อย บอกให้หรูอวี่เอาไปบดละเอียดต้มเป็นน้ำเต้าหู้ น้ำเต้าหู้นี้หอมอร่อยมาก และยังละลายไขมันเสริมภูมิคุ้มกันได้ด้วย

เพิ่งทำเสร็จ เฉินจื่ออานก็ลุกขึ้นแล้ว

ลู่ม่านยื่นน้ำเต้าหู้ให้เขาหนึ่งแก้ว “เจ้าลองดื่มดูสิ”

เฉินจื่ออานรับมา ยังไม่ทันได้ดื่มก็มีข้ารับใช้เข้ามา

“ใต้เท้าซือหนง กรมเกษตรเกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ”

“ว่าไงนะ?” เฉินจื่ออานไม่สนใจน้ำเต้าหู้อีก แล้วรีบเดินเข้าไปถามใกล้ๆ

“พริกหยวกที่เราปลูกไว้เมื่อสองวันก่อน ไม่เพียงแต่ยังไม่เติบโต ตอนนี้ยังเริ่มมีท่าทีจะเน่าด้วยขอรับ”

เฉินจื่ออานอึ้ง พริกหยวกนั้นเป็นพริกที่พวกเขาค้นพบ นอกจากที่ฮ่องเต้กินแล้ว ที่เหลือถูกใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ปลูกลงไป

ถ้าครั้งนี้ไม่โตอีก งั้นพริกหยวกที่พวกเขาไม่ได้เจอกันง่ายๆก็ไม่มีเมล็ดพันธุ์อีกน่ะสิ

“เร็ว พาข้าไปดูเร็ว” เฉินจื่ออานรีบพูด

“ข้าไปด้วย!” ลู่ม่านตะโกนตามหลัง

เฉินจื่ออานครุ่นคิด ลู่ม่านมีประสบการณ์ทางด้านปลูกผักเยอะมาก ตอนนี้เป็นช่วงวิกฤต เฉินจื่ออานไม่สนเรื่องอื่นแล้ว เขาพยักหน้าแล้วพาลู่ม่านไปด้วยกัน

……

ณ กรมเกษตร ตอนที่ทั้งสามคนไปถึง ทุกคนก็มาถึงกันแล้ว ทุกคนล้อมพื้นดินตรงนั้นไว้แล้วแอบซุบซิบกันใหญ่

เฉินจื่ออานรีบผลักคนอื่นๆออกไป ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาแล้ว

ลู่ม่านหวั่นใจ เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเฉินจื่ออานมืดมนลง

เพิ่งสัญญาต่อหน้าฮ่องเต้อย่างมั่นใจแต่กลับมาเกิดเรื่องแบบนี้ก่อน ถ้าจะพูดให้หนักก็คือโทษโกหกฮ่องเต้ ถ้าฮ่องเต้โกรธ พวกเขาก็ไม่รอดน่ะสิ

ทั้งสองรีบนั่งลง สำรวจดูเมล็ดพันธุ์พวกนั้นอย่างละเอียด เมล็ดพันธุ์พริกสีขาวก็กลายเป็นสีดำหมดแล้ว กลายเป็นสีดำทั้งหมดในน้ำ

“ทำไมถึงมีน้ำได้?” เฉินจื่ออานถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เมื่อคืนก่อนฝนตก ไม่คิดว่าขวางคลองน้ำข้างหน้าได้แล้ว จะมีน้ำไหลเข้ามาได้” คนหนึ่งในนั้นพูดขึ้น

“เรื่องนี้ใครเป็นคนคุม?” เฉินจื่ออานถาม

“เป็นใต้เท้าฉางขอรับ!” ข้ารับใช้ที่ไปเรียกเฉินจื่ออานพูดขึ้น เขาเป็นผู้ช่วยที่คอยจัดการเรื่องเล็กๆน้อยๆของเฉินจื่ออาน ตอนแรกตำแหน่งนี้เฉินจื่ออานอยากเก็บไว้ให้เฉินสือซ่วน

แต่เฉินสือซ่วนกำลังเดินสายธุรกิจ เฉินจื่ออานจึงไม่ได้เรียกเขามา

ได้ยินดังนั้น เฉินจื่ออานก็กวาดตามองรอบๆ แต่กลับไม่เห็นใต้เท้าฉางคนนั้นเลย

“ใต้เท้าฉางล่ะ?”

เฉินจื่ออานเงียบ ลู่ม่านพูดอย่างโมโห “เจ้าลืมเรื่องครั้งก่อนตอนที่เจ้าไล่ข้าไปแล้วพูดอะไรกับข้าแล้วหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยากัน พวกเราเสมือนอยู่ในร่างเดียวกัน ถึงแม้จะเกิดเรื่องขึ้น พวกเราก็ยังเป็นสองกายหัวใจเดียว ก่อพลังยิ่งใหญ่ ตอนนี้เจ้าไล่ข้าไปแบบนี้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนยังไง? ข้าเป็นคนที่พร้อมร่วมสุขกับเจ้า แต่ไม่พร้อมร่วมทุกข์กับเจ้างั้นหรือ?”

“เสี่ยวม่าน……” เฉินจื่ออานร้อนใจ “ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ!”

“งั้นก็อย่าพูดอะไรมาก มีเวลาพวกเรามาหาทางแก้ไขปัญหานี้ด้วยกันจะดีกว่า” ลู่ม่านว่าแล้ว ก็เริ่มสังเกตดูบรรยากาศรอบๆ

ที่อยู่ของคลองน้ำอยู่ข้างหน้า และที่พวกเขายืนก็คือตรงหน้าพอดี ดังนั้น ตำแหน่งนี้จึงโดนหนักที่สุด

แล้วปลายน้ำล่ะ? คลองน้ำเส้นนี้ไม่ได้เป็นร่องที่ลึกมาก เป็นคลองน้ำเล็กที่ชุ่มฉ่ำไร้เสียง ดังนั้น ถ้าเป็นสถานการณ์แบบนี้ ตรงปลายน้ำน่าจะยังพอช่วยได้

คิดได้แล้ว ลู่ม่านก็รีบเดินไปที่ปลายน้ำ

เฉินจื่ออานเห็นแล้วก็รีบตามไป

ตรงปลายน้ำก็ดำเหมือนกัน มองไปแล้วก็ไม่แตกต่างอะไรกับต้นน้ำ ตอนแรกเฉินจื่ออานยังดีใจอยู่ แต่ก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง

“เสี่ยวม่าน ช่วยไม่ได้แล้วล่ะ”

ลู่ม่านเงียบไม่พูด แล้วนั่งลงสำรวจดูเมล็ดพันธุ์ที่เน่าเสียหมดแล้ว

ด้านล่างยังมีเมล็ดพันธุ์สีขาวและมีตอสีเขียวอ่อนขึ้นใหม่ด้วย

“จื่ออาน เจ้าดูนี่สิ” ลู่ม่านตะโกนขึ้นอย่างดีใจ

เฉินจื่ออานรีบพุ่งเข้าไปดู พูดด้วยรอยยิ้มทันทีว่า “เสี่ยวม่าน ยังมีเมล็ดพันธุ์ที่ยังดีอยู่อีกจริงด้วย?”

“ไปหากล่องไม้มาเร็ว เอาของพวกนี้ใส่เข้าไป” ลู่ม่านพูดเสร็จ เฉินจื่ออานก็รีบไปหาทันที ปกติตรงนี้ก็เอาไว้ปลูกผักอยู่แล้ว ดังนั้นจึงหาอุปกรณ์ได้ง่ายมาก

ลู่ม่านพูดตามหลังว่า “ยังไม่ต้องบอกใครนะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน