“แม่ทัพเฉียน!” ลู่ม่านเดินไปหาแม่ทัพเฉียน กระชากแขนเขามา
“เมื่อกี้ท่านว่ายังไงนะ? ท่านเป็นใครกันแน่?”
ความอบอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมานานครอบงำหัวใจของเฉินจื่ออาน เขามองดูชุดแดงบนตัวของลู่ม่าน นางสวยมากจริงๆ
ตอนที่พวกเขาแต่งงานกัน ลู่ม่านไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดแดงแต่งงานเลย ตอนนี้ นางจะแต่งงานกับคนอื่นแล้วเหรอ? แถมยังมีเด็กด้วย?
“ข้า...” เฉินจื่ออานอ้าปาก แต่พอนึกถึงเรื่องที่จวงลี่จ้งเตือน เขาก็กลืนคำพูดนั้นกลับไปอีกครั้ง
จวงลี่จ้งพูดถูก ตำแหน่งของเขาในตอนนี้ จะซ้ำรอยเดิมอีกไม่ได้
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ปกปิดความอ่อนแอในจิตใจ แม่ทัพเฉียนทำหน้าจริงจังแล้วพูดว่า “ยินดีกับฮูหยินด้วย ข้าบังเอิญผ่านมาพอดี เห็นฮูหยินจะแต่งงานแล้ว ข้าเลยมายินดีกับฮูหยินด้วย”
ลู่ม่านหัวใจหยุดเต้น มองดูคนตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ที่แท้ เขาก็คิดว่านางจะแต่งงานแล้วนี่เอง
“เสี่ยวม่าน ใกล้ถึงเวลาแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!” จวงลี่จ้งพูด
ลู่ม่านก็ถึงปล่อยแขนของแม่ทัพเฉียนออก แล้วเดินขึ้นรถม้ากับจวงลี่จ้ง
ตลอดทั้งทาง ลู่ม่านสับสนมาก
ลางสังหรณ์ของผู้หญิงบอกนางว่า แม่ทัพเฉียนในวันนี้จะต้องไม่มาพูดกับนางแค่นี้แน่ๆ
หลังจากเสร็จพิธีแล้ว ลู่ม่านก็อยากพาฉางเซิงกลับไป แต่ตระกูลจวงดึงดันบอกว่า ตามหลักแล้ว หลังจากที่รับบุตรบุญธรรมแล้ว ก็ต้องอยู่พักสองสามวัน โบราณเรียกว่าการกลับบ้าน
ตระกูลจวงจัดพิธีใหญ่โตขนาดนี้ ลู่ม่านก็จะใจแคบไม่ได้ ก็เลยยอมตกลง
แต่ฉางเซิงยังป่วยอยู่ ลู่ม่านจะให้เขาอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ นางจึงไปอยู่ด้วยเลย แน่นอนว่า ที่นางอยู่ด้วยยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นก็คือ นางตั้งใจสร้างเรื่องขึ้นมา ดูปฏิกิริยาของแม่ทัพเฉียนว่าเป็นยังไง
พอลู่ม่านอยู่ต่อในบ้านตระกูลจวง ก็มีคนมากมายเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน
“ตระกูลจวงกับจวนกั๋วกงเคยมีการหมั้นสมรสกันอยู่แล้ว ตอนนี้คุณหนูกู้ก็ไม่มีสามีพอดี คุณชายจวงก็รักแต่คุณหนูกู้ นี่เป็นคู่สร้างคู่สมจริงๆ”
“นั่นสิ!”
ข่าวนี้แพร่ออกไปไกลเหมือนนกที่กางปีกบินอย่างรวดเร็ว บินไปทั่วเมืองหลวง สุดท้ายก็ไปถึงพระราชวัง
...
ภายในห้องโถง ฮ่องเต้นั่งอยู่บนบัลลังก์
ด้านล่างคือหลี่หว่านถิงที่กำลังคุยกับฮ่องเต้ จวนอ๋องหนิงมีทั้งตายและแยกย้ายกัน หลี่หว่านถิงก็เข้ารับตำแหน่งอ๋องหนิงอย่างเป็นทางการ
คงเพราะเป็นผู้หญิง และเพราะมีอำนาจในมือ ดังนั้นฮ่องเต้ไม่มีอะไรก็จะเรียกหลี่หว่านถิงเข้ามาคุยกันในวังตลอด
กำลังคุยกันอยู่นั้น ด้านนอกก็มีคนเข้ามารายงานว่า “ฝ่าบาท แม่ทัพเฉียนน้อยมาเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”
เพราะในราชสำนักมีแม่ทัพเฉียนแล้วคนหนึ่ง ดังนั้นทุกคนจึงเรียกท่านนี้ว่าแม่ทัพเฉียนน้อย
“ให้เขาเข้ามา!” ฮ่องเต้พูด
หลี่หว่านถิงเห็นแล้วก็ลุกขึ้น “ฝ่าบาท แม่ทัพเฉียนน้อยมาเกรงว่าจะมีเรื่องสำคัญ หม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ...”
“สามัญชนงั้นเหรอ? เจ้ารู้หรือไม่ นี่เป็นโทษประหารเจ็ดชั่วโคตรเชียวนะ? เจ้ากล้าปลอมตัวมาเป็นผู้อื่น เจ้าลืมแล้วหรือไงว่าเฉินจื่อคังน้องชายเจ้าถูกประหารยังไง?”
“กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” เฉินจื่ออานพูด “แต่ตอนนั้นอยู่ที่ชายแดนเป่ยจิ้ง พวกเราถูกคนเร่ร่อนชนจนกระจัดกระจายไปหมด พอกระหม่อมฝืนขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในกองทัพแล้ว ตอนแรกกระหม่อมว่าจะสารภาพทุกอย่าง แต่มีศัตรูมารุกรานพอดี แม่ทัพเฉียนไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้ ครั้งนั้น ทหารในกองทัพแทบจะพ่ายแพ้แล้ว สุดท้าย คนธรรมดาทั่วไปที่ถูกกองทัพช่วยชีวิตไว้ ต่างก็ขอรายงานตัวเป็นทหารรับใช้ราชวงศ์ ฝ่าบาท ไหนท่านว่า เพราะกระหม่อมไล่ศัตรูได้สำเร็จ รอกระหม่อมกลับมาแล้วก็จะให้รางวัลแก่กระหม่อม? กระหม่อมไม่ขอรางวัลอะไรทั้งนั้น ขอแค่สามารถลบล้างความผิดในครั้งนี้ได้ ขอฝ่าบาททรงลงโทษกระหม่อมให้กลายเป็นสามัญชนด้วยเถิด!”
“เจ้ายังกล้าพูดอีกเรอะ? ไม่สนใจอำนาจและคำพูดของข้าเลยหรือไง? ทหาร!” ฮ่องเต้ตะโกนอย่างโมโห “นำตัวแม่ทัพเฉียนลงไป!”
“ฝ่าบาท!” หลี่หว่านถิงรีบวิ่งออกมา นางมองดูแม่ทัพเฉียนที่มีหนวดเคราเต็มคาง แทบไม่เหมือนกับเฉินจื่ออานที่นางเคยรู้จักเลย
หลังจากได้เห็นหน้าแล้ว นางก็ถึงพูดว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดให้อภัยแม่ทัพเฉียนด้วย!”
“หว่านถิง? เจ้าพูดบ้าอะไรกัน?” ฮ่องเต้ปวดใจไม่ไหว “ตอนนี้เจ้าเป็นอ๋องหนิง อย่าทำอะไรตามใจตัวเองสิ”
“ฝ่าบาท หม่อมฉันรู้ตำแหน่งตัวเองดี และรู้หน้าที่ของตัวเอง และเพราะรู้ดี ดังนั้นจึงอยากขอร้องฝ่าบาท ได้โปรดยกโทษให้แม่ทัพเฉียนด้วย!”
ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว หลี่หว่านถิงพูดต่อ “แม่ทัพเฉียนอยู่ในศึกสงครามมาหนึ่งปีกว่าแล้ว ฆ่าศัตรูมานับไม่ถ้วน ความดีประการแรก เขาภักดีต่อราชสำนัก และเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ความดีประการสอง เขารู้จักการควบคุมและลูกน้องของเขาต่างก็เคารพรักเขากัน ฝ่าบาทให้รางวัลตอบแทนตามผลงาน ถ้าเวลานี้ประหารแม่ทัพเฉียน จะทำให้ทหารในชายแดนเป่ยจิ้งปวดใจเอานะเพคะ”
หลี่หว่านถิงพูดได้มีเหตุผลมาก ฮ่องเต้ก็แอบเครียดอยู่เหมือนกัน
เป็นความจริง สู้รบมาหลายปี ควบคุมน้ำท่วมได้ ปีก่อนก็ควบคุมตั๊กแตนระบาดได้ ตอนนี้ท้องพระคลังว่างเปล่า ถ้ามีทหารก่อกบฏอีก บ้านเมืองคงจะรับไม่ไหว
“ช่างเถอะๆ!” ฮ่องเต้กัดฟัน “เห็นแก่ที่เจ้าสู้เพื่อแคว้นเรา ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ลงโทษให้เจ้าเป็นสามัญชน ต่อจากนี้ไป ห้ามเป็นขุนนางอีก”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” เฉินจื่ออานพูดอย่างซาบซึ้งใจ แล้วทำความเคารพหลี่หว่านถิง “ขอบพระคุณท่านอ๋องหนิง”
ตอนนี้ เขาเป็นอิสระเสียที แต่เสี่ยวม่านยังอยากอยู่กับเขาอยู่หรือเปล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...