เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2102

“หยุด!”

เสียงคำรามถูกแค่นออกมาจากลำคอของลู่ฝาน

เงาดำพุ่งเข้ามาในตัวลู่ฝาน ในช่วงเวลาสำคัญ เจ้าดำสิงร่างได้ทันเวลา

แม้แต่ลู่ฝานอาจยังไม่รู้ว่าเสียงเขายิ่งใหญ่ ทรงพลังและสะเทือนฟ้าดินมากขนาดนี้

คลื่นเสียงขยายออกไปเป็นวงกว้าง ทันใดนั้นเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งลงทันที

อนาคอนด้าด้านหน้า ฮ่วนเย่ว์ที่อุ้มเขาอยู่

รวมถึงทุกคนที่กำลังสู้กันอยู่ด้านนอก แล้วก็สัตว์อสูรอากาศธาตุมากมายหยุดนิ่งลงทั้งหมด

แม้แต่อากาศเวิ้งว้างสีดำขลับ ลำแสงเจ็ดสีด้านหน้าก็ไม่เคลื่อนไหวแล้ว

เหมือนในโลกมีเพียงสายตาของลู่ฝานที่ยังเคลื่อนไหวอยู่

ตอนนี้พลานุภาพบนตัวลู่ฝานเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อเจ้าดำใส่พลังเข้ามา ในที่สุดปราณชี่ในตัวลู่ฝานผสานกันเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็วในวินาทีสุดท้าย

จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าร่างกายตัวเองขยับได้แล้ว

เขาอุ้มฮ่วนเย่ว์ มองอนาคอนด้าอากาศธาตุด้านหน้าอย่างเย็นชา

ภายใต้การจับจ้องของลู่ฝาน นัยน์ตาอนาคอนด้าอากาศธาตุฉายแววหวาดกลัวออกมาแล้ว

พลังแข็งแกร่งเริ่มปรากฏขึ้นบนตัวลู่ฝาน

พลังนี้ไม่ใช่พลานุภาพของผู้แข็งแกร่งตามปกติของลู่ฝาน

ไม่ว่าวิทยายุทธระดับไหน ลู่ฝานก็ไม่เคยมีพลานุภาพแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเซียนบู๊หรืออริยปราชญ์ หรือแม้กระทั่งขุนพลังสุดเหนือฟ้า ประมุขประเทศตันเซิ่งที่เป็นอริยบุคคลแล้ว ก็ไม่มีพลานุภาพแบบนี้

พลานุภาพนี้ดูพิเศษมาก แล้วก็ผิดปกติสุดๆ

เพราะตอนนี้สิ่งที่ลู่ฝานเผยออกมาให้เห็นคือพลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

แข็งแกร่งและประหลาดสุดขีด

ไม่คิดเลยว่าพลานุภาพของสัตว์อสูรสุดแข็งแกร่งจะมาอยู่บนตัวมนุษย์

เป็นเพราะเจ้าดำสิงร่างเหรอ

ทุกคนกำลังคาดเดา

แต่พวกเขายังคาดเดากันไม่ทันเสร็จ พลังสัตว์ศักดิ์สิทธิ์บนตัวลู่ฝานแข็งแกร่งขึ้นอีก เริ่มมีแสงสลัวสว่างขึ้นบนตัว

ครั้งนี้ลู่ฝานทำให้ทุกคนรู้สึกแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

ถ้าบอกว่าเมื่อกี้เป็นแค่พลานุภาพของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

งั้นตอนนี้คำว่า “สัตว์” ถูกลบออกไปแล้ว เหลือแค่คำว่าพลัง “ศักดิ์สิทธิ์”

ถึงเป็นขุนพลังสุดเหนือฟ้าก็ไม่มีพลานุภาพน่ากลัวแบบนี้ พลานุภาพที่แค่มองก็ทำให้ยอมสยบ

ร่างกายของลู่ฝานเกิดเสียงดังกรอบแกรบ

แต่เดิมร่างกายที่เกือบเพอร์เฟกต์ของเขากลายเป็นไร้ที่ติโดยสมบูรณ์แบบแล้ว

ทุกตารางนิ้วของกล้ามเนื้อและกระดูกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมากมาย

ปราณชี่ไหลในตัว ลู่ฝานรู้สึกเหมือนมีมหาสมุทรในร่างกายตัวเอง

การถอดรกเปลี่ยนกระดูกครั้งนี้เร็วมาก แต่ยกระดับขึ้นอย่างน่ากลัวมาก

ถึงขั้นที่ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังแห่งวิถี พลังฟ้าดินรอบตัวยอมสยบต่อเขา

“คุกเข่า!”

ลู่ฝานตะโกนใส่อนาคอนด้าด้านหน้า

เขาไม่รู้ว่าอนาคอนด้าอากาศธาตุที่อยู่ด้านหน้าฟังเขารู้เรื่องหรือเปล่า แต่สัญชาตญาณบอกว่าอนาคอนด้าด้านหน้าต้องคุกเข่าให้เขาแน่ๆ

เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองควบคุมทุกอย่างของอนาคอนด้าตัวนี้แล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าอนาคอนด้าอากาศธาตุตัวนี้ เขาเป็นเหมือนเทพวิญญาณ

นี่สามารถควบคุมได้โดยตรงกว่าการควบคุมพลัง เป็นแรงกดดันที่มาจากพลานุภาพ

เพราะในใต้หล้านี้ไม่ได้อาศัยแค่ความฉลาดแล้วจะไร้เทียมทานได้

“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม!”

ลู่ฝานก้มหน้ามองฮ่วนเย่ว์

ลู่ฝานคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าฮ่วนเย่ว์จะสละชีวิตเพื่อช่วยเขา

ผู้หญิงคนหนึ่งทำถึงขนาดนี้ ลู่ฝานรู้อยู่แล้วว่าแสดงถึงอะไร

จิตใจลู่ฝานสับสนมาก แต่สายตาที่เขามองฮ่วนเย่ว์ในตอนนี้อ่อนโยนมาก

ฮ่วนเย่ว์หน้าแดงเถือก ผู้หญิงท่าทางห้าวหาญ ยังไงก็มีช่วงที่เป็นผู้หญิงบอบบางตัวเล็กๆ

เมื่อกี้เธอเข้าใจว่าตัวเองจะตายแล้ว เลยพูดความในใจออกมา

ตอนนี้เธอไม่รู้จริงๆ ว่าจะเผชิญหน้าลู่ฝานยังไง

เมื่อได้ยินลู่ฝานถาม เธอทำได้เพียงพยักหน้าอย่างเหม่อลอย

ลู่ฝานค่อยๆ ใส่พลังให้ฮ่วนเย่ว์เล็กน้อย เขาต้องการยืนยันว่าเลือดลมของฮ่วนเย่ว์ไม่ได้ไหลย้อนกลับจริงๆ ถ้าเกิดอาการแทรกซ้อนจะไม่ดี

ลู่ฝานทำพลางมองไปทางสัตว์อสูรอากาศธาตุแล้วพูดเสียงกังวานว่า “ไสหัวไปซะ!”

ทันใดนั้นภาพที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงเกิดขึ้น

พวกสัตว์อสูรอากาศที่ดุดันสุดๆ เมื่อครู่ ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นตัวเล็กหรือใหญ่พากันบินไปด้านข้างอย่างว่าง่าย อีกทั้งยังเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบด้วย

แต่ละตัวก้มหน้าเหมือนเด็กทำผิด รอการตำหนิของผู้ปกครอง

ศิษย์พี่หานเฟิงมายืนข้างลู่ฝาน ตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันพลาดเองแหละ นายเป็นคนที่มีมาดของประมุขจริงๆ!”

เจ้าสำนักหลีซีนั่งรถเข็นไม้มาข้างลู่ฝานอย่างรวดเร็วเหมือนกัน เขาพูดกับลู่ฝานด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “นายทำได้ยังไง รีบบอกฉันเร็ว นายทำให้สัตว์อสูรอากาศธาตุพวกนี้เชื่องได้ยังไง”

ดวงตาของเจ้าสำนักหลีซีเปล่งประกาย ตื่นเต้นเหมือนไอ้บ้ากามเจอสุดยอดสาวงาม

ลู่ฝานมองสัตว์อสูรอากาศธาตุเหล่านี้แล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า