เห็นได้ชัดว่าคำตอบของลู่ฝานไม่ได้ทำให้เจ้าสำนักหลีซีรู้สึกพอใจ แต่เจ้าสำนักหลีซีก็ไม่คิดซักไซ้ แค่สายตาเขาจ้องไปที่ฝ่ามือลู่ฝานเท่านั้น
เขาเห็นอย่างรวดเร็ว แหวนที่ลู่ฝานสวมไว้ตลอดเวลาหายไปแล้ว
เรื่องละเอียดเล็กน้อยแบบนี้ มีเพียงเจ้าสำนักหลีที่สังเกตเห็น
เจ้าสำนักหลียกยิ้มประหลาดตรงมุมปาก เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง
ลู่ฝานรู้สึกว่าฮ่วนเย่ว์ไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงดึงมือกลับมา
ฮ่วนเย่ว์เดินไปด้านข้างอย่างเคอะเขิน ภายใต้การจับจ้องของเจ้าสำนักหลี
พูดตามตรงว่าจะเห็นเธอเขินสักครั้งเป็นเรื่องยากมาก
ลู่ฝานอึ้งแล้วอึ้งอีก
“แค่กๆ ลู่ฝาน นายจะทำยังไงกับสัตว์อสูรอากาศธาตุพวกนี้”
เจ้าสำนักหลีไอสองครั้ง ดึงสติของลู่ฝานกลับมา
ลู่ฝานตั้งสติได้ เขาขมวดคิ้วพูดว่า “เจ้าสำนักหลีมีความเห็นยังไง”
เจ้าสำนักหลียิ้มแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินว่าพาสัตว์อสูรอากาศธาตุไปได้ นายลองพาพวกมันไปด้วยสิ ถ้านายสยบสัตว์อสูรอากาศธาตุพวกนี้ได้ อีกทั้งยังทำให้พวกมันเชื่องได้อีก งั้นพละกำลังของเราจะเพิ่มขึ้นอีก!”
ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ กวักมือเรียกสัตว์อสูรอากาศธาตุพวกนี้เบาๆ
ทันใดนั้นในฝูงสัตว์อสูรอากาศธาตุเกิดความโกลาหลทันที หลังจากนั้นอนาคอนด้าอากาศธาตุที่จะเขมือบลู่ฝานเมื่อกี้โดนสัตว์อสูรอากาศธาตุตัวอื่นดันออกมา
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้อนาคอนด้าอากาศธาตุกลัวสุดๆ มันขยับเข้าไปใกล้ลู่ฝานทีละนิด ดูเก้ๆ กังๆ มาก!
ลู่ฝานถลึงตาใส่มัน อนาคอนด้าอากาศธาตุรีบเร่งความเร็วเข้ามาทันที
เมื่อมันอยู่ห่างจากลู่ฝานประมาณสามร้อยกว่าเมตร มันขดลำตัวของตัวเอง
ซ่อนหมอกควันสีดำ เมื่อมองดีๆ เหมือนดวงตามันกำลังวูบไหว
ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า “ยอมไปกับฉันไหม”
เมื่ออนาคอนด้าได้ยิน มันมองลู่ฝานอย่างสับสน เหมือนไม่เข้าใจว่าลู่ฝานหมายความว่ายังไง
จู่ๆ เจ้าสำนักหลีส่งเสียงคำรามเบาๆ ออกมา เขากำลังใช้ภาษาสัตว์อสูรคุยกับอนาคอนด้าอากาศธาตุ
อนาคอนด้าอากาศธาตุพยักหน้าก่อน จากนั้นส่ายหน้า แล้วก็ส่งเสียงคำรามออกมา
แต่เสียงของมันเบากว่า ถ้าไม่ตั้งใจฟังคงไม่ได้ยินเลย
เจ้าสำนักหลีถอนหายใจ “น่าเสียดาย สัตว์อสูรอากาศธาตุพวกนี้เกิดจากการหล่อเลี้ยงของที่นี่ ถ้าพวกมันออกจากอีกฟากฝั่งอากาศเวิ้งว้างจะอ่อนแอมาก สูญเสียการสนับสนุนของพลัง จากนั้นจะหายไปท่ามกลางอากาศเวิ้งว้าง”
ลู่ฝานถามว่า “มันบอกเจ้าสำนักเหรอ”
เจ้าสำนักหลีพยักหน้า “ใช่ ฉันรู้ภาษาของสัตว์อสูรอากาศธาตุอย่างหนึ่ง มันฟังออกพอดี เราเลยคุยกันได้ปกติ ลู่ฝาน มันบอกว่านายคือราชาแห่งฟ้าดิน นายรู้หรือเปล่าว่าหมายความว่าอะไร”
ลู่ฝานพูดอย่างประหลาดใจว่า “ราชาแห่งฟ้าดินเหรอ ฉันมีฉายาใหม่ตั้งแต่เมื่อไรอีกเนี่ย”
เจ้าสำนักหลียิ้มแล้วพูดว่า “ฉายานี้ดูดุดันกว่าเซียนบู๊ทะลวงชั้นฟ้าของนายอีกใช่ไหมล่ะ เหอะๆ นายไม่รู้ว่านี่หมายความว่าอะไรก็แปลกแล้ว ราชาแห่งฟ้าดิน ในภาษาของพวกสัตว์อสูรอากาศธาตุ เรียกว่าเป็นเทพวิญญาณก็ได้ อย่าบอกนะว่าสัตว์อสูรอากาศธาตุพวกนี้เห็นนายเป็นเทพวิญญาณแล้ว”
ลู่ฝานก้มหน้ามองตัวเอง “ฉัน เทพวิญญาณเหรอ เจ้าสำนักว่าเหมือนไหมล่ะ”
เจ้าสำนักหลีส่ายหน้า “แปลกๆ นายยังไม่ได้เป็นขุนพลังสุดเหนือฟ้าเลย จะเรียกว่าเทพวิญญาณได้ยังไง เฟิงเทียนทุ่มสุดตัวเอาฟ้าดินมาเดิมพัน สู้สุดชีวิต ก็เพิ่งมีคุณสมบัติเป็นเทพเอง นายยังห่างชั้นกับเฟิงเทียนมากโข”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักหลีไม่ค่อยเข้าใจ
ในใจลู่ฝานกลับคิดถึงคำว่าบ้านิรนาม
ตอนนี้เมื่อเขาเงยหน้ามองอีกครั้ง ตัวอักษรที่เขาเคยเห็นอย่างชัดเจนหายไปหมดแล้ว
ลู่ฝานไม่รู้จะอธิบายเรื่องมหัศจรรย์แบบนี้ให้คนอื่นฟังยังไงดี
แล้วบ้านิรนามคือใครกัน
เริ่นหยู่พูดขึ้นข้างๆ ประมุขประเทศตันเซิ่ง “อาจารย์ เกิดอะไรขึ้นกับลู่ฝานกันแน่ ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีคนใช้เสียงคำรามทำให้สัตว์อสูรอากาศธาตุหวาดกลัวได้เลยนะ”
ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดว่า “ฉันเคยได้ยิน แต่คนนั้นตายไปนานแล้ว”
“ใคร”
เริ่นหยู่ถามอย่างประหลาดใจ
ประมุขประเทศตันเซิ่งหันมามองเริ่นหยู่ แต่ไม่ได้ตอบ
หันหลังเดินไปนั่งลงข้างๆ ศึกษาวิธีที่ลู่ฝานให้เขาต่อ
เขารู้ว่าวิธีที่ลู่ฝานให้เขาต้องไม่สมบูรณ์แน่ๆ ถ้าเป็นเขาก็คงไม่ให้ทุกอย่างรวดเดียวหรอก
แต่ประมุขประเทศตันเซิ่งอาศัยวิทยายุทธอันแกร่งกล้าของตัวเอง กับประสบการณ์การฝึกฝนหลายปี เขาได้อะไรมานิดหน่อย
สิ่งนี้แม้แต่ลู่ฝานยังคิดไม่ถึง
ประมุขประเทศตันเซิ่งอาศัยเคล็ดลับที่เขาให้ เขาเจอเส้นทางอีกเส้นทางหนึ่ง รวมถึงพลังอีกอย่างหนึ่ง
แม้พลังนี้เทียบกับการฝึกทั้งบู๊และชี่โดยสมบูรณ์ของลู่ฝานไม่ได้ แต่ประมุขประเทศตันเซิ่งรู้สึกว่าพลังแห่งโลกของตัวเองมีการพัฒนาขึ้นอีกครั้ง
ถ้าเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ คิดว่าไม่นาน เขาอาจถึงระดับสามอริยบุคคลก็ได้
เป็นไปตามคาดจริงๆ เก็บตัวฝึกฝนเป็นร้อยปี เทียบไม่ได้กับการบรรลุโดยบังเอิญบนโลกเพียงครั้งเดียว
เมื่อฝึกฝนจนถึงระดับอย่างเขา จะให้ความสำคัญกับโอกาสและโชคชะตา
ทุกคนเดินทางต่อไปเรื่อยๆ เจ้าสำนักหลีพาลู่ฝานเข้ามาในสถานที่เปราะบางแห่งหนึ่งในอีกฟากฝั่งอากาศเวิ้งว้าง จากนั้นหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่พวกเขาไม่เห็นก็คือ ลึกลงไปในอีกฟากฝั่งอากาศเวิ้งว้าง มีเงาใครคนหนึ่งกำลังจับตาดูพวกเขาอยู่ในแสงเจ็ดสี
“ในที่สุดก็หลอมรวมเลือดแล้ว เจ้านาย ดูเหมือนคงเป็นครั้งนี้แหละ ลู่ฝานจะสืบทอดมรดกของเจ้านาย ทำลายผืนฟ้าแห่งนี้อย่างสมบูรณ์!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...