เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2140

หนึ่งวันหลังจากหอเทวาลัยแห่งประเทศเป่ยเสินล่มสลาย

นอกจากคนเก่าคนแก่หัวแข็งบางคนที่ไม่ยอมไปจากหอเทวาลัยแล้ว

ศิษย์กว่าเก้าจุดเก้าส่วนล้วนเดินทางลงเขากันไปจนหมด

สำหรับเรื่องนี้ทั่วทั้งประเทศเป่ยเสินเองก็ยังคงนิ่งเงียบ

ชาวบ้านชาวเมืองทั่วไปในประเทศเป่ยเสินไม่รู้เรื่องราวภายในและยิ่งไม่มีทางรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเขา

ส่วนราชวงศ์ประเทศเป่ยเสินและเหล่าข้าราชการชั้นสูงที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริง พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะผายลมด้วยซ้ำ

อริยบุคคลน้ำแข็งที่คอยปกป้องประเทศเป่ยเสินตายไปแล้ว เช่นนั้นผู้ใดจะกล้าตามไปฆ่าลู่ฝานเล่า?

ต่อให้พลิกทั้งแผ่นดินเป่ยเสิน เกรงว่าไม่น่าจะหาขุนพลังสุดเหนือฟ้าคนที่สองที่เหมือนกับอริยบุคคลน้ำแข็งได้อีกแล้ว

ต่อให้หาได้จริง ๆ เช่นนั้นขุนพลังสุดเหนือฟ้าผู้นี้จะเป็นคนโง่รึไง? ถึงจะยอมเอาชีวิตของตนเองไปเสี่ยงกับลู่ฝาน?

อุตส่าห์ฝึกมาถึงระดับขุนพลังสุดเหนือฟ้า เกรงว่าไม่น่าจะโง่ขนาดนั้น

สองวันผ่านไป หลังจากเหล่าผู้แข็งแกร่งจากนานาประเทศมั่นใจแล้วว่าลู่ฝานจากไปแล้วจริง ๆ พวกเขาก็พากันแยกย้ายออกจากประเทศเป่ยเสิน

การมาครั้งนี้ของพวกเขาช่างโชคไม่ดีจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขารับคำเชิญจากหอเทวาลัยแล้วมาที่นี่ด้วยความยินดี เตรียมตัวทำงานใหญ่กับอริยบุคคลน้ำแข็ง

ทว่ายังไม่ทันได้หารือผลลัพธ์ จู่ ๆ อริยบุคคลน้ำแข็งก็มาถูกลู่ฝานกำจัดไปเสียก่อน

จากนั้นทั่วทั้งหอเทวาลัยก็พังทลายลง เกรงว่าคงไม่อาจฟื้นคืนได้ในเร็ววันแน่

พวกเขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ การปรากฏตัวของลู่ฝานถือเป็นการเตือนสติพวกเขาด้วยเช่นกัน

ใต้หล้านี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่พวกเขาคิด หากเที่ยวก่อเรื่องไปทั่วล่ะก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย

ดังนั้นคนเหล่านี้ ยามมาอย่างอาจหาญ ส่วนยามกลับก็กลับคอตกไปตาม ๆ กัน ทั้งยังถ่อมตนเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งคำพูดสักคำก็ไม่มี

ครั้งนี้สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

คำพูดที่ลู่ฝานเอ่ยก่อนจากไปหลายคนต่างก็ได้ยิน

แม้ลู่ฝานจะเอ่ยด้วยท่าทางที่นิ่งสงบ ทว่าคนส่วนใหญ่ล้วนคิดว่านี่เป็นคำขู่อย่างหนึ่ง

นอกจากนี้ลู่ฝานยังมีเหตุผลมากพอที่จะเอ่ยข่มขู่พวกเขาจริง ๆ

พวกเขาทั้งไม่กล้าหนีและไม่กล้ากลับไป

ดังนั้นคนเกือบทั้งหมดจึงพากันออกเดินทางไปประเทศตันเซิ่งพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ในประเทศตันเซิ่งคือสิ่งใดไม่มีใครรู้ แต่ความจริงแล้วในใจทุกคนต่างก็ยังมีคำถามอยู่เล็กน้อย

ลู่ฝานแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่ามาถึงประเทศเป่ยเสินแล้วเขาจะฆ่าอริยบุคคลน้ำแข็งเพียงคนเดียว แม้แต่ศิษย์ของหอเทวาลัย เขาก็จัดการแค่คนที่กล้าลงมือกับเขา

พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าลู่ฝานผู้นี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น มีแค้นต้องชำระ ฆ่าศัตรูอย่างไร้ความปรานี

เจ้าสำนักหลีฟาดมือลงบนขาพร้อมกับเอ่ยชม

ด้านข้างหลีเหรินหลงรินชาให้เจ้าสำนักหลีหนึ่งถ้วย ก่อนจะส่งให้ประมุขประเทศตันเซิ่งอีกหนึ่งถ้วย

ประมุขประเทศตันเซิ่งที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ลู่ฝานคงกำลังสร้างอำนาจให้ตนเองอยู่ล่ะสิ ยามนี้ชื่อเสียงของเขาทั่วทั้งแดนตะวันออกเกือบจะตามทันฉันอยู่แล้ว ที่แท้ก็มีใจทะเยอทะยานอยู่ไม่น้อย!”

เจ้าสำนักหลีส่ายหน้าพร้อมตอบกลับ “ประมุขประเทศตันเซิ่ง ท่านยังไม่รู้จักลู่ฝานผู้นี้มากพอ จากที่ฉันดู คนอย่างลู่ฝานไม่ทำอะไรแบบที่ท่านกำลังคิดแน่นอน เขามักจะทำในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้องเสมอ จะต้องทำแบบไหน ไปมายังไง ก่อนเริ่มก็วางแผนสักเล็กน้อย หลังจากนั้นค่อยปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ การต่อสู้ที่ประเทศเป่ยเสินครั้งนี้ ฉันว่าเป็นไปได้ถึงแปดส่วนที่คนของประเทศเป่ยเสินหาเรื่องใส่ตัว เข้ามารังแกลู่ฝานถึงที่เอง ดังนั้นลู่ฝานถึงตามไปจัดการพวกเขา เมื่อเห็นว่าการกำจัดทิ้งมีข้อดีอยู่ไม่น้อย จึงทำทุกอย่างทั้งหมดในคราวเดียว”

เจ้าสำนักหลีอธิบายความคิดของลู่ฝานออกมาอย่างชัดเจนพร้อมรอยยิ้ม

ประมุขประเทศตันเซิ่งจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “เจ้าสำนักหลี คุณคิดว่าเขาไม่ได้มีใจทะเยอทะยานคิดจะควบรวมแดนตะวันออกงั้นเหรอ?”

เจ้าสำนักหลีจึงเอ่ยขึ้น “เรื่องนี้ว่าไม่ได้ บางทีก็อาจจะมีหรือบางทีเขาก็อาจจะไม่เคยคิดถึงมันเลย ไม่รู้ว่าท่านดูออกรึไม่ จริง ๆ แล้วลู่ฝานไม่ใช่คนที่มีการใหญ่อยู่ในหัว เขาเป็นพวกที่ค่อย ๆ คิดค่อย ๆ ทำทีละขั้นตอนมากกว่า”

ประมุขประเทศตันเซิ่งยิ้มเยาะก่อนจะเอ่ยต่อ “คนที่ไม่มีการใหญ่ในหัวเช่นนี้ เจ้าสำนักหลียังตั้งใจที่จะสนับสนุนเขาอย่างเต็มกำลังอีกงั้นเหรอ? เจ้าสำนักหลี ความจริงแล้วคุณไม่คิดว่าการให้ฉันขึ้นเป็นผู้นำของแดนตะวันออก จากนั้นก็นำทั้งแดนตะวันออกไปรบกับผู้ฝึกชั่วร้ายให้ตายกันไปข้าง แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ?”

เจ้าสำนักหลีส่ายหน้าพร้อมตอบกลับ “ประมุขประเทศตันเซิ่ง ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยคิดแบบนี้ เพียงแต่เรื่องเช่นนี้ ไม่ว่าท่านหรือฉันต่างก็ทำไม่ได้ ฐานะของพวกเราสองคนถูกกำหนดไว้แล้ว ท่านคือประมุขประเทศตันเซิ่ง ทั้งยังมีเจดีย์ยาอยู่ในมือ เป็นตัวแทนของพลังอำนาจอันแข็งแกร่งทั้งสองฝั่ง ส่วนฉันก็เป็นเจ้าสำนักหอฝึกสัตว์ หากพวกเราคนใดคนหนึ่งคิดที่จะขึ้นเป็นผู้นำแดนตะวันออกล้วนไม่เป็นผลดี เพราะฐานะผู้นำแดนตะวันออกที่ผู้อื่นหวาดกลัวนั้นไม่จีรัง ท่านเข้าใจความหมายของฉันไหม?”

ประมุขประเทศตันเซิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีก “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ หากให้ลู่ฝานทำคนอื่น ๆ ก็จะไม่รู้สึกถึงการถูกกดขี่ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าต่อให้ลู่ฝานเก่งกาจเพียงใดแต่เขาก็แค่ตัวคนเดียว ยามนี้ทุกคนผลักดันเขา ให้เขาต่อกรกับผู้ฝึกชั่วร้ายเพียงชั่วคราว หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนท่าทีทีหลัง เพราะตัวลู่ฝานไม่ได้มีอำนาจใด ๆ อยู่ในมือ เขาไม่สามารถทำถึงขนาดควบรวมแดนตะวันออกได้จริง ๆ ส่วนสำนักจิ่วเซียวอะไรนั่นก็มีแค่ชื่อเท่านั้น ยามโอ้อวดก็พอใช้ได้ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ช่างเถอะ”

เจ้าสำนักหลียิ้มพร้อมตอบกลับ “ถูกต้อง เช่นนี้ทุกคนถึงจะสนับสนุนเขา ท่านกับฉันก็สามารถสนับสนุนเขาได้อย่างเต็มกำลัง ทั่วทั้งแดนตะวันออกก็สามารถร่วมมือกันได้ชั่วคราว ทั้งยังไม่ต้องแตกคอกันเรื่องแย่งชิงอำนาจ ประมุขประเทศตันเซิ่ง สิ่งที่พวกเราจำเป็นต้องทำในตอนนี้คือการผลักดันลู่ฝานขึ้นไป ทำให้อำนาจของแดนตะวันออกทั้งหมดรวมกันให้ได้เสียก่อน ฟังฉันสักคำ อย่าเพิ่งฆ่าพวกโง่เง่าเหล่านั้น ส่งจดหมายเชิญพวกเขาในนามลู่ฝาน ภายในครึ่งปีนี้ให้แต่ละประเทศในแดนตะวันออกมารวมกันที่ประเทศตันเชิ่งเพื่อจัดทำพันธมิตรให้สมบูรณ์ นี่ถึงจะเป็นภารกิจเร่งด่วน!”

ประมุขประเทศตันเซิ่งนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ สุดท้ายก็พยักหน้ารับช้า ๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า