ได้ยินชื่อของหลิงเหยา ฉับพลันใบหน้าของลู่ฝานก็ถอดสี
“แกว่าอะไรนะ?”
ลู่ฝานมองไปที่ผีวิญญาณถูกผูกพันด้วยสีหน้าเข้มขรึง
ในดวงตานั้น ปรากฏรังสีบางอย่าง ผีวิญญาณถูกผูกพันรู้สึกถึงพลังที่น่ากลัวทันที เป็นพลังที่มีอำนาจบีบบังคับมันไว้
ตอนนี้ลู่ฝานเผลอใช้พลังวิญญาณของตนเองโดยไม่รู้ตัว
สำหรับการมีชีวิตอยู่ของผีวิญญาณถูกผูกพัน เห็นได้ชัดว่าพลังวิญญาณเป็นวิธีการโจมตีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เมื่อรู้สึกได้ถึงภัยอันตรายต่อชีวิต ผีวิญญาณถูกผูกพันจะไม่หวาดกลัวได้อย่างไร
“แกบอกว่า ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม?”
ผีวิญญาณถูกผูกพันตอบรับด้วยอาการสั่นสะท้าน
ลู่ฝานเอ่ยว่า “ไม่ใช่ประโยคนี้ ที่แกเพิ่งพูดว่าอะไรนะ เทวทูตฝ่ายซ้ายหลิงเหยา?”
ผีวิญญาณถูกผูกพันพยักหน้าตอบ “ใช่แล้ว เทวทูตฝ่ายซ้ายหลิงเหยา เทวทูตฝ่ายขวาหลิงต้งที่มีขีดจำกัดพลังศักดิ์สิทธิ์ภายใต้เทพวิญญาณ ควบคุมฟ้าปกป้องดินและพลังเต๋าไร้ขอบเขต!”
ลู่ฝานพลันส่งเสียงหัวเราะออกมา หัวเราะไม่ขาดสาย ทั้งยังส่ายหัวไปพร้อมกับหัวเราะอีกด้วย
ความเป็นมาของหลิงเหยาช่างยิ่งใหญ่นัก
ในตอนแรก คุณย่าเฉียนยังบอกว่าหลิงเหยานั้นเกิดมาจากครอบครัวที่ยากจน กลัวว่าจะไม่คู่ควรกับเขา
ดูจากตอนนี้แล้ว ต้องบอกว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างเขาไม่คู่ควรกับหลิงเหยาจึงจะถูก
ผู้อาวุโสใหญ่ที่อยู่ข้างๆสังเกตเห็นถึงความผิดแผก จึงเอ่ยกับลู่ฝานว่า “อะไรกัน เจ้าสำนักลู่ คุณก็รู้จักเทวทูตฝ่ายซ้ายหลินเหยาด้วยเหรอ?”
ลู่ฝานเอ่ยว่า “ฉันไม่ใช่แค่รู้จักเธอหรอก แต่ฉันยังต้องตามหาเธอให้เจอด้วย!”
ได้ยินคําพูดของลู่ฝาน ผู้อาวุโสใหญ่ก็มีสีหน้าประหลาดใจ ไอ้บอดหลัวก็รีบถามทันที
“เดี๋ยวก่อน เจ้าสำนักลู่ คุณจะตามหาเธอเหรอ เธอตายไปหลายปีแล้ว คุณจะหาเธอพบได้อย่างไร แล้วคุณรู้จักเธอได้อย่างไร ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม”
ลู่ฝานหันมามองผู้อาวุโสใหญ่แวบหนึ่งแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสใหญ่ คุณสามารถละทิ้งความทรงจำและนิพพานเกิดใหม่ได้ ผู้อาวุโสหลัวคุณก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายปี แล้วทำไมหลิงเหยาจะต้องตายล่ะ ทูตแห่งเทพในใต้หล้า จะตายหมดแล้วจริง ๆ หรือ? หลายปีที่ผ่านมา ทุกคนไม่เคยได้ยินคนอย่างอริยบุคคลโดยกำเนิดหรือ? ไม่เคยได้ยินถึงเรื่องราวการมีอยู่ของธิดาเทพสูงศักดิ์หรือ?”
ทุกคำของลู่ฝานเป็นเหมือนกระบี่ทิ่มแทงกายของผู้อาวุโสใหญ่และไอ้บอดหลัว
ทันทีทันใด ทั้งสองก็มีหน้าตาเปลี่ยนไปอย่างดุดัน
ผู้อาวุโสใหญ่กัดฟันแล้วพูดว่า “พูดแบบนี้ แสดงว่าคิดว่าหลิงเหยายังไม่ตายจริง ๆ หรือ?”
ลู่ฝานหันกลับมามองที่ผู้อาวุโสก่อนกล่าวว่า “เธอเป็นของฉัน หากต้องรับมือก็ให้เป็นฉันที่รับมือ ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสหลัว ใช่ว่าฉันอยากจะขู่พวกคุณ ถ้าหากวันหนึ่งเจอหลิงเหยาจริง ๆ ขอพวกคุณอย่าลงมือดีกว่า”
ผู้อาวุโสใหญ่ส่งเสียงครวญเย็นชา แต่ไม่ได้ตกปากรับคำใดๆ
ไอ้บอดหลัวเองก็ตบเข้าที่หน้าที่ของผีวิญญาณถูกผูกพันแล้วพูดว่า “พูดต่อสิ แกรู้อะไรอีก?”
ผีวิญญาณถูกผูกพันอยากร้องไห้ไม่มีน้ำตาจริง ๆ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ๆ ตนก็ถูกตบซ้ำอีกแล้ว
ผีวิญญาณถูกผูกพันสะอึกสะอื้นก่อนเอ่ยว่า “ท่านอยากรู้อะไรอีกเล่า?”
ไอ้บอดหลัวถามเสียงดังว่า “บอกฉันสิ เทพบู๊เสินเซียวทิ้งสิ่งใดไว้ในเขตแห่งความยุ่งเหยิงหรือไม่ ในเขตแห่งความยุ่งเหยิงเมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ข้างนอกถึงหนีไปและทำไมระหว่างทางที่เข้ามาจึงเห็นร่องรอยของพื้นที่ที่มีคนเคยเดินผ่าน?”
คำถามมากมายของไอ้บอดหลัวทำให้ผีวิญญาณถูกผูกพันสับสนงงงวยไปหมดแล้ว
ตัวมันนั้นเป็นเพียงผีวิญญาณถูกผูกพันตัวเล็กๆเท่านั้น ทั้งยังถูกทุบทำลายไปครึ่งร่าง จะไปรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างไร
ในขณะที่ผีวิญญาณถูกผูกพันไม่รู้จะตอบอย่างไร ทันใดนั้น แสงในห้องทั้งห้องก็มืดลงทันที
ตำหนักที่เคยเป็นดังสีขาวสว่าง กลายเป็นสีดำในพริบตา
โลกทั้งใบก็พลันเงียบเชียบลงทันที
ลู่ฝานชักกระบี่หนักไร้คมออกมาทันทีและกําไว้ในมือแน่น
สัตว์อสูรทั้งสี่มีพลังที่สามารถทำลายล้างทั้งฟ้าดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นตุ้นที่ลึกลับที่สุดและชื่อแปลกประหลาดที่สุด ทั้งยังไม่มีใครเคยได้ยินว่าแท้จริงแล้วมันแข็งแกร่งได้มากขนาดไหน
เพราะคนที่เคยเห็นหุ้นตุ้นลงมือแสดงพลังจริง ๆ นั้นต่างพากันตายหมดแล้ว
ชื่อของสัตว์อสูรนี้เหมือนกับหุ้นตุ้นที่ลู่ฝานครอบครองอยู่ และเหตุผลที่ได้ชื่อเช่นนี้มา ก็เพราะว่ากันว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้เกิดในใจกลางของหุ้นตุ้น
เมื่อหุ้นตุ้นนั้นยังคงเป็นกลุ่มพลัง สัตว์ตัวนี้ก็เริ่มแข็งตัว มันเป็นร่างอวตารของหุ้นตุ้น และ ณ ที่นี่ มันก็ยังเป็นสิ่งยังมีชีวิตที่อยู่ยงคงกระพัน
ตูม!
ปราณแห่งหุ้นตุ้นอันน่ากลัว เกิดระเบิดในทันทีทันใด
ผู้อาวุโสใหญ่กับไอ้บอดหลัว ต่างก็สั่นสะเทือนจนตัวปลิวไปในชั่วพริบตา ลู่ฝานจึงได้ทุบเสายักษ์หลายต้นในตำหนัก
พลังที่น่าหวั่นเกรง ปราณชี่ที่น่าหวั่นกลัว
สัตว์อสูรตัวนี้ช่างแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้น ลู่ฝานก็รู้สึกได้ถึงปราณแห่งหุ้นตุ้นทั้งหมดที่กําลังไหลไปรวมตัวกันกับมันโดยปราศจากแรงต้านทานใดๆทั้งสิ้น
ลู่ฝานต้องพึ่งหัวใจปีศาจสวรรค์ของตนเอง เค้นเอาปราณหุ้นตุ้นเล็กน้อยในกายที่ไม่แม้แต่จะสามารถป้องกันอะไรได้
เสียงของไอ้บอดหลัวดังขึ้น
“เหลียงหลง ไปเร็ว ในที่แห่งนี้ พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสี่สัตว์อสูรแน่ พวกมันอยู่ที่นี่ ฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย!”
ไอ้บอดหลัวพูดให้มีความหวังที่จะหนี
แต่ผู้อาวุโสใหญ่ก็ลุกขึ้นทันที มือพิฆาตชี้นิ้วหนึ่งขึ้นมา ก่อนพูดเสียงดังว่า “ใต้หล้านี้จะไม่มีสิ่งใดที่ฆ่าไม่ตาย ไอ้บอดหลัว นายพาลู่ฝานออกไปก่อน ฉันจะจัดการพวกปลาที่มันเล็ดลอดจากอวนนี้ หอกมังกรคำราม!”
ผู้อาวุโสใหญ่ที่พลังกำลังพลุ่งพล่านทั่วสรรพางค์กาย ก็ได้พุ่งชนไปที่สัตว์อสูรหุ้นตุ้น
ไอ้บอดหลัวตบต้นขาและถอนหายใจ หันไปตะโกนบอกลู่ฝานว่า “เจ้าสำนักลู่ งั้นเราไปกันเถอะ เอ๊ะ เจ้าสำนักลู่!”
ไอ้บอดหลัวมีอาการหวั่นสะเทือนโดยฉับพลัน ลู่ฝานหายตัวไปได้อย่างไร!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...