หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 2244

ชิงเฟิงอู๋หยามองไปที่ใบหน้าที่ละอ่อนและมุ่งมั่นของหลินมั่ว ก่อนจะมองไปที่ท่าทางจริงจังของเนี่ยคงหมิง

เขาอดไม่ได้ที่จะกังวลใจขึ้นมา

“ผู้อาวุโสเนี่ย ทำเช่นนี้มันดูไม่เหมาะสมหรือเปล่า?”

“ไม่เป็นไร ๆ ให้คนหนุ่มสาวลองดูซะหน่อยเถอะ”

เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสเนี่ยมีท่าทีที่แน่วแน่ หลายคนรู้นิสัยของเขาดี เมื่อได้ตัดสินใจเรื่องใดไปแล้วต่อให้เอาวัวมาลากก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจได้

จึงไม่ได้พยายามพูดโน้มน้าวอะไรอีก เมื่อรอให้ทุกคนออกจากห้องไปแล้ว สามเณรน้อยกลับยืนอยู่ที่นั่นเหมือนเดิมไม่ไปไหน

“เณรน้อย คุณควรออกไปได้แล้ว”

เมื่อมองไปที่หลินมั่วที่กำลังเอ่ยเตือนด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ สามเณรน้อยกลับยกทั้งสองมือขึ้นพนมมือพร้อมกับทำสีหน้านิ่งเฉย

“โยมหลิน จุดประสงค์ที่อาจารย์ให้อาตมาลงมาจากภูเขาก็เพื่อขจัดความเจ็บปวดและความยากลำบากทั้งปวงในโลกนี้และไวรัส “ซอมบี้” นี้คือหายนะของโลก อาตมายินดีจะอยู่เป็นเพื่อนโยมหลิน และเต็มใจที่จะเดินทางไปพบพญายมด้วยกัน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินมั่วก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นและส่ายหัวให้

“คิดไม่ถึงว่าเณรน้อยอย่างคุณ จะมองได้อย่างทะลุปรุโปร่งขนาดนี้”

“โยมหลินชื่นชมเกินไปแล้ว! โยมหลินคุณอย่าได้คิดจะให้อาตมาออกไปเลย ไม่เช่นนั้นอาตมาจะบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่โยมหลินคิดจะยอมเสี่ยงตาย”

“เณรน้อย คุณเริ่มเรียนแต่สิ่งที่ไม่ดีมาแล้วนะ คนที่ออกบวชแล้ว ทำไมถึงมาพูดจาข่มขู่คนอื่นได้ล่ะ”

พูดเสร็จหลินมั่วก็ทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัวให้ คิดไม่ถึงว่าความคิดที่ตัวเองแอบซ่อนเอาไว้ลึกสุดขนาดนั้น กลับถูกเณรน้อยมองออกเสียได้

“ในสถานการณ์ที่พิเศษ ย่อมต้องใช้วิธีที่ไม่ธรรมดา หวังว่าโยมหลินจะยกโทษให้”

รอจนกระทั่งบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนจบลง ทุกคนที่เดินออกไปนอกห้องก็พบว่ามีอะไรผิดปกติไปเช่นกัน เพียงแต่พอพวกเขาจะหันกลับมา หลินมั่วที่อยู่ข้างหลังก็ก้าวเดินเข้ามาอย่างมุ่งมั่นและล็อกประตูกระจกกันกระสุนของห้องเอาไว้

พูดจบหลินมั่วก็สะบัดมือข้างขวาหนึ่งที และเข็มเงินทั้งชุดก็กางออกมาอยู่ตรงหน้า ในเวลานี้ตู้จี๋ก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรไป

เขาเพียงแค่ถอดชุดกันเชื้อโรคออกอย่างเงียบ ๆ และเดินมายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของหลินมั่ว

“โยมหลิน อาตมารู้ดีว่าฝีมือการรักษาของตัวเองยังดีไม่เท่าคุณ แต่ให้เป็นลูกมือน่าจะพอได้อยู่“

เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว หลินมั่วก็จนปัญญากับสามเณรผู้ดื้อรั้นคนนี้แล้ว เขาทำเพียงปล่อยให้อีกฝ่ายคอยช่วยอยู่ข้าง ๆ

หลังจากหลินมั่วเริ่มลงมือ ดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ แสดงออกให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ผสมปนเปกับความรู้สึกเป็นอิสระขึ้นมา

ความรู้ทางการแพทย์เป็นความรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะโรคภัยไข้เจ็บก็มีไม่มีวันสิ้นสุดเช่นกัน แม้จะมีทักษะทางการแพทย์ที่สืบทอดมาจากหมอเทวดาศักดิ์สิทธิ์หลินฉงเซวียน แต่หลินมั่วเองก็ไม่มั่นใจนักว่าเขาจะค้นหาสาเหตุของการติดเชื้อไวรัสนี้ได้หรือไม่

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะรักษาเลย หากแม้แต่เขายังไม่สามารถหาวิธีที่จะค้นพาสาเหตุของไวรัสได้ งั้นคงไม่ได้มีแค่ประเทศจีนเพียงเท่านั้น หรือบางทีทั่วทั้งโลกอาจจะต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่นี้

ในขณะที่กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ เขาก็รวมพลังจิตวิญญาณของเขามาไว้ที่ฝ่ามือ ภายใต้เงาที่วิบวับไปมา เข็มเงินก็ฝังเข็มเข้าไปยังจุดต่าง ๆ ของร่างกายผู้ติดเชื้อเรียบร้อยแล้ว