“คุณเฉินครับจริงๆแล้วผมละอายใจจริงๆ ผมช่วยอะไรไม่ได้เลย!” หลี่โส่วอี้พูดอย่างผะอืดผะอมจนพูดชื่อเฉินผิงถูกๆ ผิดๆ ไปหมด
“คุณมาก็ถือว่าช่วยแล้วล่ะครับ”
เฉินผิงไม่ได้ตำหนิหลี่โส่วอี้ที่ไม่ได้ทำอะไร อย่างไรก็ตามการเผชิญหน้ากับจอมเวทย์อย่างผู้ลาดตระเวนด้านซ้ายของหุบเขาซวนเยว่ถึงเขาจะพาหน่วยพิทักษ์ธรรมเข้าไปช่วยยังไงผลลัพธ์ก็คือเหมือนไปตายฟรี
“คุณเฉินครับคือผมมีความคิดที่อยากจะชวนคุณเฉินเข้าร่วมหน่วยพิทักษ์ธรรมครับ แต่ไม่รู้ว่าคุณเฉินจะมองว่ามันไร้สาระหรือเปล่าครับ ถ้าคุณเฉินเข้าร่วมหน่วยพิทักษ์ธรรมแล้วได้เมื่อถึงเวลานั้นผมจะให้คุณเฉินเป็นรองหัวหน้าหน่วยครับ"
หลี่โส่วอี้กำลังวางแผนที่จะดึงเฉินผิงเข้าร่วมกับหน่วยพิทักษ์ธรรมให้ได้ เพราะถ้าหน่วยมีคนอย่างเขาล่ะก็ หน่วยพิทักษ์ธรรมก็จะมีหน้ามีตามากขึ้น แม้แต่ตระกูลศิลปะการต่อสู้พวกนั้นก็ยังไม่กล้าลองดีกับพวกเรา
“ผมยังมีหลายอย่างที่ต้องทำครับ ขอบคุณคุณหลี่มากเลยนะครับสำหรับความกรุณาของคุณ!”
เฉินผิงส่ายหัว เขาจะไม่เข้าร่วมหน่วยพิทักษ์ธรรม เพราะองค์กรทางการแบบนี้มีกฎมากเกินไป!
“คุณเฉินครับถ้าคุณคิดว่าตำแหน่งของคุณมันต่ำเกินไป ผมให้ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยกับคุณก็ได้ครับ แล้วผมจะเป็นรองหัวหน้าหน่วยช่วยคุณปกครองเองครับ”
หลี่โส่วอี้รีบพูดอย่างไม่รีรอ
เฉินผิงส่ายหัว “คุณหลี่ครับผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วครับ ผมมีเรื่องส่วนตัวมากมายที่ต้องจัดการ ผมไม่สามารถที่จะเข้าร่วมหน่วยพิทักษ์ธรรมของคุณได้จริงๆ ครับ แต่ถ้าคุณหลี่หรือหน่วยพิทักษ์ธรรมต้องการความช่วยเหลือเมื่อไหร่ ผมสามารถช่วยได้ครับ”
เมื่อหลี่โสว้อี้ได้ยินแบบนี้เขาก็มีความสุขมาก “ขอบคุณคุณเฉินมากนะครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเฉินเรียกใช้หน่วยพิทักษะธรรมของเรา ผมก็จะไม่ปฏิเสธเหมือนกันครับ”
หลังจากพูดคุยกับหลี่โสว้อี้อยู่พักหนึ่ง เฉินผิงก็เดินจากไปและเขาก็ตรงไปที่กู่หลิงเอ๋อร์พักอยู่
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาที่เขาเข้าฌาน ซูอวี่ฉีก็ตัวติดกับกู่หลิงเอ๋อร์ตลอด
เมื่อมาถึง เฉินผิงพบว่าประตูถูกล็อกอยู่และทั้งสองคนไม่อยู่บ้าน เขาเลยโทรหาพวกเขาและหลังจากรู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนอยู่ที่ไหน เฉินผิงก็รีบตรงไปหาพวกเขาทันที!
ที่แท้แล้วกู่หลิงเอ๋อร์กับซูอวี่ฉีพวกเขาทั้งสองคนไปช็อปปิ้งทุกวัน และวันนี้ก็ไม่ต่างจากเดิม พวกเขากำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ในตลาด!
“เฉินผิง...”
หลังจากที่ซูอวี่ฉีเธอเห็นเฉินผิงเธอก็โบกมือให้เขาอย่างไว
เมื่อกู่หลิงเอ๋อร์ได้ยินสิ่งนี้ หน้าของเธอแดงขึ้นไปอีก เธอก็จ้องไปที่ซูอวี่ฉี “หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว พูดแบบนี้เขาดีใจตายแล้วแหละ”
เมื่อได้ยินที่ซูอวี่ฉีพูดแล้ว เฉินผิงก็รู้สึกพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง เขาทำได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อน
“คุณหัวเราะอะไร ฉันก็แค่ล้อเล่น หรือคุณคิดจริง?”
เมื่อเห็นเฉินผิงหัวเราะ ซูอวี่ฉีก็เลยถามเฉินผิงตรงๆ
“ผมเชื่อฟังคุณครับ” เฉินผิงไม่ได้ตอบคำถามของซูอวี่ฉีตรงๆ แต่เขาหลบเลี่ยงอย่างชาญฉลาด แบบนี้ทำให้ซูอวี่ฉีพอใจมาก
แน่นอนว่าหลังจากได้ยินสิ่งที่เฉินผิงพูด ซูอวี่ฉีก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “ไปกันเถอะ ฉันจะพาคุณไปเดินเล่น”
พวกเขาทั้งสามคนเดินเล่นไปรอบๆ ตลาด เนื่องจากพวกเขาไม่เคยไปตลาดในเมืองเลย เฉินผิงรู้สึกว่ามันยังใหม่สำหรับเขา ตลาดนี้ใหญ่มากและมีของขายแทบทุกอย่างในตลาด และยังเป็นที่เดินเล่นเล่นสนุกได้อีกด้วย
เมื่อพวกเขาทั้งสามเดินไปถึงที่มุมถนน พวกเขาเห็นกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมรอบที่นั่นและตะโกนเสียงดังโดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
8เหรียญเท่ากับกี่บาท...
ไม่มีบีตรเครดิตก็ต้องรออ่านแบบฟรี รอนานหน่อย...
กำลังสนุกเลย ไปไหนแล้ว รีบกลับมานะคะรับ...
รอจะอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้อ่าน แต่ไม่เป็นไรครับเราไม่ได้อ่านคุณก็ไม่ได้รายได้...
ไม่มีตอน 3867-3871 ครับ...
เกินเดือนละ...
รออยู่นะครับ...
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...