หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี นิยาย บท 163

"ลูกเข้าใจเพคะ"

เซี่ยเชียนฮวันกล่าวอย่างมีเหตุมีผล ก่อนจะเข้าไปคุกเข่าคารวะและใช้ศีรษะคำนับฮ่องเต้อยู่หลายหน เหอกงกงผู้ดูแลใหญ่เห็นดังนั้นก็ต้องตกตะลึง

แม่นางผู้นี้มีความสามารถยอดเยี่ยมนัก

จากประสบการณ์ที่เหอกงกงอยู่รับใช้ข้างกายฮ่องเต้มาเนิ่นนานหลายปี ผู้ที่มักแก้ตัวอยู่เสมอท้ายที่สุดแล้วมีแต่จะทำให้ฮ่องเต้ทรงโกรธมากขึ้น สู้ยอมรับออกมาโดยตรงเสียดีกว่า

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นเซี่ยเชียนฮวันยอมรับความผิดอย่างตรงไปตรงมา สายพระเนตรก็เผยถึงรอยยิ้ม

แต่สีพระพักตร์ยังคงเคร่งขรึมจริงจัง "สตรีควรให้ความสำคัญกับชื่อเสียงความบริสุทธิ์ของตน จากนี้อย่าได้ให้เจ้าเจ็ดมากระทำตามอำเภอใจ"

"ลูกเข้าใจแล้ว...เพคะ..."

จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็รู้สึกจุกเจ็บในท้องอย่างแรง!

ความเจ็บนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้นางสีหน้าซีดเผือดไม่อาจส่งท่าคุกเข่าได้อีกต่อไป นางล้มลงกับพื้นเอามือกุมท้อง

"เจ้าเป็นอะไร?"

เซียวเย่หลันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบเข้าไปพยุงนาง

เดิมทีคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันเพียงแค่แสดงละครออกมา จวบจนกระทั่งนางหน้าซีดเซียว ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาจึงเปลี่ยนสีเช่นกัน

ฮ่องเต้ประทับอยู่บนพระที่นั่งมังกร รีบเรียกให้เหอกงกงเข้ามา กระซิบถามว่า "นางเป็นอะไรไป? เจตนาแกล้งเจ็บป่วยเพราะไม่อยากฟังคำข้าสั่งสอนงั้นหรือ?"

"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมองแล้วคิดว่าไม่ใช่" เหอกงกงส่ายหน้า พระชายาจ้างอ๋องอาจจะตกใจมากเกินไปจนส่งผลต่อทารกในครรภ์"

“โอ้หลานของข้า!"

ฮ่องเต้ยกมือสัมผัสหน้าผากของตนแล้วรีบลุกขึ้นยืน เดินไปทางเซี่ยเชียนฮวันเพื่อดูว่านางเป็นอะไรหรือไม่ ก่อนจะโบกพระหัตถ์ขึ้นตรัสว่า "รีบตามหมอหลวงเข้ามา!"

บัดนี้เซี่ยเชียนฮวันอยู่ในอ้อมกอดของเซียวเย่หลัน

ยังคงมีกลิ่นเลือดจาๆ ติดอยู่ที่ร่างกายของชายหนุ่ม

เพียงแต่ว่ากลิ่นนี่ไม่ทำให้นางรู้สึกรังเกียจเหมือนเมื่อก่อน

ตรงกันข้าม นางรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก

ฮ่องเต้ส่ายพระพักตร์แล้วถอนหายใจ "เจ้าเจ็ด ภรรยาของเจ้ากระโดดโลดเต้นไม่เว้นแต่ละวัน ไม่เคยอยู่กับที่ ทำเอาเสียข้าลืมแล้วว่านางตั้งครรภ์อยู่"

"นางอาจเสียสติไป"

เซียวเย่หลันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา

เดิมทีลูกในท้องของนางก็เป็นลูกของชายคนอื่น...เขาไม่จำเป็นต้องสนใจอะไร

เขาคิดเช่นนั้น แต่มือข้างซ้ายของตนก็ใช้แรงบีบไหล่ของเซี่ยเชียนฮวันเอาไว้

เนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินคับขัน เซี่ยเชียนฮวันจึงได้รับอนุญาตให้นอนพักอยู่บนเก้าอี้มังกรของฮ่องเต้ และให้หมอหลวงเข้ามาจับชีพจร

หมอหลวงตรวจดูเอาชีพจรของนางเสร็จแล้ว ก็ยกมือขึ้นลูบคลำเคราของตน กล่าวกับเหอกงกงว่า "พระชายาอ๋องเพียงแค่เห็นเลือดจึงทำให้เป็นลม ส่งผลกระทบให้ปวดท้อง พักผ่อนเพียงสักพัก ดื่มสมุนไพรเพื่อผ่อนคลายสักถ้วยก็ดีขึ้น"

เซี่ยเชียนฮวันหลับตาลง นางได้ยินบทสนทนาระหว่างหมอหลวงและฮ่องเต้

"เสด็จพ่อเล่า?"

"ฝ่าบาทต้องการพักผ่อน แต่ก็กลัวจะมีคนเข้ามารบกวนจึงเสด็จไปหากุ้ยเฟยเหนียงเหนียงพ่ะย่ะค่ะ" ขันทีน้อยยิ้มขึ้นอย่างไร้เดียงสา "กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงใจเย็น ต่อให้มีเรื่องใหญ่เพียงใดนางก็จัดการได้”

เซี่ยเชียนฮวันครุ่นคิดแล้วรู้สึกว่า ปกติฮ่องเต้ดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องในวังหลัง แท้จริงแล้วทรงรู้ลักษณะนิสัยของเหล่าสนมเป็นอย่างดี

บางทีเฉิงกุ้ยเฟยอาจได้รับการอนุญาตเป็นนัยๆ จากเขา จึงกล้าดำเนินการกับเหล่านางในที่ตั้งครรภ์

เพราะสนมบางคน ฮ่องเต้ไม่ต้องการให้พวกนางมีโอรส

มองจากภายนอก เขาเป็นองค์ราชันที่สูงส่ง และปล่อยให้เฉิงกุ้ยเฟยทำงานสกปรกเหล่านี้อยู่เบื้องหลัง

นี่คือวิถีของกษัตริย์หรือ?

ยิ่งเซี่ยเชียนฮวันรุ่นคิดถึงเรื่องนี้นางก็เย็นวาบที่สันหลัง

"เจ้าร้องเพลงเป็นหรือไม่ ร้องเพลงให้ข้าฟังหน่อยสิ" เซี่ยเชียนฮวันเบี่ยงเบนความสนใจแล้วกล่าวกับขันทีน้อยผู้นั้น

ขันทีน้อยส่ายหน้า "กระหม่อมร้องเพลงบ้านเกิดเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากว่าเหนียงเหนียงไม่รังเกียจ กระหม่อมจะร้องให้ฟังสักสองสามประโยคพ่ะย่ะค่ะ”

จากนั้นเพลงพื้นบ้านอันรื่นเริงก็ดังก้องไปทั่วห้องที่สลักไปด้วยมังกรและหงส์

เมื่อความมืดคืบคลานเข้ามาในพระราชวัง ทำให้ดูเยือกเย็นลงไม่น้อย

จวบจนกระทั่ง มีฝีเท้าดังขึ้นขัดจังหวะร้องเพลงของขันทีน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี