บางทีอาจเพราะเหนื่อยมากจนเกินไป
เซี่ยเชียนฮวันพักผ่อนอยู่ในเรือนเป็นเวลาหลายวันทีเดียว นางมุ่งเน้นไปที่อาหารและบำรุงเลือด ไม่ได้ออกจากประตูจวนแม้แต่ก้าวเดียว
แต่พี่ชายของนางเซี่ยเหยียนเดินทางมาดูนาง
จากคำพูดของเซี่ยเหยียน เซี่ยเชียนฮวันจึงได้รู้ว่าอู่อันโหวได้ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนกองทหารชื่อเลี่ยนแล้ว และจากความช่วยเหลือของเขา ทำให้สามารถรวบรวมกองทหารชื่อเลี่ยนไปได้อย่างราบรื่น
แน่นอนว่าเป็นเพราะไม่มีสองพี่น้องตระกูลเว่ยคอยเข้ามาขัดขวาง จึงทำให้ทหารเหล่านั้นจงรักภักดีมากขึ้น
เมื่อไม่ต้องกังวลเรื่องใดแล้ว เซียวเย่หลันจึงได้จัดการกับทหารเหล่านั้นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสองพี่น้องตระกูลเว่ยส่งเสริมทหารผู้ซื่อสัตย์ต่อตนและเริ่มสร้างกองกำลังใหม่
หลังจากที่อู่อันโหวเห็นวิธีจัดการกับเหล่าทหารของเซียวเย่หลันแล้ว ในที่สุดเขาก็ยอมรับว่า การมอบกองทัพทหารให้แก่เซียวเย่หลันดูแลต่อเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว และเนื่องจากมีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางไปร้องขอบุตรสาวของตนกลับคืน ด้วยความโมโหเขาจึงได้ตัดสัมพันธ์กับลูกชายทั้งหลาย
และนี่คือปัญหา
เซี่ยเหยียนบ่นออกมาว่า "อู่อันโหวตาเฒ่านั่นเดินทางมาที่บ้านเราทุกวันทุกวี่ พูดเป็นนัยๆ อยากจะรับเจ้ามาเป็นหลานบุญธรรมของเขา ช่างอุกอาจเหลือเกิน! ล้วนเป็นโหวด้วยกัน หากเจ้าเป็นหลานสาวบุญธรรมของเขา เช่นนั้นพ่อของเราจะไม่กลายเป็น ลูกบุญธรรมของเขาหรอกหรือ?"
เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะออกมา "แล้วท่านพ่อท่านแม่ว่าอย่างไร?"
"เหอะๆ พวกเขาไม่ยอมอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์เหล่านั้น แต่พวกเขามีเจ้าเป็นบุตรสาวอยู่คนเดียวจะยอมให้เจ้าไปนับญาติกับผู้ใดง่ายๆ ได้อย่างไร "
อีกอย่าง ยิ่งอันติ้งโหวและภรรยาปฏิเสธอย่างสุภาพ อู่อันโหวผู้มีนิสัยดื้อดึงดื้อรั้นก็ยิ่งเดินทางไปที่จวนอันติ้งโหวร่วมรับประทานอาหารอยู่บ่อยๆ
มากินข้าวอย่างเดียวก็ช่างเถิด อีกทั้งชอบวิจารณ์ว่า "ฝีมือไม่เท่าบุตรสาวของพวกเจ้าเลย" ช่างน่าโมโหยิ่งนัก
เซี่ยเหยียนไม่รู้ว่าน้องสาวของตนทำอาหารเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?
อีกอย่าง ตัวเขาเองก็ไม่เคยชิมอาหารฝีมือน้องสาวแท้ๆ สักครั้ง แต่ตาเฒ่านี่กลับได้ชิม!
ด้วยความโมโห เซี่ยเหยียนจึงเดินทางมาเยี่ยมเซี่ยเชียนฮวันที่จวนจ้านอ๋องในตอนบ่าย
เขาเบื่อที่จะกลับไปต้อนรับอู่อันโหวที่มักเดินทางมากินข้าวที่จวนเป็นประจำ
เซี่ยเชียนฮวันยิ้มขึ้นว่า "ช่วงนี้ข้าสนใจศึกษาวิธีทำอาหาร หากพี่ยังไม่อยากกลับบ้านกินข้าวล่ะก็ ข้าจะทำอาหารให้ลองชิมดู"
"แหะๆ ข้าเองก็ต้องการเช่นนั้น!" เซี่ยเหยียนยิ้มกว้าง
น่าเสียดาย เขามีความสุขได้เพียงไม่นานเซียวเย่หลันก็เดินทางมา
"เข้าวังไปพร้อมกับข้า"
เซียวเย่หลันเหลือบมองดูเซี่ยเชียนฮวัน และกล่าวกับนางเป็นประโยคแรกในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
เซียวเย่หลันเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นอีกครั้งว่า "ตอนที่เจ้าถูกเว่ยหย่งเซิ่งและพรรคพวกลากตัวไป บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?"
"ไม่"
เซี่ยเชียนฮวันเยาะเย้ยอยู่ในใจ
เรื่องราวผ่านไปตั้งนานแล้วเพิ่งมาถามเอาตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยหรือ?
เซียวเย่หลันหลับตาลง ไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีก
ม่านรถม้าถูกเปิดขึ้นเบาๆ แสงจากพระอาทิตย์สะท้อนไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา มันดูสว่างไสวแต่ก็มืดมน
"จากนี้ไปเจ้าอย่าได้เสี่ยงอันตรายเช่นนั้นอีก"
"นิสัยของเจ้ากระอักกระอ่วนจริงๆ ข้าช่วยเจ้าด้วยความหวังดี หากเจ้ารู้สึกเกรงอกเกรงใจข้าล่ะก็ เอ่ยขอโทษข้าก็สิ้นเรื่อง เหตุใดจึงต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาเล่า"
เซี่ยเชียนฮวันพึมพำออกมา
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน นางกำลังจะผล็อยหลับเพราะรถม้าที่โคลงเคลง ก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มดังขึ้นบางเบาว่า
"ขอบใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
มาอัพเพิ่มไวๆๆนะคะ...
มาอัพต่อเร็วๆนะคะ...
นางออกควายไงคะ ไม่รู้อะไรซักอย่างตั้งท้อง อยู่ไปวันๆ...
นางเอกหน้าโง่ วันๆไม่ทำเห้ ไร รักษาแต่คน ไม่เคยคิดจะสู้กลับ ไร้น้ำยา...
ทำไมหายอีกแล้ว มาอัพต่อค่ะ...
ดีใจกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณแอดมินค่ะ...
รออ่านอย่าใจจดจ่อ อัพต่อพลีสสส...
กลับมาต่อ รออ่านอยู่ค่ะ...
ตามคะ ขอบคุณค่ะ...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอค่ะ กำลังสนุกเลย...