นางสามารถรู้สึกได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหารของเผยซื่อหลายครั้ง
จวบกระทั่ง มีข่าวที่นางเป็นอัมพาต
ปากพูดไม่ได้ ร่างกายขยับไม่ได้
เจตนาสังหารในดวงตาของเผยซื่อก็ค่อยๆจางลง
“ใต้เท้าลู่ ตามอาตมามา มีธุระอันใดหรือ” ชายหนุ่มที่สวมจีวร ค้อมตัวลงอย่างนอบน้อม ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงบสุข
นายหญิงใหญ่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว ขดตัวด้วยความหวาดกลัว คลานไปหาลู่หย่วนเจ๋อ
“อ่า อ่า อ่า!” นางเริ่มส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัว
“ท่านแม่ ท่านแม่!” ลู่หย่วนเจ๋อพยายามปลอบโยน แต่นายหญิงใหญ่กลับหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
จวบกระทั่ง นายหญิงใหญ่กรอกตา สิ้นสติไปด้วยความกลัว
เผยซื่อไม่กล้ามองพระปลอมแม้แต่น้อย ได้แต่นั่งลงข้างๆนายหญิงใหญ่และเช็ดน้ำตาด้วยความห่วงใย “หมอหลวงบอกว่า หลังจากเป็นอัมพาต อารมณ์อาจจะไม่คงที่ เป็นไปได้ว่าบุคลิกอาจเปลี่ยนไป”
“เหมือนคุณชายใหญ่ตอนนั้น เดิมเป็นหนุ่มรูปงามนิสัยดี หลังจากพิการ นิสัยก็เปลี่ยนไปมาก?” เผยซื่อพูดอย่างระมัดระวัง
ความสงสัยในใจของลู่หย่วนเจ๋อหายไป ตอนนั้น เยี่ยนซู เปลี่ยนไปมากจริงๆ
จากบุตรสวรรค์ผู้น่าภาคภูมิใจกลายเป็นคนพิการที่ต้องให้คนช่วยเหลือในการขับถ่าย จึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ปฏิเสธทุกคนที่เข้าไปใกล้
เผยซื่อแอบถอนใจด้วยความโล่งอก
สวี่ซื่อยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ โธ่ นี่จะโล่งอกเร็วเกินไปหรือเปล่า
“พระสงฆ์นี่มาจากที่ไหนเหยอ” ลู่เจาเจาถามไปด้วยเคี้ยวเมล็ดแตงโมไปด้วย
“เป็นพระสงฆ์มาจากวัดฮู่กั๋ว”
“พระสงฆ์รูปนี้ เป็นศิษย์ของเจ้าอาวาสวัดฮู่กั๋ว เดินทางธุดงค์อยู่เสมอ ไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชน” เผยซื่อตอบอย่างไม่ใส่ใจ
สวี่ซื่อพยักหน้า “มิสู้ ให้ท่านมาสวดมนต์ให้นายหญิงใหญ่ทุกวัน? เผื่อว่า นายหญิงใหญ่จะดีขึ้นบ้างนะ”
[ตื่นเต้น ตื่นเต้นจริงๆ]
[ให้ฆาตกรอยู่กับนางทั้งวันทั้งคืน ช่างทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีกนะ]
[หรือเป็นชู้รักของเผยซื่อ] ลู่เจาเจาแอบกดไลค์ให้ท่านแม่
เรื่องแรกที่ผู้จัดการดูแลบ้านทำก็คือการจ่ายเงินเดือนที่คงค้างอยู่! ในตอนนั้นนางตกตะลึง
ครอบครัวที่มีหน้ามีตา ไหนเลยค้างเงินเดือนบ่าวไพร่ได้ ในบัญชีไม่มีเงินเลย นางจึงต้องจ่ายเงินเดือนไปสามเดือนในตอนนั้น
เห็นชัดๆว่าไม่มีเงินในบัญชี แต่หลังจากนางได้รับอำนาจจัดการดูแลบ้าน เผยซื่อก็ร้องขอกินรังนกเพื่อบำรุงร่างกาย
คอยดูดเลือดนางราวกับว่า นางเป็นสวี่ซื่อคนที่สอง
โชคดีที่ จิ่งไหววันๆหมกมุ่นอยู่กับการศึกษาในห้อง ก็คือ ถึงวันนี้ยังไม่ได้เข้าหอกัน
“เจ้าก็คือฮูหยินเจียงหรือ” ลู่เจาเจาเอียงคอมองนาง
เจียงอวิ๋นเหมี่ยนโค้งคำนับให้กับลู่เจาเจา “เพคะ องค์หญิงเจาหยาง”
“เจ้าเป็นว่าที่พี่สะใภ้คนโตของข้าเมื่อก่อนนี่ใช่ไหม”
เจียงอวิ๋นเหมี่ยนโค้งคำนับอีกครั้ง “เป็นอวิ๋นเหมี่ยนเองที่ไม่มีวาสนากับคุณชายเยี่ยนซู”
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไม่ชอบพี่ชายของข้า…” ลู่เจาเจาแสดงท่าทีไร้เดียงสา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...