“ข้าไม่ได้หนีเรียนนะ ข้าขอลากับท่านอาจารย์แล้ว” เด็กน้อยทำท่าทางรู้ความ
“แบบนั้นคือขอลาหยุดของเจ้างั้นหรือ ที่เจ้าทำเขาเรียกว่าไปแจ้ง” สวี่ซื่อมองนางอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ลู่เจาเจากะพริบตาปริบๆ และมองสวี่ซื่ออย่างระมัดระวัง
“ท่านแม่ ท่านจำได้หรือไม่ว่าตอนนั้นได้พบกับบิดาสารเลวนั้นได้อย่างไร”
สวี่ซื่อเหลือบมองนาง “เจ้าถามทำไม”
“เจาเจาอยากรู้ไงเจ้าคะ...”
ลู่เจาเจาเขย่ามือของสวี่ซื่อ
เสียงของเด็กน้อยนั้นนุ่มนวล สีหน้าเต็มไปด้วยความอ้อนวอน ไหนเลยสวี่ซื่อจะทนต่อการประจบเอาใจของนางได้
“เขาหรือ เรื่องดีเรื่องเดียวที่เขาทำในชีวิต คงเป็น...การช่วยชีวิตข้า” สวี่ซื่อถอนหายใจออกมา
“ตอนนั้นข้าเพิ่งพ้นวัยปักปิ่นจึงไปขอพรที่วัด”
“ตอนที่เดินทางกลับนั้น...ได้พบกับโจรภูเขา”
“ลู่หยวนเจ๋อช่วยชีวิตข้า และรับดาบแทน” ไม่ว่าอย่างไรนางก็จำภาพนั้นได้
ลู่หยวนเจ๋อพุ่งเข้ามาอุ้มนางเอาไว้และถูกโจรภูเขาฟันเขาที่ไหล่ มันลึกเสียจนเห็นกระดูกของเขา เลือดเปื้อนจนย้อมเสื้อผ้าของเขาจนแดง และทำให้ใจของนางนั้นสับสน
เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้ชีวิตปกป้องนาง
สำหรับเด็กสาววัยปักปิ่นแล้ว ฉากนี้ส่งผลกระทบต่อนางมากขนาดไหนกัน
“ที่จริงแล้วตระกูลสวี่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับชาติตระกูล แต่ตอนนั้นท่านพ่อเห็นเขาแค่แวบเดียวก็พูดออกมาเลยว่าเขาไม่ใช่คนดี”
“แต่ตัวข้าในตอนนั้นที่หลงมัวเมา ถ้าไม่ใช่เขาข้าจะไม่ยอมแต่ง”
“เขาได้รับบาดเจ็บมาคุกเข่าอยู่ที่หน้าตระกูลสวี่อยู่สามวัน ข้าเป็นห่วงเขาจึงอดอาหารเป็นเพื่อนเขาสามวัน” สีหน้าของสวี่ซื่อเต็มไปด้วยการดูถูกตัวเอง
[เฮ้อ จะบอกท่านแม่อย่างไรดี ว่าที่รับดาบนั่นเป็นเรื่องหลอกลวง]
[ตั้งแต่ที่เขาได้พบกับท่านแม่เป็นครั้งแรกก็มีแต่คำโกหก...]
สวี่ซื่อชะงักไปเล็กน้อย
รับดาบให้เป็นเรื่องโกหกงั้นหรือ
“ท่านแม่ จำหน้าตาของโจรภูเขาได้หรือไม่เจ้าคะ” ลู่เจาเจาคลึงขวดหยกพร้อมถามออกมา
“เป็นลู่หยวนเจ๋อ ลู่หยวนเจ๋อสั่งให้ข้าไปปล้นตัวท่าน เขาคิดจะทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม เพื่อให้ท่านตายใจ ขอร้องล่ะ ยกโทษให้ข้าด้วยเถอะ...” เขากลิ้งตัวไปมาบนพื้น เจ็บปวดเสียจนต้องร้องออกมา
สวี่ซื่อตัวแข็งอยู่กับที่
แค่แวบเดียวนางก็มองออกว่าเขาคือโจรที่มาปล้นนาง
เขาเป็นคนของลู่หยวนเจ๋อ!
“ท่านแม่ ท่านยังดีอยู่ไหมเจ้าคะ” ลู่เจาเจามองสวี่ซื่ออย่างเป็นห่วง
สวี่ซื่อประคองตัวด้วยมุมโต๊ะ นางหลับตาลงเล็กน้อย ที่หางตาของนางมีน้ำตาเม็ดงามไหลลงมา
ทั้งหมดคือเรื่องหลอกลวง
ทั้งหมดคือการหลอกลวง
มือของสวี่ซื่อสั่นเล็กน้อย ริมฝีปากบางของนางเม้มเบาๆ และกดข่มความเกลียดชังเอาไว้ในใจ
เรื่องตลกฉากหนึ่ง ชีวิตครึ่งหนึ่งของนางคือเรื่องตลกฉากหนึ่ง!
“ท่านแม่ ข้าตีวิญญาณจมน้ำให้หายไปได้ไหมเจ้าคะ เขาอยู่บนโลกก็ทำแต่เรื่องชั่วร้ายและทำร้ายคนบริสุทธิ์...” เด็กน้อยมองไปที่มารดาอย่างเป็นกังวล แต่นางรู้ว่าแม่ของนางต้องการความสงบสักพัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...