หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 642

สัตว์ร้ายตัวนั้นมีความอยากอาหารมาก

ฮ่องเต้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งนักโทษไปประหารชีวิตในเรือนจำทุกวัน

“เซียงหลิ่วหรือเพคะ…” ใบหน้าน้อยๆ ของลู่เจาเจาจมดิ่งไปกับความครุ่นคิด

“เจาเจาประเมินว่า มันไม่ได้อร่อยมากนัก” นางพูดออกมาหลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน

ในความทรงจำของนาง ทั้งสัตว์เทพและสัตว์ร้ายต่างถูกจำแนกประเภทว่ากินได้หรือไม่ได้

ดวงตาของฮ่องเต้เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ซักถามอะไร ก็ได้ยินเสียงขันทีแจ้งข่าวมาจากนอกประตู

“ทูตแคว้นใต้มาถึงแล้ว”

แม้จะยังไม่ทันได้ข้ามประตูเข้ามา กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นก็ตลบอบอวลไปทั่ว เตะจมูกจนผู้คนต่างขมวดคิ้วเล็กน้อย และแสดงแววตารังเกียจออกมา

“ฝ่าบาทเป่ยเจา คงไม่ตำหนิที่ข้ามาสายหรอกใช่ไหม?” น้ำเสียงที่โอ้อวดและเย่อหยิ่งของชายหนุ่มทำให้ผู้คนต่างรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก

“ฝ่าบาทช่างตระหนี่เสียจริง ท่านเซียงหลิ่วมีอาหารไม่เพียงพอ จึงต้องหาอาหารระหว่างทาง…” หนานมู่ไป๋ยิ้มเยาะและจ้องมองไปที่เซวียนผิงตี้อย่างท้าทาย

สีหน้าของเซวียนผิงตี้เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที เพราะตลอดทางก็มีแต่ประชาชนที่บริสุทธิ์ทั้งนั้น

ฮองเฮาค่อยๆ ยกมือขึ้นแล้วตบฝ่ามือของเขาเบาๆ

เป่ยเจาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา จึงยังไม่สามารถตัดขาดความสัมพันธ์กับทางแคว้นใต้ได้

สีหน้าของฮ่องเต้อ่อนลงเล็กน้อย เขาระงับโทสะที่สุมอยู่ใต้ดวงตาแล้วกล่าวว่า “ท่านพระนัดดาล้อเล่นแล้วกระมัง หวังหยวนลู่ วันพรุ่งนี้เจ้าส่งนักโทษประหารชีวิตไปห้าสิบคน”

หวังหยวนลู่ตอบรับด้วยเสียงต่ำ

หนานมู่ไป๋ยืนโค้งคำนับฮ่องเต้แล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาทโปรดทรงอภัย เหล่าสมาชิกในตระกูลหนานต่างก็มีสายเลือดพิเศษ เบื้องบนกราบไหว้เทพเจ้า เบื้องล่างนอบน้อมต่อกษัตริย์แห่งแคว้นใต้ ฝ่าบาทเป่ยเจาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงขอละเว้นการคุกเข่าถวายบังคมต่อฝ่าบาท เพื่อมิให้พระชนม์ชีพของฝ่าบาทสั้นลง”

ผู้คนต่างนิ่งงันเงียบกริบ

นี่เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า เป่ยเจาไม่ดีเท่าแคว้นใต้

“เซียงหลิ่วมีอีกชื่อหนึ่งว่ามังกรน้อย มงกุฎบนหัวของมันเหมือนกับมงกุฎของเผ่ามังกรทุกประการ” หนานมู่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความภาคภูมิใจ

ลู่เจาเจาโผล่หัวน้อยๆ ออกมาจากด้านหลังขององค์ชายหก

“ช่างไร้ยางอายจริงๆ ยังมีหน้าไปกล่าวถึงมังกรครามด้วยหรือ?”

“สัตว์เทพที่ไหนจะกินมนุษย์เป็นอาหารกันล่ะ?” ลู่เจาเจาพูดอย่างหงุดหงิด ถ้อยคำของนางสะท้อนถึงความรู้สึกของทุกคน

“ในบรรดาสัตว์เทพ มีทั้งมังกรคราม หงส์แดง เต่าดำ เสือขาว อีกทั้งยังมีหงส์ กิเลน และอื่นๆ แต่ไม่มีอะไรเทียบกับเซียงหลิ่วได้เลย…”

“มันเป็นสัตว์ดุร้ายไม่ใช่หรือ?”

“พิษที่เซียงหลิ่วพ่นออกมาทำให้น้ำมีรสขม และทำให้หนองน้ำมีกลิ่นเหม็นเน่า ถ้าเป็นสัตว์เทพก็ควรนำโชคลาภมาให้ แต่เหตุใดจึงสร้างความเดือดร้อนเช่นนี้เล่า?”

“การที่พวกเราไม่พูด เจ้าคิดว่าพวกเราโง่อย่างนั้นหรือ?”

“อุ๊ย พี่ชาย เจาเจายังเด็กอยู่เลย พูดอะไรไปโดยไม่คิด ท่านพี่อย่าถือสาข้าเลยนะ” เจาเจาเอ่ยด้วยใบหน้าไร้เดียงสา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์