หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 643

หนานมู่ไป๋โกรธจนหน้าแดงก่ำ

พวกเขายกย่องเซียงหลิ่วว่าเป็นสัตว์เทพผู้พิทักษ์แคว้นมาโดยตลอด ไม่เคยมีใครกล้าพูดตรงไปตรงมาแบบนี้มาก่อนเลย

และที่สำคัญคือ ไม่มีใครกล้าพูดเช่นนั้น

แน่นอนว่าหนานมู่ไป๋รู้ดีอยู่แล้วว่าเซียงหลิ่วเป็นสัตว์ร้าย!!

หลายปีมานี้ พวกเขาไม่สามารถอัญเชิญดวงจิตมาได้เลย แต่อัญเชิญเซียงหลิ่วมาได้เท่านั้น แล้วจะให้พวกเขาประกาศต่อผู้คนว่าพวกเขาอัญเชิญสัตว์ร้ายมาอย่างนั้นหรือ?

“ท่านพระนัดดามีเมตตาสูง ย่อมไม่ถือสาเจ้า”

“เด็กคนนี้ชอบพูดเรื่องจริง เจาเจายังไม่รีบหุบปากอีก…”ฮ่องเต้รอจนลู่เจาเจาพูดจบก่อน แล้วค่อยดุนางอย่างใจเย็นและอ่อนโยน

หนานมู่ไป๋ไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาได้อีก และใต้เท้าหมิงที่อยู่ข้างหลังเขาก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อย พยายามซ่อนรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นในดวงตา

ท่านพระนัดดามองว่าเด็กคนนี้โง่เง่าไปเสียแล้ว

เขานึกว่าองค์หญิงเจาหยางจะมีความเฉลียวฉลาดอยู่บ้างเสียอีก

“องค์หญิงเจาหยางพูดจาฉะฉานตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่น่าแปลกใจที่ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทเป่ยเจา” หนานมู่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย

เขาไม่ชอบเด็กคนนี้โดยที่ไม่มีเหตุผล

“นี่จะไม่ให้พูดเรื่องจริงเลยหรือ?” ลู่เจาเจาเอามือเท้าเอว ผสมปนเปกับสายเลือดสัตว์เทพ มันกำลังรนหาที่ตาย!

ลู่เจาเจายังอยากจะพูดอะไรอีก แต่องค์ชายหกก็รีบปิดปากนางไว้

เขาคว้าน่องไก่ที่วางอยู่บนโต๊ะและยัดเข้าไปในปากนาง

แววตาของลู่เจาเจาเปล่งประกายขึ้น นางจับน่องไก่ไว้แน่นแล้วกัดกินอย่างเอร็ดอร่อยราวกับหนูตัวเล็กๆ

หนานมู่ไป๋ก็ระงับความไม่พอใจไว้ “เซียงหลิ่วปกป้องแคว้นใต้ และรับธูปเทียนจากแคว้นใต้ ย่อมเป็นสัตว์เทพอยู่แล้ว ส่วนเรื่องกินมนุษย์นั้น…”

“การที่มนุษย์ธรรมดากลายเป็นอาหารของสัตว์เทพ นั่นไม่ถือเป็นความโชคดีของพวกเขาหรอกหรือ?” หนานมู่ไป๋มีสีหน้าเย่อหยิ่ง ไม่ได้สนใจชีวิตของมนุษย์ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย

“ไอ้สารเลว ชีวิตมนุษย์มีค่าเพียงใด สัตว์เดรัจฉานจะกินมนุษย์เป็นอาหารได้อย่างไรกัน? สัตว์ร้ายเช่นนี้ ใครเห็นก็ต้องสังหารไปซะ!!” หรงเช่อวางถ้วยเหล้าลงทันที สีหน้าของเขาเคร่งขรึมมาก

“มันจะกินวัว กินแกะ กินหมูไม่ได้เลยหรือ?” ลู่เจาเจาบิดมือขององค์ชายหกออก แล้วถามอย่างรวดเร็ว

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”

หนานมู่ไป๋ หัวเราะออกมาเสียงดัง

หมิงหลางก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

“องค์หญิงเจาหยางช่างไร้เดียงสาและโง่เขลาเสียจริง”

“เซียงหลิ่วเป็นสัตว์เทพตั้งแต่โบราณกาล มันกินมนุษย์เป็นอาหารโดยสัญชาตญาณ ซึ่งเป็นนิสัยที่สืบทอดมาเนิ่นนานกว่าพันล้านปี คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงตามความคิดของเจ้าได้อย่างนั้นหรือ?” สัตว์ร้ายมองมนุษย์ด้วยสายตาเหยียดหยาม ไม่เคยสนใจมนุษย์เลยแม้แต่น้อย

แม้แต่ราชวงศ์แคว้นใต้ที่อัญเชิญมันมา ก็ยังต้องเลี้ยงดูมันอย่างดีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม

ไม่กล้าที่จะทำไม่ดีต่อมันเลย

หมิงหลางโค้งคำนับลู่เจาเจาพลางกล่าวว่า “องค์หญิงเจาหยางไม่ทราบกระมังว่า เซียงหลิ่วมีสันดานโหดร้ายชอบฆ่าฟัน และชอบกิน…สิ่งมีชีวิต ไม่เพียงเท่านั้น มันยังไม่ค่อยเชื่อฟังใครอีกด้วย...มีเพียงท่านพระนัดดาเท่านั้นที่เซียงหลิ่วจะยอมให้เข้าใกล้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์