หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 645

หนานมู่ไป๋กำลังหัวเราะเยาะในใจ ช่างไม่กลัวตายจริงๆ

นี่คือสัตว์ร้ายผู้พิทักษ์แคว้นใต้มายาวนานนับพันปี มีนิสัยฉุนเฉียวชอบฆ่าฟัน แม้แต่แคว้นใต้ก็ยังไม่กล้าบังคับขู่เข็ญมันเลย

หนานมู่ไป๋มีความอาฆาตพยาบาทเกิดขึ้นในใจ ถ้าเซียงหลิ่วกลืนกินองค์หญิงเจาหยางเข้าไป ศักดิ์ศรีของเป่ยเจาก็จะถูกแคว้นใต้เหยียบย่ำจนสิ้นซาก!

สัตว์ร้ายยืนสูงตระหง่าน จ้องมองลงมาที่ลู่เจาเจาด้วยสายตาเหยียดหยาม

ตอนที่มันอายุยังน้อย มันเคยเจอคนสติไม่ดี

อา... เป็นคนที่ทั้งทรงพลังและสติไม่ดีด้วย

คนสติไม่ดีไม่ให้มันกินคน บังคับให้มันกินผักทุกวัน เจ้านึกภาพออกไหม? สัตว์ร้ายที่กินคนเป็นอาหาร แต่กลับต้องมากินผักเป็นเวลาร้อยปี!! บางครั้งก็ให้มันสัมผัสกับธรรมชาติ กินดอกไม้และกินหญ้า เพื่อปลูกฝังคุณธรรมให้กับมัน

แม้แต่ฟันก็ต้องแปรงให้สะอาดทุกวัน

โอ้พระเจ้า มันมีถึงเก้าหัว แต่กลับไม่กล้าโผล่ออกมาเลยสักหัว

ต้องแปรงฟันทั้งตอนเช้าและกลางคืน มีเก้าหัวและเก้าปาก วันนึงแปรงฟันถึงสิบแปดครั้ง จนมันทนไม่ไหว!

มันจึงแสร้งทำตัวเป็นงูตัวเล็กๆ ธรรมดาเพื่อเอาชีวิตรอด

ในช่วงนั้น มันมีลมหายใจหอมหวานดั่งกล้วยไม้ แม้แต่ตอนปล่อยลมก็ยังมีกลิ่นหอม

อ้อ นางยังได้ตั้งฉายาให้อีกด้วย

สัตว์ร้ายตัวนั้นสั่นเทาขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำไมจึงนึกถึงเทพสังหารผู้นั้นอีกแล้ว? มันรอคอยอย่างยากลำบากจนเทพสังหารถูกสังเวยให้สวรรค์ และมันก็ได้รับอิสรภาพกลับคืนมาอีกครั้ง มันไม่ควรนึกถึงเทพสังหารคนนั้นเลย!

ในขณะนี้ ดวงตาของเซียงหลิ่วกลายเป็นสีแดงฉาน แสดงแววฆ่าฟันอย่างชัดเจน

เด็กน้อยตัวเล็กมาก มีกลิ่นหอมของนมโชยมาจากตัวนาง ตอนนี้นางกำลังยืนเขย่งปลายเท้าอย่างยากลำบาก และถือแครอทชิ้นหนึ่งไว้ในมือ

เก้าหัวของเซียงหลิ่วหักโค้งงอ และก้มลงมาอยู่ตรงหน้าลู่เจาเจา

ทุกคนแทบจะหยุดหายใจ

สวี่สืออวิ๋นอยู่ห่างจากลู่เจาเจาเพียงสามก้าว เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ตัวนางก็อ่อนระทวยจนแทบจะล้มลง และไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะกลัวว่าจะทำให้สัตว์ร้ายยิ่งโกรธเคืองขึ้นไปอีก

“อวิ๋นเหนียง ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่ตรงนี้ทั้งคน” หรงเช่อกล่าวพลางประคองอวิ๋นเหนียงเอาไว้

หรงเช่อปกป้องอวิ๋นเหนียงอยู่เบื้องหน้า

“แปลกจัง เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือไม่?” ลู่เจาเจาพึมพำเบาๆ

ทำไมรู้สึกคุ้นเคยขนาดนี้?

งูยักษ์เก้าหัวแยกเขี้ยว ส่งเสียงฟ่อฟ่อ น้ำลายไหลย้อยเป็นสาย และกัดเซาะพื้นจนเปื่อยยุ่ย

เห็นอย่างนั้นทุกคนต่างก็ตื่นตกใจ

“เจ้าไม่ชอบกินผักจริงๆ หรือ? ข้าเคยเลี้ยงงูตัวเล็กไว้ตัวนึง มันน่ารักมาก และมันก็ชอบกินผักมากด้วย…”

“ผักกาดขาว ผักใบเขียว และแครอทมันกินหมดเลย แต่มันไม่เคยกินเนื้อสัตว์” ลู่เจาเจาบ่นพึมพำ

“เจ้าต้องกินผักเยอะๆ แปรงฟันบ่อยๆ ดูสิตัวเจ้าเหม็นขนาดไหน” ลู่เจาเจาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“นางคิดว่านางเป็นใคร? การที่ราชวงศ์เป่ยเจาเอาใจใส่นาง แล้วคิดว่าเซียงหลิ่วก็จะตามใจนางอย่างนั้นหรือ?” หนานมู่ไป๋พยักหน้าไปทางลู่เจาเจา ใต้เท้าหมิงเองก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน

“ท่านพระนัดดา องค์หญิงเจาหยางยังไม่ถึงสามขวบ หากทำให้เซียงหลิ่วขัดเคืองจะทำอย่างไร?” ใต้เท้าหมิงกำหมัดเอาไว้แน่น

“นั่นคือชะตากรรมของนาง นางเองต่างหากที่วิ่งออกมาสั่งสอนท่านเซียงหลิ่ว นางย่อมสมควรได้รับผลเช่นนี้” หนานมู่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์