เขามององค์หญิงเจาหยางด้วยความตกตะลึง
เด็กอายุสามขวบครึ่งกำลังนั่งแทะเมล็ดแตงกับสุนัขอีกตัวอย่างจริงจัง
เมื่อโหลวซวี่เหยียนได้ยินที่มาที่ไปของเรื่องนี้ เขาจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย โดยมีแสงสีดำซ่อนอยู่ในดวงตา
“ท่านพี่ช่างโชคดีเหลือเกิน มีอัจฉริยะพร้อมกันถึงสองคน!”
“ท่านต้องปกป้องนางให้ดี อย่าปล่อยให้เป็นเหมือนกับชิงมั่ว อัจฉริยะจะพ่ายแพ้ย่อยยับ” โหลวซวี่เหยียนร้อนรนด้วยความอิจฉา ทำไม ทำไมกัน!
ขณะที่โหลวชิงมั่วยังมีชีวิตอยู่ก็เหยียบเขาจนแทบจมดินอยู่แล้ว
ตอนนี้ยังมีอัจฉริยะวัย 7 ขวบมาอีกคน แสงเปล่งประกายของเขาจะถูกบดบังอีกครั้งแล้วใช่หรือไม่
ปลายกระบี่ในมือของโหลวซวี่เหยียนสั่นระริก เผยให้เห็นอารมณ์ที่ไม่มั่นคงของเขาอย่างชัดเจน
ผู้คนใต้แท่นสูงเริ่มออกความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป
“โหลวจิ่นถังฝึกฝนพลังกระบี่ได้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ นางอยากท้าทายว่าที่หัวหน้าตระกูลเพราะความมุทะลุของเด็กงั้นหรือ”
“ให้เวลาอีก 5 ปี อาจมีโอกาสชนะมากกว่านี้!”
“ผู้อาวุโสอนุญาตให้นางทำตามใจต้องการ หากแพ้ที่นี่คงไม่ทำให้ตระกูลโหลวขายหน้าหรอก!” ทุกคนถอนหายใจอย่างลับๆ
เมื่อเซี่ยอวี้โจวเห็นความแตกต่างระหว่างคนตัวสูงและคนตัวเตี้ยบนแท่นสูง พลันรู้สึกว่าโหลวจิ่นถังน่าสงสารเหลือเกิน
“กระบี่ของนางแทบจะหักอยู่แล้ว จะสู้ได้อย่างไร” เซี่ยอวี้โจวทำหน้าย่น
ลู่เจาเจาเดินไปที่มุมหนึ่งอย่างเงียบๆ
ก่อนจะหยิบกระบี่เจาหยางออกมาจากมิติเก็บของ
“ข้าจะให้พี่ถังยืมเจ้า...”
กระบี่เจาหยางพลันตกลงไปที่พื้น พร้อมกับสั่นอย่างรุนแรง
“ข้าแค่มาบอก! ไม่ได้มาถามความเห็นของเจ้า ทำตัวให้ดี ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาเจ้าไปปักที่กองอึ!” ลู่เจาเจาเหลือบมองกระบี่เจาหยาง ก่อนที่มันจะสั่นขึ้นลงราวกับพยักหน้าเข้าใจ
กระบี่เจาหยางมีกระบี่วิญญาณอยู่ข้างใน กระบี่วิญญาณนั้นเชื่อมโยงกับจิตใจของลู่เจาเจา และจะเคลื่อนไหวด้วยพลังอันแท้จริง หากไม่ได้รับการยอมรับ กระบี่เจาหยางจะหนักถึงพันจิน
จากนั้นลู่เจาเจาจึงเดินกลับมาที่แท่นสูงอีกครั้ง
“พี่ถัง…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...