สาริศากลับมาที่ห้องพักรักษาตัว พลางคิดว่าตาของตัวเองนั้น มันไม่สบายตามากขึ้นเรื่อยๆ เลยเลือกที่จะหลับตาลง ก่อนจะค่อยๆ หลับไป
หลังจากที่นอนไปแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่ามีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพักรักษาตัวของเธออย่างใจร้อน
พลางมองสีหน้าของหญิงที่สีใบหน้าซีดเซียว บนตัวนั้นมีบาดแผลมากมาย สีหน้าของธนพัตมีใบหน้าดำคร่ำเครียดเป็นอย่างมาก ในแววตาก็มีไฟแห่งความโกรธลุกโชน
“คุณชายพัท” ชรัณที่อยู่ข้างๆ พูดเสียงต่ำ “คุณนายน้อยไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ”
“ใครเป็นคนทำ ตรวจสอบได้หรือยัง?” ธนพัตถามเสียงเย็นชา
“จากการรายงานในสถานการณ์สด ตอนนี้กำลังจะส่งมาแล้วครับ”
“โอเค” ธนพัตผลุบตาลง “ก่อนหน้านี้ พวกเราไปดูคนป่วยอีกคนกันเถอะ”
ชรัณอึ้งไป ก่อนจะมีสติกลับมา คนที่ธนพัตพูดนั้นคือใครกันนะ
ธนพัตเข็นวีลแชร์ออกไป ก่อนจะมาที่ห้องพักรักษาตัวของธีภพ
กว่าธีภพจะไล่ไรยาไปได้นั้นมันไม่ง่ายเลย และกำลังนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยพลางถือโทรศัพท์เหม่อลอยเอาไว้ในมือ แล้วลังเลว่าจะส่งข้อความหาสาริศาดีไหม เมื่อถามสถานการณ์ของร่างกายของเธอแล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างไม่รีบร้อนโดยไม่คาดคิด
“เข้ามา” เขากำลังมองอย่างสงสัยว่าใครมาเยี่ยมเขา แต่ตอนที่ประตูถูกผลักเข้ามา ก็เห็นชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ด้านนอก ใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อไป
“คุณอา?” เขาเปิดปากพูด น้ำเสียงก็มีความตกใจเป็นอย่างมาก “คุณมาได้อย่างไร?”
ธนพัตไม่ได้อยู่กับพ่อที่กำลังจัดการธุรกิจของตระกูลกีรติเมธานนท์ที่อเมริกาน่ะเหรอ กลับมาเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?
หรือพอเขาได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับสาริศา เลยรีบกลับมางั้นเหรอ?
ธีภพเข้าใจได้ในทันที ในใจก็รู้สึกไม่ดีอย่างบอกน่าประหลาด
ขนาดพ่อแท้ๆ ของเขา หลังจากที่รู้ว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ ยังแต่โทรมาถามไถ่เท่านั้นเอง แต่ธนพัต กลับทิ้งทุกอย่างที่นั่น แล้วกลับมางั้นเหรอ?
“อืม ได้ยินว่าแกยอมเจ็บตัวเพื่อสาริศา ฉันเลยมาเยี่ยม” ธนพัตมีแววตาอ่อนลง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหยั่งเชิง
ธีภพขมวดคิ้วเบาๆ “ขอบคุณคุณอาที่เป็นห่วง ริศา……อาสะใภ้ตอนนี้น้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของธีภพที่มีความกังวลในจนปิดไว้ไม่อยู่ แววตามืดดำของธนพัตนั้นเย็นชาลง แถมยังไม่ตอบคำถามนี้ด้วย ในตอนนั้นเอง ในห้องรักษาตัวนี้มันเงียบจนทำให้ทำตัวไม่ถูกเลยล่ะ
“ดูเหมือนแกจะเป็นห่วงภรรยาของฉันมากจริงๆ นะ” หลังจากนั้นสักพักใหญ่ ธนพัตก็เปิดปากพูดอย่างไม่รีบร้อน น้ำเสียงนั้นสงบเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าทำไม ฟังแล้วถึงรู้สึกกดดันแปลกๆ
ธีภพฟังออกว่าในน้ำเสียงของธนพัตนั้น มันปรากฏการณ์มีอยู่ของสาริศาไม่มากก็น้อย ในใจเลยเกิดไฟลุกโชนขึ้นมาอย่างคุมไม่อยู่
ถึงอย่างไรบุรินทร์กับธนพัตก็มีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมาตลอด เขากับคุณอาคนนี้ อันที่จริงเองก็ไม่ได้เคารพมากเท่าไหร่ ดังนั้นตอนนี้เองก็ขี้เกียจจะเสแสร้งแล้ว ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็นชาออกมา “ใช่สิ ถึงอย่างไรก็เป็นรักแรก แน่นอนว่าต้องเป็นห่วงสิ”
เขาพูดคำนี้ออกมาเพราะอยากจะยั่วโมโหธนพัต แต่ธนพัตเองก็ยังคงยิ้มออกมาอย่างเย็นชา พลางค่อยๆ พูดออกมา “งั้นก็ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ”
ธีภพถึงกับพูดไม่ออก พลางเห็นความเย่อหยิ่งที่มาจากหว่างคิ้วของธนพัต ในที่สุดเขาก็หงุดหงิด ก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงผู้ป่วย พลางตะโกนออกมาว่า “ธนพัต คุณพูดมาตรงๆ เถอะ คุณมาหาฉันเพื่ออะไรกันแน่?”
เมื่อเห็นท่าทีที่เคืองใจเป็นอย่างมากของธีภพ ธนพัตกลับยิ้มเบาๆ เท่านั้น “แน่นอนว่าก็มาขอบคุณที่แกมาช่วยภรรยาของฉัน”
ธนพัตพูดออกมาอย่างจริงจัง
ธีภพนั้นต่อต้านโดยสัญชาตญาณ แต่เข่านั้นมันมีความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ในใจเขานั้นมันเกิดความกลัวขึ้นมา คำพูดที่อยากจะพูดออกมานั้น ก็ได้แต่กล้ำกลืนลงไป
เขารู้ ว่าแม้ธนพัตจะอยู่บนวีลแชร์ แต่เขาก็เคยเรียนวิชาการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก เกรงว่าจะทำให้หัวเข่าของตัวเองพิการไปด้วยได้เลย!
ในที่สุดก็เห็นธีภพหยุดลง ธนพัตถึงได้หัวเราะเสียงเย็นชา ก่อนจะปล่อยมือจากเข่าของเขา พลางเข็นรถเข็นออกไปโดยไม่หันมามอง
“ธนพัต!” แต่เขายังไม่ทันจะออกจากห้องพักรักษาตัว ก็ได้ยินเสียงของธีภพที่มาจากด้านหลังของตัวเอง ก่อนจะตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง
เขายังคงไม่หยุดวีลแชร์ ก่อนจะเข็นออกไปนอกประตู
“คุณรู้ไหมว่า ตอนที่สาริศาติดอยู่ในอัคคีภัย ตอนแรกถูกฉันช่วยออกมาโดยไม่บาดเจ็บแล้ว!แต่เธอพยายามกลับไปเอาของอย่างหนึ่ง เลยทำให้พวกเราทั้งสองติดในกองเพลิง!”
เมื่อธีภพพูดแบบนี้ออกไป วีลแชร์ของธนพัตนั้น มันก็หยุดลงในที่สุด
“มันคืออะไร?” เขาไม่ได้หันหัวกลับมา เพียงแค่ถามเสียงเย็นชาเท่านั้น
ธีภพไม่ได้ตอบ
สร้อยที่สาริศาพยายามเอาออกมาอย่างสุดความสามารถนั้น เขาจำได้
จำได้ว่าบุรินทร์เคยพูดถึงด้วยน้ำเสียงแดกดันตอนที่เมาอยู่ บอกว่าธนพัตนั้นเป็นคนลุ่มหลงในความรักที่ไม่ได้เรื่อง พชิราตายไปเป็นสิบปีแล้ว เขายังเก็บรักษาสร้อยคริสทัลถูกๆ เส้นนั้นอย่างคนโง่อีก
ดังนั้น สาริศาเลยพยายามเอาสร้อยเส้นนั้นกลับมา น่าจะเป็นการไปเอาให้ธนพัตนั่นแหละ
ความอิจฉาในใจนั้นมันแทบจะกระอักเลือดออกมา ธีภพนั้นไม่อยากจะตอบคำถามของธนพัตเลย ดังนั้นเลยพูดพลางหัวเราะเสียงเย็นชา “ถ้าคุณอยากรู้ ทำไมไม่ไปถามเธอเองเลยล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...