หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 210

พวกบุรินทร์ก็มองสาริศาไปอย่างช็อกตกใจ นึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมปล่อยไรยาไป

“เงื่อนไขอะไร?” บุรินทร์ถามออกไปอย่างรวดเร็ว

“พวกคุณโอนหุ้นในเครือตระกูลกีรติเมธานนท์ครึ่งนึงให้ธนพัตไป” สาริศาพูดเน้นออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ

สาริศายังจำได้ว่าก่อนหน้านี้ท่านประเสริฐได้บอกกับตนว่า ที่ธนพัตไม่มีหุ้นอยู่ที่ตระกูลกีรติเมธานนท์ทั้งหมดล้วนเป็นการขัดแข้งขัดขาของบุรินทร์ทั้งนั้น ดังนั้นแล้วเธอจึงอยากจะถือโอกาสนี้ช่วยธนพัตวางแผนเพื่อให้เขาได้ผลประโยชน์ไปด้วยเลย

“เป็นไปไม่ได้!” บุรินทร์โพล่งออกไปโดยสัญชาตญาณ

“งั้นไรยากับเด็กในท้องของเธอ พวกคุณก็อย่าหวังว่าจะสามารถรักษาเอาไว้ได้” สาริศาเองก็ไม่มีความปรานีเช่นกัน

สีหน้าของบุรินทร์ได้ย่ำแย่ขึ้นมาทันที

ขนาดธนพัตเอง เมื่อได้ยินเงื่อนไขของสาริศาแล้ว ก็ได้ประหลาดใจไปเล็กน้อย

เขานึกไม่ถึงว่าสาริศาจะรู้เรื่องพวกนี้ ยิ่งนึกไม่ถึงเลยว่าในตอนนี้เธอก็ยังคิดเผื่อเขาอีก

บุรินทร์กับธีภพลังเลไปซ้ำ ๆ ในที่สุดก็ได้กัดฟันเอ่ยออกมา “ได้ ฉันรับปากเธอ! ธนพัต แกรีบปล่อยไรยาไปสิ”

ถึงยังไงเด็กในท้องของไรยาสำหรับพวกเขาแล้วก็สำคัญมาก

แต่ธนพัตกลับไม่ได้สนใจพวกเขาเลย เพียงแค่ขมวดคิ้วมองสาริศาไป “สิ่งเหล่านี้ที่ไรยาได้ทำกับคุณไป มันควรจะได้รับโทษอยู่แล้ว คุณไม่ต้องทำเพื่อผม แล้วลำบากตัวคุณเอง”

สาริศายิ้มออกมาเล็กน้อย “ฉันไม่ได้ลำบาก ฉันก็แค่อยากจะช่วยคุณจริง ๆ”

ธนพัตรู้สึกซาบซึ้งใจจนต้องเผยออกมาบนใบหน้า

ไรยาช่วยเอาไว้ได้ แต่บริษัทของตระกูลธราภักดิ์กลับไม่ไม่มีทางรอด สาริศาได้รับข่าวมาอย่างรวดเร็ว สุวิทย์ได้หนีไปต่างประเทศเนื่องจากเรื่องหนี้สิน

วันต่อมา ท่านประเสริฐมาหา นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาหลังจากที่ได้ท้องปลอมไป

ท่านประเสริฐเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของสาริศา ไม่ได้พูดถึงเรื่องการตั้งครรภ์ขึ้นมาเลย

ท่านประเสริฐยิ่งเป็นแบบนี้ สาริศาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมา

สาริศานั่งอยู่ตรงข้ามกับท่านประเสริฐ และพูดขอโทษออกไปไม่หยุด

“คุณปู่คะ ขอโทษ...ทำให้คุณปู่ต้องผิดหวังแล้ว”

“เด็กโง่” ท่านประเสริฐมองสาริศาไปด้วยความสงสารและเห็นอกเห็นใจ “นี่มันไม่ใช่ความผิดของเธอ ปู่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว รู้เรื่องพวกนั้นที่ไรยากับบุรินทร์พวกเขาได้ทำลงไป ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกบุรินทร์ไอ้สัตว์เดรัจฉานพวกนี้จะทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาได้ มันช่างเป็นความอัปยศของตระกูลกีรติเมธานนท์ของฉันจริง ๆ เลย”

ท่านประเสริฐไม่อยากให้สาริศาเสียใจไป จึงเป็นฝ่ายเปลี่ยนเรื่องไปเอง คุยไปถึงเรื่องหุ้นแทน ท่านประเสริฐมองสาริศาไปด้วยความชื่นชม

“ครั้งนี้ต้องขอบคุณเธอแล้ว หินก้อนใหญ่ภายในใจของฉันมันก็ได้ตกลงพื้นไปได้เสียที”

คิดถึงเรื่องนี้สาริศาจึงได้ฝืนมีชีวิตชีวาออกมาได้สักหน่อย แล้วพูดตอบออกไป “ถึงยังไงเก็บไรยาเอาไว้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเขาต้องการไรยา พวกเราไม่สู้ฉวยโอกาสนี้ทำดีเพื่อหวังผลไปสักหน่อย ให้บุรินทร์และธีภพรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของธนพัตกัน แล้วถือโอกาสนี้เอาหุ้นส่วนหนึ่งกลับมา อย่างนี้แล้ว ธนพัตก็จะสามารถมีชื่อและสถานะตามสมควรขึ้นมาได้สักหน่อย”

“เด็กดี” ท่านประเสริฐมองเธอไปอย่างซาบซึ้งใจ “เธอนี่นะ จิตใจดีมากเกินไป มักจะทำดีกับคนอื่นเกินไป คิดเผื่อคนอื่นไปอย่างนี้ เธอเคยคิดถึงตัวเองบ้างหรือเปล่า?”

“ตัวเอง?” สาริศาตะลึงงันไปสองวิ แล้วยิ้มพลางพูดออกไปว่า “ฉันมีอะไรให้น่าคิดกัน”

“เธอไม่กลัวว่าไรยาจะกลับมาแก้แค้นเธออีกเหรอ?” ท่านประเสริฐส่ายหน้าออกมาเล็กน้อย “ยังไงหลังจากนี้ไป เธอก็ระวังสักหน่อยจะดีกว่านะ"

เพียงไม่นานท่านประเสริฐก็กลับไป หลังจากที่เขาไปแล้ว ในหัวของสาริศาก็ยังนึกย้อนไปถึงคำพูดที่ท่านประเสริฐได้ทิ้งเอาไว้ก่อนไปอยู่

กลัวไรยา? กลัวว่าเธอจะแก้แค้นเหรอ?

แต่นั่นมันจะยังไงกัน

เธอมีธนพัต ก็เพียงพอแล้ว

เรื่องนี้ในที่สุดมันก็ดูเหมือนว่าจะผ่านไปแล้วเสียที บุรินทร์กับธีภพแล้วก็ไรยาในช่วงนี้ก็ไม่ได้มาหาเรื่องวุ่นวายอะไรกับสาริศาอีก สาริศาเองก็พักผ่อนไปอย่างสบายอารมณ์เช่นกัน

ถูกธนพัตบังคับให้พักอยู่ที่บ้านสักสองสามวัน ในฐานะที่เป็นนักข่าวคนหนึ่ง วิธีการฆ่าเวลาที่เหลืออยู่ของสาริศาก็เหลือเพียงแค่ไถทวิตเตอร์เล่นไปเท่านั้น

บุรินทร์ต้องทนกับความไม่พอใจที่ไม่อาจระบายออกไปได้จากทางธนพัตกับสาริศามามากพอแล้ว คิดว่าตำแหน่งที่เดิมทีได้มาอย่างง่ายดาย เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็หายไปเสียแล้ว บริษัทลูกเหล่านี้ของตนต่างก็ใกล้จะล้มละลายไปเต็มทีแล้ว เป็นเหตุให้เขาต้องเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารโดยด่วนเพื่อมารักษาเสถียรภาพทางตลาดและใจของเหล่าผู้คนเอาไว้ให้ได้

นี่คาดว่าคงอาจจะนับได้ว่าเป็นลางสังหรณ์ก่อนที่ธนพัตจะเริ่มกระทำการลงไปด้วยล่ะมั้ง

บุรินทร์รู้สึกว่าธนพัตเหมือนกับงูพิษที่ได้ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า พรางตัวรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสีของธรรมชาติ เฝ้าสังเกตบุรินทร์อยู่ในที่ลับตา รอตอนที่เขาเผลอไป จู่ ๆ ก็ได้โผล่มาโจมตีเขาให้ถึงตาย

คิดมาถึงตรงจุดนี้แล้ว บุรินทร์รู้สึกแค่เพียงว่าแผ่นหลังมันได้อาบไปด้วยเหงื่อเย็น เกิดความรู้สึกบางอย่างที่จะทำอะไรก็ตื่นตระหนกไปหมด ความรู้สึกที่ไม่สบายไปทั่วทั้งร่าง

ลางสังหรณ์ของบุรินทร์ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลไปเลย

บุรินทร์กำลังพูดไปถึงจุดไคลแม็กซ์ ประตูทางเข้าห้องประชุมจู่ ๆ ก็ถูกเปิดเข้ามา

ผู้ที่นำเข้ามาก็คือชรัณที่กำลังเข็นธนพัตอยู่

บุรินทร์ตื่นตกใจไปหมด โกรธเคืองเป็นอย่างมากขึ้นมาโดยทันที นี่หรือว่าธนพัตจะไม่ให้เวลาให้เขาได้หายใจหายคอกันเลยงั้นเหรอ?

เพื่อการปิดซ่อนความตื่นกังวลภายในใจของตนเอาไว้ ไม่ให้คณะกรรมการบริหารคิดว่าเขาไร้ความสามารถ บุรินทร์ตบโต๊ะไปทีนึง ลุกขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว แล้วพูดเสียงเย็นออกมา “ธนพัตนายมาทำไมกัน! พวกเรากำลังประชุมกันอยู่ นายทำอย่างนี้ลงไปมันช่างไร้มารยาท! ถึงแม้ว่าพวกเราจะเป็นลูกหลานของตระกูลกีรติเมธานนท์ด้วยกันทั้งคู่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่านายในฐานะที่เป็นประธานบริหารของบริษัทอื่น จะสามารถมาเข้าออกตามใจชอบ เพื่อมาแอบฟังข้อมูลได้หรอกนะ”

ได้ยินบุรินทร์พูดออกมาอย่างนี้แล้ว ในหมู่คณะกรรมการบริหารหลายท่านที่เดิมทีแล้วสนับสนุนบุรินทร์ คณะกรรมการบริหารที่เกลียดชังธนพัตก็ได้พยักหน้าอย่างชื่นชมออกมาทันที แล้วก็พูดสนับสนุนเขาออกมา

บุรินทร์พอเห็นว่าหางเสือที่คอยควบคุมทิศทางของคณะกรรมการบริหารต่างก็มาอยู่ฝั่งตนกันทั้งนั้น ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ภายในใจก็ได้ร่วงหล่นลงมา ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แล้วก็วางแผนที่จะรอให้ธนพัตหน้าแตกอยู่เงียบ ๆ

ชรัณที่อยู่ข้างกันก็แทบจะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว

พวกคนคร่ำครึกลุ่มนี้ ตาบอดกันไปแล้วเหรอ? ทั้ง ๆ ที่ธนพัตยอดเยี่ยมกว่าแท้ ๆ แต่พวกเขากลับยอมที่จะคว้าบุรินทร์ที่ค่อนข้างจะควบคุมได้ง่ายกว่า และก็ไม่ยอมเชื่อฟังธนพัตที่ดีกว่ากันเลยด้วย

ชรัณเดือดพล่านขึ้นมา แต่ธนพัตเหมือนกับว่าจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่พูดออกไปนิ่ง ๆ ว่า “ฉันได้รับหุ้นครึ่งนึงของกีรติเมธานนท์กรุ๊ปมาแล้ว หรือว่าจะไม่มีสิทธิ์มาเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารเลยงั้นเหรอ?”

พอพูดคำพูดนี้ออกไปแล้ว สมาชิกของคณะกรรมการบริหารหลายคนในที่แห่งนั้นต่างก็ได้เปลี่ยนสีหน้ากันไปหมด

แต่ธนพัตกลับไม่ได้สนใจพวกเขาเลย เพียงแค่ไถรถเข็นไปที่ข้าง ๆ บุรินทร์ มองดูแผนการบริหารที่เขาเพิ่งแจกออกไปเมื่อครู่นี้ กวาดตามองไปอย่างรวดเร็ว หัวเราะเยาะหยันออกมาเบา ๆ “แผนนี้ของพี่บุรินทร์ ฟังไปแล้วมันก็สมบูรณ์แบบมาก เพียงแต่ว่า...มันใช้ไม่ได้เลยสักนิด”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ