หลังจากสูดหายใจเข้าลึกหลายครั้ง สาริศาบอกตัวเองในใจ “ธนพัตบอกว่าพชิราเป็นเพียงอดีตไปแล้ว และตอนนี้เขาชอบเธอ สาริศา เธอต้องเชื่อคำพูดของธนพัต อย่าหวั่นไหว เพราะคำพูดของคนอื่น เธอลืมเรื่องครั้งที่แล้วไปแล้วหรือไง...”
หลังจากทำการพูดย้ำเตือนตัวเองแล้ว สาริศศระงับความไม่สบายใจและความโกรธในใจของเธอไว้
หลังจากหันไปมองโทรศัพท์ที่เพิ่งโยนทิ้งลงบนเตียง สาริศาก็ระวังเท้าของเธอ ก่อนจะคลานไปอย่างยากลำบาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและคิดจะกดปิดเครื่อง เธอไม่อยากเห็นความคิดเห็นไร้สาระพวกนั้น
เพิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สาริศาก็เห็นว่าบนหน้าจอโทรศัพท์มีภาพของธนพัตที่กำลังกอดพชิราไว้ แล้วจุมพิตหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนด้วยรอยยิ้ม บนรูปภาพมีข้อความเขียนไว้ว่า “คุณชายรองของตระกูลกีรติเมธานนท์ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อจัดงานฉลองวันเกิดให้แฟนสาวอย่างโรแมนติก”
สาริศาเลื่อนลงมาเพื่ออ่านเนื้อหา ที่แท้ ก็เป็นรูปภาพวันเกิดของพชิราในอดีตที่เขาจองร้านอาหารเพื่อเธอเป็นพิเศษ
ในวันนั้นตลอดทางเดินของร้านอาหารโปรยด้วยกลีบดอกกุหลาบ บริเวณบนโต๊ะกับหน้าต่างล้วนแต่ถูกตกแต่งด้วยช่อดอกกุหลาบสีชมพูและสีแดงสด บริเวณกลางร้านถูกดอกกุหลาบจำนวนเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกจัดวางเป็นรูปหัวใจขนาดใหญ่
รูปภาพนี้ถูกถ่ายตรงหน้าดอกกุหลาบรูปหัวใจ ในตอนนั้นเรื่องนี้ตกเป็นข่าวดังอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก
พอเห็นความรักที่ธนพัตมีต่อพชิราในรูปภาพ สาริศาก็รู้สึกว่ารอยยิ้มของพวกเขาช่างเจิดจ้าจนแสบตา ในใจเหมือนถูกเข็มนับพันทิ่มแทง จนรู้สึกเจ็บปวดไปหมด
ธนพัตจะลืมพชิราได้จริงๆ เหรอ? การปรากฏตัวของพชิราจะเป็นเหมือนที่ธนพัตพูด จะไม่ส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาจริงหรือเปล่า?
เธอพยายามปลอบใจตัวเองให้เชื่อคำพูดของธนพัต แต่สาริศาไม่สามารถให้คำตอบในเชิงบวกกับตัวเองได้เลย
สาริศาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านหลายวัน เพราะอาการบาดเจ็บที่เท้าของเธอ ธนพัตไม่ยอมให้เธอไปทำงาน และทำการโทรไปลางานที่สำนักพิมพ์ให้เธอแล้วด้วย
ชีวิตประจำวันของเธอกับธนพัตเหมือนจะกลับสู่ความสงบอีกครั้ง ตื่นนอนด้วยกัน ล้างหน้าแปรงฟันด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน แล้วฑนพัตก็ไปทำงาน เธออยู่บ้านทำอาหารโปรดรอเขากลับมา
ธนพัตไม่เคยพูดถึงพชิราให้เธอได้ยิน และสาริศาเองก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้ เหมือนคนคนนี้ไม่เคยปรากฏตัวในชีวิตของพวกเขา
ทุกอย่างกลับสู่ความปกติ แต่สาริศากลับรู้สึกไม่สบายใจ เรื่องราวจะจบลงแบบนี้จริงๆ เหรอ?
ในวันนี้ ตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากพชิรา สาริศาก็รู้สึกหนักใจเล็กน้อย เธอมองโทรศัพท์ที่กำลังกะพริบ ไม่รู้ว่าจะรับสายดีหรือเปล่า
“ฮัลโหล” สุดท้ายนิ้วมือของสาริศาก็เลื่อนไปที่ปุ่มรับสาย
“ริศา นี่ฉันเองนะคะ” เสียงหวานของพชิราดังออกมาทางโทรศัพท์ “วันนี้ฉันอยากไปช้อปปิ้ง คุณพอจะมีเวลาไปกับฉันไหม”
“ฉัน...” สาริศาไม่อยากตอบรับ แต่เธอกลับหาข้อแก้ตัวในการปฏิเสธไม่ได้ แล้วอีกอย่าง เธอยังโกหกคนอื่นไม่เก่งด้วย หรือว่า เธอจะบอกว่าเท้าของเธอยังไม่หายดี ยังไปช้อปปิ้งไม่ได้ดี?
“จริงสิ ริศา เท้าของคุณเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ายังไม่หายดี ฉันจะไปเยี่ยมคุณที่บ้านดีไหม” ในขณะที่สาริศากำลังคิดว่าจะใช้อาการบาดเจ็บที่เท้าของเธอเป็นข้ออ้างดีหรือไม่ พชิราก็ถามคำถามนี้ออกมา
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้อง เท้าของฉันหายดีแล้วค่ะ” บ้านนี้เป็นของเธอกับธนพัต สาริศาไม่อยากให้พชิรามาที่นี่
“อ๋อ” พชิราพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ “แต่เขาก็ควรให้คนมาส่งคุณนะคะ คุณออกมาคนเดียวแบบนี้ เขาวางใจได้ยังไงกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันออกมาทำข่าวบ่อยๆ แล้วเดี๋ยวเราจะไปไหนต่อคะ” สาริศารีบเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากคุยเรื่องของธนพัตกับเธอต่อ
พชิราดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าตอนที่เธอพูดถึงธนพัต สีหน้าของสาริศาจะไม่ค่อยดี เธอจึงถามออกไปโดยตรงว่า “ริศา คุณติดใจเรื่องฉันกับธนพัตในอดีตใช่ไหม”
พอได้ยินคำถามที่ตรงชัดของพชิรา สาริศาก็เริ่มลังเลและไม่รู้จะตอบยังไง
พอเห็นสาริศาไม่ตอบ พชิราก็รับประกันอย่างแน่วแน่ “คุณวางใจได้ค่ะ ฉันไม่มีวันจะเป็นมือที่สามแน่นอน ในเมื่อพวกคุณแต่งงานกันแล้ว ฉันจะไม่เข้าไปแทรกแซงอย่างแน่นอน”
“แล้วอีกอย่าง ฉันมีคุณสมบัติดีพร้อมแบบนี้ แถมหน้าตาก็สวย ในอนาคตอยากได้ผู้ชายแบบไหนหาไม่ได้บ้าง” พชิราพูดติดตลก “ดังนั้นคุณวางใจได้ค่ะ ถึงแม้ธนพัตกับฉันจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมาก แต่ฉันจะไม่เข้าไปแทรกแซงชีวิตการแต่งงานของพวกคุณอย่างแน่นอน ฉันไม่ใช่คนไร้ยางอายแบบนั้น”
“คุณคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้วค่ะ” พอเห็นสีหน้าท่าทางที่จริงใจของพชิรา สาริศาก็สงสัยตัวเองว่าก่อนหน้านี้ตนเองเข้าใจเธอผิดไปหรือเปล่า? “คุณต้องได้เจอกับคนที่รักคุณมากกว่านี้แน่นอนค่ะ”
“แน่นอนค่ะ” พชิรายกยิ้ม “เอาล่ะ เราไม่พูดถึงเขาแล้วดีกว่า วันนี้เราเที่ยวกันให้สนุก เดี๋ยวคุณอยากไปเที่ยวที่ไหนก่อน มีสถานที่ที่คุณอยากไปเที่ยว หรือสถานที่ที่คุณอยากไปมากไหม”
“ไปที่ไหนก็ได้ค่ะ เอาที่คุณคิดเลย” แน่นอนว่าสาริศาเองก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องธนพัตกับพชิราต่อเช่นกัน
“อย่างนั้นเหรอ” พชิรานิ่งคิดอยู่สักพัก “ถ้าอย่างนั้นเราไปที่ห้างสรรพสินค้าที่ธนพัตเคยพาฉันไปดีไหมคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...